ครั้งหนึ่ง เย (Ye) หรือ คานเย เวสต์ (Kanye West) แรปเปอร์ และแฟชันดีไซน์เนอร์ชื่อดัง เคยเป็นหนึ่งในไอคอนของวัฒนธรรมบันเทิงของสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกไปด้วยในเวลาเดียวกัน สิ่งที่เป็นรูปธรรมที่สุดก็น่าจะเป็นการที่ใบหน้า คำพูด และกราฟิกต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับเขากลายมาเป็นรอยสักที่แฟนตัวยงจากทั่วโลกเลือกที่จะสักบนร่างกาย จนเกิดเป็นเทรนด์ #Kanyetattoo บน Instagram
แต่ก็อย่างที่ทราบกันดีว่า ชีวิตและข่าวคราวช่วงหลัง ๆ ของพี่เย ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นเพราะปากพาซวยแทบทั้งสิ้น เพราะที่ผ่านมา พี่เยมักจะแสดงความคิดเห็นและโพสต์แสดงออกตามแนวคิดขวาจัดแบบดุดันไม่เกรงใจใคร ลุกลามกลายเป็นกระแสแบนคานเย จนแบรนด์ชั้นนำ และพันธมิตรทางธุรกิจนับสิบราย ต่างก็ออกมาประกาศยุติความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับแรปเปอร์รายนี้ ส่วนชาวเน็ตก็ปลุกกระแสเทรนด์ #DropKanye บน Twitter
ขนาดสตูดิโอลบรอยสักในอังกฤษ ก็ยังขอร่วมขบวนแบนนี้ด้วย โดยเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นาอามา สตูดิโอ (Naama Studios) บริษัทเจ้าของเทคโนโลยีลบรอยสักแห่งกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ได้โพสต์คลิปโปรโมตบน Instagram เพื่อโปรโมตแคมเปญที่มีชื่อว่า ‘Yeezy Come, Yeezy Go’ ซึ่งเป็นการเสนอโปรแกรมแก่ผู้ที่มีรอยสักรูป คานเย เวสต์ บนร่างกาย และรู้สึกผิดหวังกับแนวคิดของเขา สามารถมาเข้ารับบริการลบรอยสักรูปของแรปเปอร์รายนี้ได้แบบฟรี ๆ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ
โดย ไบรโอนี การ์เบตต์ (Briony Garbett) ผู้บริหารของ Naama Studios ได้กล่าวถึงแคมเปญนี้ว่า หลังจากที่ประกาศแคมเปญนี้ออกไปแล้ว ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก ๆ ซึ่งเธอกล่าวว่า “เหมือนมีแฟนคลับเก่าสองสามคนที่รู้สึกผิดที่มีรอยสัก” และเธอได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ มีลูกค้า 3 รายที่เข้ารับบริการลบรอยสักรูปพี่เยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีลูกค้าที่ลงทะเบียนจองคิวเพื่อขอเข้ารับคำปรึกษาอีกนับสิบราย
โดยตัวเครื่องมือนี้จะทำการยิงเลเซอร์ลงบนผิวหนังซ้ำหลาย ๆ ครั้งเพื่อปล่อยคลื่นแสงที่มีอานุภาพเข้มข้น เข้าไปสลายหมึกสักที่อยู่บนชั้นผิวหนัง หมึกจะแตกตัวกระจายออกเป็นโมเลกุลเล็ก ๆ ที่ร่างกายสามารถกำจัดหมึกเหล่านี้ออกไปได้ ทำให้รอยสักดูจางลง ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับสีที่ใช้สัก ความลึกของเข็ม ความเข้มของการสัก และระยะเวลาของรอยสัก ซึ่งกระบวนการลบรอยสักอาจต้องใช้ระยะเวลานานหลายเดือน เนื่องจากต้องทำซ้ำ ๆ ประมาณ 10 ถึง 15 ครั้ง เพื่อให้ได้ผลที่น่าพอใจ
ซึ่ง 1 ใน 3 ลูกค้าที่เข้ารับการลบรอยสักนี้ก็คือ อเล็กซ์ โจนส์ (Alex Jones) อดีตแฟนเพลงตัวยงของเย วัย 25 ปี ซึ่งเขามีรอยสักที่แขนเป็นรูปหมี ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากหน้าปกอัลบั้ม ‘My Beautiful Dark Twisted Fantasy’ ของเย ที่วางแผงในปี 2010 จนเมื่อมีข่าว โจนส์ก็เลยทวีตวิจารณ์แรปเปอร์คนดังอย่างหัวเสียว่า “ผมมีรอยสักที่เกี่ยวกับคานเยตั้งแต่ปี 2016 และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาก็กลายเป็นไอ้เชี่-ห่วยแตกที่สุดในโลก”
เขาได้ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Metro ว่า “ผมไม่เคยคิดจริง ๆ นะครับว่าจะลบรอยสักออก แต่ผมทวีตเกี่ยวกับรอยสักนี้แบบขำ ๆ แล้วบริษัทก็ติดต่อหาผมและเสนอว่าจะลบรอยสักให้ฟรี ๆ มันเป็นอะไรที่น่าหดหู่จริง ๆ นะ ที่ได้เห็นคนที่คุณเคยชื่นชอบ คนที่เคยเป็นฮีโรของคุณพูดจาห่วยแตก นี่มันเป็นอะไรที่โคตรจะเศร้าเลย”
และแฟนคลับอีกคนของแรปเปอร์รายนี้ก็ได้เปิดเผยผ่านเว็บไซต์ Naama Studios ว่า เธอเลือกสักรูปของเย และเนื้อเพลงจากเพลงของเขาเป็นครั้งแรกในชีวิต แต่กลายเป็นว่าแรปเปอร์รายนี้กลับมีข่าวไม่เว้นแต่ละวัน และเขาก็มักจะพูดแต่เรื่องที่เธอไม่เห็นด้วย นั่นจึงทำให้เธอรู้สึกอึดอัดกับรอยสักขนาดใหญ่ที่ลบได้ยากมากจนแทบไม่มีความหวัง
โครงการกำจัดรอยสักรูปพี่เยนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ‘Second Chances’ ซึ่งเป็นโครงการช่วยเหลือสังคมของบริษัทที่มีอยู่แล้ว เป็นโครงการที่ช่วยอาสาลบรอยสัก สำหรับลูกค้าที่มีรอยสักที่ไม่พึงประสงค์ เพื่อมอบ ‘โอกาสที่สอง’ สำหรับคนที่ไม่ต้องการรอยสักของตัวเองอีกต่อไปโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ซึ่งปกติแล้ว การลบรอยสักจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 2,000 ปอนด์ หรือ 2,456 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (84,xxx บาท) ขึ้นอยู่กับขนาดและจำนวนครั้งของการรักษา
การ์เบตต์ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “เราเข้าใจดีว่า รอยสักสามารถทำให้เจ้าของบางคนรู้สึกไม่ดีได้ และคงไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถลบรอยสัก เมื่อคุณมีรอยสักที่ได้รับแรงบันดาลใจจากคนที่คุณชื่นชม และพวกเขาเริ่มมีข่าวที่ไม่ดี มันคงไม่ใช่เรื่องที่คุณจะอยากสักบนแขนเพื่อบอกว่าคุณเป็นแฟนตัวยงของเขา ด้วยเหตุนี้ เราจึงต้องการช่วยเหลือผู้ที่มีรอยสักที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก คานเย เวสต์ ที่รู้สึกอับอาย ด้วยการเสนอการรักษาแบบฟรี ๆ สำหรับแฟน ๆ ในสหราชอาณาจักรที่ต้องการจะลบรอยสักออก”
ปี 2022 ที่ผ่านมาเรียกว่าเป็นปีที่เยแสดงออกถึงแนวคิดขวาจัดแบบสุดโต่งมากที่สุดแบบไม่กลัวกระแสตีกลับและไม่เกรงกลัวทัวร์ลงใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งการแซะเกี่ยวกับประเด็นสีผิว การแสดงความคิดเห็นในเชิงต่อต้านชาวยิว จนทำให้บัญชี Instagram และ Twitter ส่วนตัวของเขาต่างก็โดนแบน เลยเป็นที่มาที่ทำให้เข้าเจรจาซื้อกิจการโซเชียลมีเดียทางเลือก ‘Parler’ ก่อนที่ดีลจะล่มไปอย่างรวดเร็ว ยังไม่นับรวมพฤติกรรมประหลาด ๆ บนโซเชียลมีเดียอีกหลายครั้ง
จนทำให้เขาโดนแบรนด์ระดับโลกตัดสัมพันธ์ไปแล้วนับสิบ ทั้ง อาดิดาส (Adidas), บาเลนเซียกา (Balenciaga), แกป (Gap) เป็นต้น รวมทั้งบริษัทตัวแทนเอเจนซียักษ์ใหญ่ของฮอลลีวูด CAA (Creative Artists Agency) ที่ประกาศยกเลิกสัญญาระหว่างเขากับบริษัทในทันที หรือแม้แต่พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ (Madame Tussauds) ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ก็ประกาศรื้อถอนหุ่นของเยออกจากการจัดแสดงไปเรียบร้อยแล้ว
แถมล่าสุด เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม เขายังให้สัมภาษณ์ (ในลุคคลุมผ้าดำ) ในรายการพอดแคสต์ชื่อดัง ‘InfoWars’ ด้วย ซึ่งเขาได้กล่าวชื่นชมอดีตผู้นำรัฐบาลนาซีผู้สั่งล้างบางชาวยิวอย่าง อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ (Adolf Hitler) โดยเขาได้กล่าวว่า ฮิตเลอร์นั้นก็มีข้อดีอยู่เหมือนกัน และเขาก็รักทั้งชาวยิว และนาซีเท่า ๆ กัน แม้ว่าโฮสต์จะคอยตะล่อมตอนระหว่างพักเบรกว่า คงไม่ได้หมายความว่าจะชื่นชอบนาซีหรือฮิตเลอร์ล่ะมั้ง แต่แรปเปอร์รายนี้ดันพูดโพล่งออกมาว่า “ผมชอบฮิตเลอร์” เสียอย่างนั้นแหละ
ที่มา : The Washington Post, Billboard, CNN, Metro
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส