คำเตือน: เนื้อหาต่อไปนี้มีการพูดถึงการทำร้ายร่างกายตัวเอง การฆ่าตัวตาย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อจิตใจได้
อย่างที่ทราบกันดีว่า แอนเจลีน่า โจลี่ (Angelina Jolie) ไม่เคยพยายามที่จะปกปิดเรื่องราวในอดีต สมัยยังเป็นวัยรุ่นที่เธอเคยตกเป็นทาสของสารเสพติดและการทำร้ายร่างกายกายตัวเองเนื่องจากปัญหาความสัมพันธ์ในครอบครัว แต่คงไม่มีใครคาดคิดว่าเธอจะไปสุดจนถึงขั้นการจ้างนักฆ่าให้มาสังหารตัวเธอเอง!
จุดเริ่มต้นของเรื่องราวชวนหดหู่เริ่มขึ้นที่ หลังเด็กน้อยหน้าตาน่ารักนาม แอนเจลีน่า โจลี่ เกิดมาได้ไม่กี่ปี พ่อและแม่ของเธอก็ฟ้องหย่ากัน จากปัญหาเชิงชู้สาวของผู้เป็นพ่อ ทำให้โจลี่ต้องเติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่มีเพียงแม่และพี่ชาย และไม่บ่อยนักที่เธอจะได้ใช้เวลาร่วมกับผู้เป็นพ่อ นั่นจึงทำให้เธอมักจะรู้สึกโดดเดี่ยวอยู่เสมอ
เมื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น โจลี่ก็เริ่มแสดงพฤติกรรมที่แปลกประหลาดมากขึ้น แยกตัวออกมาจากเพื่อน ๆ และไม่เข้าสังคม จนนานวันเข้าระยะห่างระหว่างเธอกับพ่อก็เริ่มส่งผลให้เธอรู้สึกเครียดและโดดเดี่ยวมากขึ้น จนเธอหันมาใช้มีดกรีดไปตามร่างกายของตัวเองเพื่อระบายความเครียด และยืนยันว่าเธอยังคงมีชีวิตอยู่
ในภายหลังโจลี่ได้ให้เหตุผลของการทำร้ายร่างกายตัวเองว่า “ด้วยเหตุผลบางอย่าง การใช้มีดกรีดตัวเองและยังรู้สึกถึงความเจ็บปวด มันทำให้ฉันรู้สึกได้ถึงการมีชีวิต”
แน่นอนว่าการทำร้ายตัวเองไม่ได้ทำให้ปัญหาหายไป เธอจึงเลือกใช้สิ่งที่จะสามารถพาเธอหลบหนีจากความเป็นจริงแม้เพียงชั่วคราวอย่างการใช้สารเสพติด ‘เกือบทุกชนิด’ และนั่นทำให้ทุกอย่างแย่ไปกว่าเดิม เมื่อพ่อรู้เรื่องการใช้สารเสพติด พ่อก็หันหลังให้เธอ และเธอก็กลายเป็นเด็กนอกคอกในสายตาของเขา เมื่อเป็นเช่นนั้น เธอจึงใช้สารเสพติดอย่างบ้าคลั่งและหมกมุ่นกับมันมากกว่าเดิม
และเมื่อ ‘มัน’ ไม่สามารถช่วยเธอหนีจากความจริงได้อีกต่อไป เธอจึงคิดแผนการที่จะสามารถพาเธอหลุดพ้นจากความเครียดและความจริงได้ตลอดกาลขึ้นมา ในตอนนั้นโจลี่ที่มีอายุเพียง 22 ปี ได้วางแผนที่จะกดเงินสดสักก้อนออกมาเพื่อใช้จ้างใครสักคนให้มาสังหารตัวเธอเอง
“ฉันรู้ดีว่าผู้คนมากมายที่อยู่รอบตัวฉัน อย่าง แม่ พอรู้ว่าฉันฆ่าตัวตาย พวกเขาก็อาจจะรู้สึกว่ายังไม่ได้ทำหรือยังทำได้ไม่เพียงพอ ดังนั้นวิธีการแก้ปัญหาของฉันก็คือ การมีใครสักคนมาปลิดชีวิตของฉัน เช่น ‘การปล้น’ นั่นก็จะกลายเป็นการฆาตกรรม และไม่มีใครต้องมารู้สึกว่าพวกเขาทำให้ฉันผิดหวัง” นี่คือเหตุผลที่วันรุ่นคนหนึ่งคิดได้ในตอนนั้น
แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นไปตามที่เธอวางแผนเอาไว้ เพราะแทนที่ใครคนนั้นจะตอบตกลงข้อเสนอของเธอ คน ๆ นั้นกลับเกลี้ยกล่อมให้เธอเลิกคิดจะจ้างเขาและบอกให้เธอใช้ชีวิตต่อไป “เขาเป็นคนดีมากคนหนึ่ง เขายังบอกฉันว่าถ้าฉันคิดได้ค่อยโทรหาเขาอีกครั้งในสองเดือนให้หลัง” ทำให้หลังจากนั้นเพียงไม่นานเธอก็เริ่มคิดได้ และตัดสินใจที่จะล้มเลิกสิ่งที่คิดเอาไว้ แล้วเริ่มค้นหาความหมายของชีวิต
แม้สภาวะป่วยทางจิตใจที่เธอเผชิญจะต้องอาศัยระยะเวลาในการบำบัดนานหลายปี แต่เธอก็ไม่ย่อท้อและให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ จนในทุกวันนี้เธอสามารถยอมรับได้อย่างเต็มปากว่า หลังจากที่เธอสามารถจัดการกับอาการ PTSD (Post-Traumatic Stress Disorder เป็นโรคจิตเภทชนิดหนึ่งที่เกิดจากสภาวะจิตใจของผู้ป่วยได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงจากเหตุการณ์เลวร้าย) ของเธอได้ ชีวิตของเธอก็กลับมามีความสุขมากขึ้น
โจลี่ให้สัมภาษณ์กับ CNA ช่วงโปรโมต ‘Eternals’ ว่า “ตอนนี้ฉันมีชีวิตที่มีความสุขมากขึ้น แต่ก็ยังมีความท้าทายกับตัวเองอย่าง ฉันเคยเป็น PTSD คุณมักจะรู้สึกพังทลาย สงสัยว่าตัวเองมีอะไรดี และกังวลว่าตัวเองจะปกป้องดูแลคนที่รักได้ไม่ดีพอ”
ซึ่งหลังจากที่เธอสามารถหลุดพ้นจากสภาวะ PTSD ได้ เธอก็เริ่มหันมาทำงานเพื่อสังคมมากขึ้น เช่น การเป็นตัวแทนของ UNHCR เดินทางเยี่ยมผู้อพยพทั่วโลก และเดินหน้าขับเคลื่อนช่วยเหลือผู้คนอย่างเต็มที่ จนกลายมาเป็นโจลี่ที่เราได้รู้จักกันในปัจจุบัน
ที่มา: LADbible, Far Out, Koimoi
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส