‘Black Adam’ ภาพยนตร์ล่าสุดในแฟรนไชส์ DCEU (DC Extended Universe) สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการติดอันดับ 1 บนบ็อกซ์ออฟฟิศสหรัฐฯ เป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน โดยเก็บรายได้เพิ่มไปอีก 18.5 ล้านเหรียญ (ลดลง 33% จากเมื่อสัปดาห์ก่อน) ทำให้รายได้รวมในสหรัฐฯ นั้นอยู่ที่ 137.7 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 5,150 ล้านบาท
รายได้ดังกล่าวเทียบได้กับภาพยนตร์ของ ดเวย์น จอห์นสัน (Dwayne Johnson) ก่อนหน้านี้อย่าง ‘Fast & Furious Presents: Hobbs & Shaw’ (2019) ที่กวาดรายได้รวมในสหรัฐฯ ไป 174 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 6,500 ล้านบาท
ในส่วนของรายได้ทั่วโลกนั้นอยู่ที่ 319.7 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 11,960 ล้านบาท ซึ่งยังไม่น่าประทับใจนักเมื่อเทียบกับทุนสร้างกว่า 200 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 7,500 ล้านบาท แต่ก็มิได้ถือว่าน่าผิดหวังแต่อย่างใด
คู่แข่งสำคัญของ ‘Black Adam’ ในสัปดาห์นี้คือ ‘One Piece: Red’ ซึ่งเปิดตัวที่ตลาดสหรัฐฯ ในอันดับที่ 2 ด้วยรายได้ 9.5 ล้านเหรียญ ภายหลังจากกวาดรายได้ที่ประเทศญี่ปุ่นไปถึง 120 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 4,500 ล้านบาท อยู่ในอันดับที่ 9 ของภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลของญี่ปุ่น
‘One Piece: Red’ เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของความพยายามขยายตลาดอนิเมะมายังสหรัฐฯ นับตั้งแต่ ‘Pokémon: The First Movie – Mewtwo Strikes Back’ เมื่อปี 1999 ที่ถือครองสถิติเปิดตัวสูงสุดและทำรายได้สูงสุดในตลาดสหรัฐฯ อยู่ที่ 31 ล้านเหรียญ (ประมาณ 1,160 ล้านบาท) และ 85.7 ล้านเหรียญ (ประมาณ 3,200 ล้านบาท) ตามลำดับ ต่อเนื่องมาถึงเมื่อไม่นานมานี้อย่าง ‘Demon Slayer the Movie: Mugen Train’ (2020) และ ‘Dragon Ball Super: Super Hero’ (2022) ที่ล้วนแล้วแต่ทำรายได้เปิดตัวสูงกว่า 20 ล้านเหรียญทั้งสิ้น
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส