หลังจากที่ The Hollywood Reporter ได้รายงานว่า โปรเจกต์หนังภาคต่อ ‘Wonder Woman 3’ หนังเดี่ยวภาคที่ 3 ของวันเดอร์วูแมน (Wonder Woman) นั้นจะไม่ได้ไปต่อ เนื่องจากตัวหนังนั้นไม่ตรงกับทิศทางของ DC Studios ในอนาคตที่ผู้บริหาร เจมส์ กันน์ (James Gunn) และ ปีเตอร์ ซาฟราน (Peter Safran) ได้วางเอาไว้ล่วงหน้าเป็นระยะเวลา 5 ปี และแผนที่จะเกิดขึ้นในอนาคตหลังจากนั้นด้วย

Wonder Woman 1984

The Hollywood Reporter ยังได้รายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ของ DC ในขณะนี้เพิ่มเติมด้วยว่า สถานการณ์ของภาพยนตร์ภายใต้ DC Studios หลังจากการรายงานแผนของผู้บริหารนั้นอาจเกิดขึ้นได้หลายอย่าง โดยเฉพาะข่าวการยกเลิก ‘Wonder Woman 3’ นั้น ถือเป็นนัยสำคัญที่บ่งบอกว่า DCU กำลังจะปิดม่านจักรวาลของสไนเดอร์ (Snyderverse) ของผู้กำกับ แซ็ก สไนเดอร์ (Zack Snyder) อย่างเป็นทางการ โดยภาพยนตร์ตามแนวทาง Snyderverse เรื่องสุดท้ายที่จะเข้าฉายคือ ‘Aquaman and the Lost Kingdom’

Black Adam

สถานการณ์หนังเรื่องอื่น ๆ ก็ดูจะมีความไม่แน่นอนด้วยเช่นกัน อาทิ ‘Black Adam’ ที่เพิ่งเข้าฉายเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งแม้นักแสดงนำอย่าง ดเวย์น จอห์นสัน (Dwayne Johnson) จะออกมาทวีตแย้งรายงานของ Variety ที่รายงานข่าวว่า ตัวหนังขาดทุน 50-100 ล้านเหรียญ ว่าแท้ที่จริงแล้ว ตัวหนังยังทำกำไรที่ 52 – 75 ล้านเหรียญ รวมรายได้ทั่วโลก 384 ล้านเหรียญ แต่นั่นก็เรียกได้ว่าแค่แตะเส้นจุดคุ้มทุน (จากทุนสร้าง 190–230 ล้านเหรียญ) เท่านั้น ทำให้ ‘Black Adam’ สุ่มเสี่ยงที่จะไม่ได้สร้างภาค 2 ต่ออย่างค่อนข้างที่จะแน่นอน

superman Henry Cavill

ในขณะที่ ‘Man of Steel 2‘ ที่มีข่าวว่ากำลังจะสร้าง โดยได้ เฮนรี คาวิลล์ (Henry Cavill) กลับมาเป็น​ Superman อีกครั้ง โดยมีรายงานว่า ขณะนี้ได้มีการเริ่มพัฒนา โดยได้มีการประชุมกับผู้เขียนบทไปแล้ว โดยตั้งใจให้ตัวหนังมีกลิ่นอายที่อ้างอิงมาจากหนัง ‘Superman’ เวอร์ชัน คริสโตเฟอร์ รีฟ (Christopher Reeve) ที่ฉายในปี 1978 และได้ แอนดี มุสชิเอตติ (Andy Muschietti) ผู้กำกับ ‘The Flash’ รับหน้าที่หนึ่งในทีมงานเบื้องหลัง

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า คาวิลล์ได้ไปถ่ายซีน Cameo ฉากของตัวเองในหนังเรื่อง ‘The Flash’ เอาไว้ด้วย แต่ก็ยังไม่มีการตกลงว่าจะใส่ซีนที่ว่านั้นลงไปในหนังด้วยหรือไม่ รวมทั้งผลกระทบจากการยกเครื่องจักรวาลใหม่ ก็อาจทำให้ยังไม่มีแผนว่าจะทำให้ภาคต่อหนังเดี่ยวบุรุษเหล็กนั้นมีทิศทางที่สอดคล้องกับแผนของ DCU ได้อย่างไร ทำให้ในตอนนี้โอกาสที่คาวิลล์จะกลับมารับบทบุรุษเหล็กนั้น ยังถือว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน

Jason Momoa

ส่วนใน ‘Aquaman and the Lost Kingdom’ มีรายงานว่า อาจเป็นหนังเรื่องสุดท้ายที่ เจสัน โมโมอา (Jason Momoa) จะรับบทเป็น Aquaman ซึ่งมีรายงานเพิ่มเติมว่า ทาง DC Studios อาจจะดึงโมโมอาไปรับบทในแฟรนไชส์อื่น ๆ แทน เช่นบทบาท โลโบ (Lobo) แอนตี้ฮีโรนักล่าค่าหัวแห่งห้วงอวกาศของ DC

The Batman

โดยโปรเจกต์ที่ในขณะนี้ยังไม่มีการสั่งระงับแต่อย่างใด นั่นก็คือหนังจักรวาล ‘The Batman’ ของผู้กำกับ แมตต์ รีฟส์ (Matt Reeves) ที่กำลังดำเนินการสร้างภาค 2 รวมทั้งซีรีส์สปินออฟอีก 2 เรื่อง โดยหนึ่งในนั้นคือซีรีส์สปินออฟวายร้าย เดอะ เพนกวิน (The Penguin) รวมทั้งหนังภาคต่อของวายร้าย ‘๋Joker’ ที่กำลังสร้างภาคต่อที่ใช้ชื่อว่า ‘Joker: Folie à Deux’ ที่วางแผนฉายในวันที่ 4 ตุลาคม ปี 2024 ซึ่งก็อาจมีความเป็นไปได้ว่าอาจถูกนำมารวมเข้ากับแผนในอนาคตของ DCU ด้วยเช่นกัน

ภาพยนตร์ The Flash จะเริ่มสร้างในช่วง COVID-19 ระบาด

นอกจากนี้ก็ยังมีความเป็นไปได้ว่า ‘Aquaman’ อาจถูกตัดจบที่ 2 ภาค จากการที่ผู้กำกับ เจมส์ วาน (James Wan) ย้ายไปทำงานกับ ยูนิเวอร์แซล พิกเจอร์ส (Universal Pictures) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่า DC Studios อาจต้องการฉายบรรดาหนังที่ตกค้างจากทีมบริหาร DC ชุดเก่า ทั้ง ‘Shazam! Fury of the Gods’ (ฉาย 17 มีนาคม 2023), ‘Blue Beetle’ (ฉาย 18 สิงหาคม 2023) รวมทั้ง ‘The Flash‘ (ฉาย 23 มิถุนายน 2023) และ ‘Aquaman and the Lost Kingdom’ (ฉาย 21 ธันวาคม 2023) ให้หมดสิ้นก่อนจะเริ่มกระบวนการสร้างจักรวาล DCU ขึ้นมาใหม่ต่อไป


ที่มา: The Hollywood Reporter, IndieWire

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส