อีกจุดเด่นของหนัง ‘Avatar: The Way of Water’ คงหนีไม่พ้นเหล่าพันธุ์ปลาที่มีดุร้ายและใจดีตะมุตะมิ Beartai Buzz ขอรวบรวมข้อมูลเหล่าพันธุ์ปลาบนแพนดอรามาสานต่อความอินของแฟนหนังกัน
อิลลู (Illu)
อิลลู (Illu) สิ่งมีชีวิตคล้ายเต่าทะเลผสมกระเบนที่เชื่อว่าน่าจะเป็นขวัญใจเด็ก ๆ หลายคน โดยชนเผ่าเม็ตคายีนา (Metkayina) จะให้เด็ก ๆ ใช้เจ้าอิลลูในการเดินทางท่องโลกใต้ทะเลเพราะมีความเป็นมิตร ฉลาด เข้ากับคนง่าย โดยลักษณะทางกายภาพของอิลลูจะมีความคล้าย เพลซิโอซอร์ (plesiosaur) สัตว์เลื้อยคลานใต้ทะเลยุคไดโดเสาร์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว ส่วนหัวคล้ายสัตว์เลื้อยคลานในทะเลอย่างเต่ามี 4 ตา ลำคอยาวมีตีนกบ 6 ข้างและหางที่มีความคล้ายคลึงกับหางเสือเรือ จะมีแขนเป็นใบพาย 2 ข้างทำหน้าที่เหมือนเสาอากาศควบคุมทิศทาง ผิวหนังส่วนบนมีสีเข้มแต้มด้วยลายสีสดและมีท้องสีขาว
สกิมวิง (Skimwing)
หากชาวนาวีเผ่าโอมาติคายา (Omatikaya) ชาวป่ามีอิคราน (Ikran) ที่บินได้ เผ่าเม็ตคายีนาก็มีสกิมวิงหรือชูรัค (Tsurak) ปลาที่สามารถกระโดดเหนือน้ำบินได้เป็นพาหนะสำคัญสำหรับนักรบเหมือนกัน โดยลักษณะกายภาพมีลำตัวสีเทามีครีบขนาดใหญ่เป็นสีส้มแต้มดำ 4 ข้างโดยด้านหน้าจะใหญ่กว่าครีบที่หางและสามารถใช้เป็นปีกยกตัวขึ้นเหนือน้ำและบินได้ และแม้บนแพนดอรามีแรงโน้มถ่วงต่ำและมีมวลความกดอากาศสูงแต่เจ้าสกิมวิงก็สามารถบินเหนือผิวน้ำได้โดยที่ส่วนหางของมันยังจุ่มน้ำอยู่
สกิมวิงสามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุด 50 น็อทส์ (92 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) และมีความเร็วคงที่ 35 น็อทส์ (65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ได้เป็นเวลานาน แต่ข้อจำกัดของเจ้าสกิมวิงก็คือไม่สามารถดำน้ำเป็นเวลานาน ๆ ได้ โดยมันจะหายใจผ่านเหงือกในขณะอยู่ใต้น้ำและใช้รูจมูกตรงส่วนหัวหายใจขณะบิน โดยประทังชีวิตด้วยปลาและสัตว์บินได้ตัวเล็ก ๆ ในอากาศ ส่วนปากของมันสามารถเป็นอาวุธได้ในขณะออกรบ
เนลุตซา (Nalutsa)
อาจกล่าวได้ว่านี่คืออสูรแห่งท้องทะเลแพนดอราก็ว่าได้ แต่ช้าก่อน..หากจะคิดว่านี่คือสัตว์ตัวเดียวกับที่ตรงเข้าไปทำร้ายโลอัคในเรื่อง ซึ่งเดี๋ยวเราจะกล่าวถึงในสายพันธุ์ต่อไปนะครับ โดยเนลุตซาเป็นปลาประเภทกินเนื้อสามารถกระโดดขึ้นเหนือน้ำเพื่อจับสัตว์ปีกกินเป็นอาหารได้อาศัยอยู่แถบน้ำตื้นและชายฝั่งของแพนดอรา
เนลุตซาเป็นสัตว์ขนาดใหญ่ความยาวถึง 40 เมตรมีโครงครอบด้านบน 6 แถวคล้ายกระดองเต่าแต่แผ่นใหญ่กว่าแม้จะมีลำตัวคล้ายฉลามแต่มันไม่มีครีบด้านบนทำให้เหยื่อสังเกตเห็นได้ยากและมีตีนกบ 2 ข้างลักษณะงุ้มงอช่วยในการว่ายน้ำมีหางยาวโดยปลายหางมีลักษณะแผ่บานเหมือนใบไม้พื้นผิวขรุขระ ส่วนหัวจะเล็กกว่าลำตัว ในช่องปากมีฟันบนล่างเป็นแถวสั้น ๆ ลักษณะฟันคล้ายคมดาบไว้ฉีกและบดเคี้ยวเหยื่อ ส่วนลักษณะนิสัยในการเลี้ยงลูกจะคล้าย ออก้า หรือวาฬเพชฆาตที่ตัวเมียจะสอนลูก ๆ ของมันในการล่าเหยื่อ
อคูลา (Akula)
สำหรับอคูลาแล้ว แม้จะถิอเป็นญาติกับเจ้าเนลุตซาแต่กลับมีความดุร้ายและว่องไวกว่าเห็น ๆ จนโลอัคต้องเอาชีวิตรอดสร้างความระทึกให้ผู้ชมได้ลุ้นกันแบบอดรีนาลีนสูบฉีด แต่เห็นเป็นสัตว์ดุร้ายแบบนี้ แต่กลับเป็นแรงบันดาลใจด้านวัฒนธรรมสำหรับชนเผ่าเม็ตคายีนาเพราะมีดประจำตัวของชาวเผ่าก็ใช้ฟันของอคูลาเป็นต้นแบบ และสร้อยคอของ โทโนวารี โอโลเอคทานของเผ่าเม็ตคายีนาก็ใช้ฟันของอคูลาเป็นเครื่องประดับอีกด้วย
ทัลคูน (Tulkun)
ทัลคุนคือปลาวาฬแห่งแพนโดรามีลำตัวยาว 91.4 เมตรในขนาดโตเต็มวัยอาศัยอยู่ใกล้ชายฝั่งสามารถหายใจเหนือน้ำได้ ลำตัวมีสีเทาฟ้าเข้มพร้อมลายพาดขวางสีสดตัดกับท้องสีขาว ส่วนหัวมีตา 4 ข้างด้านละ 2 ข้างมีรูปทรงและขนาดที่ต่างกันระหว่างตาดวงใหญ่กับตาดวงเล็กโดยมีลูกตาสีส้ม มีตีนกบ 6 ข้างช่วยในการว่ายน้ำแต่ 2 ข้างหลังจะไปผนวกกับส่วนหางแทน นอกจากนี้ด้วยความที่ทัลคูนเป็นสัตว์ที่มีความเฉลียวฉลาดทั้งด้านคณิตศาสตร์ ดนตรีและภาษาศาสตร์จนถึงขั้นสื่อสารกับชาวนาวีได้แล้ว ส่วนสมองของมันยังถูกมนุษย์หมายหัวดูดสารสกัดไปทำน้ำยาชะลอวัยมูลค่าสูงอีกด้วย
ทัลคูนมีความสำคัญต่อเผ่าเม็ตคายีนามากนอกจากความฉลาดของมันแล้ว ชนเผ่ายังสร้างวัฒนธรรมร่วมด้วยการผูกญาติกับทัลคูนโดยแต่ละครอบครัวจะมีสายสัมพันธุ์กับทัลคูนนับถือกันเป็นพี่เป็นน้อง นอกจากนี้ทัลคูนเองยังมีกฎห้ามการฆ่าสัตว์ตัวอื่นเว้นแต่เพียง พญาคาน ทัลคูนที่ผูกมิตรกับโลอัคถูกเนรเทศออกจากฝูงเพราะดันก่อกรรมผิดกฎกับเหล่าทัลคูนนั่นเอง
ที่มา
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส