นับจากวันที่ ‘Love Actually’ ฉายในปี 2003 ตัวหนังได้เข้าไปอยู่ในลิสต์อะไรต่อมิอะไรเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นหนังหนังรักหรือหนังคริสต์มาสในดวงใจใครหลายคนหรือหรือแม้แต่ลิสต์เบสิคที่สุดอย่างหนังเรื่องโปรดของใครต่อใคร และด้วยต้นธารของการเป็นหนังรักหลากเรื่องราวหรือแนวออมนิบัส (Omnibus) เรื่องแรก ๆ ก็ทำให้เกิดหนังในแนวทางเดียวกันเดินตามออกมา กระทั่งหนังไทยอย่าง ‘ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น’ ก็ยังยอมรับว่าได้แรงบันดาลใจมาจากหนังเรื่องนี้
แต่แน่นอนว่าในวันที่มันออกฉายเมื่อ 19 ปีก่อนในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่มีทั้งหนังฟอร์มยักษ์อย่าง ‘Die Another Day’ หรือหนังเจมส์ บอนด์ภาคสั่งลาเพียร์ซ บรอสแนน (Pierce Brosnan) และยังเป็นช่วงที่หนังหวังชิงรางวัลออสการ์มากมายออกฉายกลับทำให้ ‘Love Actually’ เล็ดรอดจากสายตาคอหนังไปอย่างน่าเสียดาย แม้แต่ตัวผมเองก็ยังได้ชมหนังเรื่องนี้จากดีวีดีซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้ดูรอบเดียวแน่นอน
ดังนั้นจึงนับเป็นโอกาสอันดีที่โรงภาพยนตร์เฮาส์ สามย่านได้ฤกษ์นำ ‘Love Actually’ กลับมาฉายอีกครั้งในวันนี้ (23 ธันวาคม 2565) ต้อนรับเทศกาลคริสต์มาสปี 2022 แต่ความพิเศษที่สุดของการฉายครั้งนี้คือเราจะได้ดูเรื่องราวความรักแบบครบถ้วนครั้งแรก แต่สำหรับหลายคนที่ยังไม่เคยดูหนังมาก่อน เรามาทำความรู้จักบรรดาตัวละครในแต่ละเรื่องกันดีกว่าว่าทำไมเรื่องรักของพวกเขาถึงครองใจคอหนังโรแมนติกมาร่วม 2 ทศวรรษ
David and Natalie
เดวิด (รับบทโดย ฮิวจ์ แกรนต์ Hugh Grant) นายกรัฐมนตรีของอังกฤษที่กำลังเตรียมการต้อนรับการมาเยือนของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา (รับบทโดยบิลลี บ็อบ ธอร์นตัน Billy Bob Thornton) ซึ่งทำให้เขาต้องพบกับนาตาลี (รับบทโดยมาร์ทีน แม็กคัตเชียน Martine McCutcheon) พนักงานดูแลสถานที่น้องใหม่แห่งบ้านหมายเลข 10 (ที่อยู่ของนายกรัฐมนตรี) จากความใกล้ชิดในที่ทำงานสู่ความหวั่นไหวที่เริ่มก่อตัวในใจทั้งคู่โดยมีอุปสรรคสำคัญคือสถานะทางสังคมและชื่อเสียงในฐานะผู้นำประเทศที่ขวางทางพวกเขาอยู่
เกร็ดน่ารู้
- ตอนเปิดเรื่องที่เป็นเสียงฮิวจ์ แกรนต์บรรยายแล้วมีภาพผู้คนในสนามบิน ริชาร์ด เคอร์ติส (Richard Curtis)ผู้กำกับหนังสั่งทีมกล้องเก็บภาพจากสนามบินฮีโธรว์ (Heathrow Airport) เป็นอาทิตย์แล้วขออนุญาติผู้โดยสารและญาติในการขอใช้ฟุตเทจมาตัดต่อในหนัง
- ตัวละครเดวิด ของแกรนต์จะมีความเชื่อมโยงกับตอนของแคเรนที่แสดงโดยเอ็มมา ธอมป์สัน เพราะเดวิดเป็นน้องชายของแคเรน มีฉากที่ทั้งคู่ได้พูดคุยกันผ่านโทรศัพท์และเจอหน้ากันในตอนท้าย
Jamie and Aurélia
เจมี่ (รับบทโดยโคลิน เฟิร์ธ Colin Firth) นักเขียนหนุ่มเจอแฟนสาวสวมเขาแอบแซ่บกับน้องชาย เขาเลยเก็บข้าวของแล้วออกเดินทางไกลถึงประเทศโปรตุเกส และที่นั่นเองเขาก็ได้พบกับออเรเลีย (รับบทโดย ลูเซีย โมนีซ Lúcia Moniz)แม่บ้านสาวชาวโปรตุเกสแต่งตัวทึนทึกแถมยังพูดภาษาอังกฤษไม่ได้มาคอยดูแลความเป็นอยู่ให้เขา จนกระทั่งลมแรงเป็นใจให้เจมี่ได้เห็นด้านที่สวยงามของออเรเลีย แล้วความรักก็ค่อย ๆ สร้างภาษาของทั้งคู่ขึ้นมาเอง
เกร็ดน่ารู้
- ทะเลสาบที่ออเรเลียกับเจมีลงไปว่ายมีความลึกเพียง 18 นิ้วทำให้เฟิร์ธและโมนีซต้องใช้การแสดงแสร้งว่ากำลังว่ายน้ำในทะเลสาบที่ลึกมาก
Juliet, Peter and Mark
งานแต่งงานสุดหวานชื่นระหว่าง จูเลีย กับ ปีเตอร์ (รับบทโดย เคียรา ไนต์ลีย์ (Keira Knightley และ ชวีเทล อีไจโอเฟอร์ Chiwetel Ejiofor) มีมาร์ค (รับบทโดย แอนดรูว์ ลินคอล์น Andrew Lincoln) เพื่อนสนิทของปีเตอร์คอยอยู่เบื้องหลังทั้งถ่ายวีดีโอและสร้างเซอร์ไพร์สสุดหวานชื่อให้ทั้งคู่ แต่หลังงานแต่งจบลงเมื่อ จูเลีย ขอปีเตอร์ดูวีดีโองานวันสำคัญเธอก็ได้รู้ว่าในระยะห่างของมาร์คกลับมีเพียงจูเลียที่อยู่ในสายตาของเขา
เกร็ดน่ารู้
- ความจริงแล้วอายุของเคียร์รา ไนต์ลีย์ ตอนแสดง ‘Love Actually’ ห่างจากโธมัส โบรดี แซงสเตอร์เพียง 5 ปีเท่านั้น แม้ไนต์ลีย์จะแสดงเป็นเจ้าสาวและแซงสเตอร์แสดงเป็นเด็กประถมก็ตาม (ไนต์ลีย์อายุ 18 ปี และ แซงสเตอร์อายุ 12 ปีตอนแสดง ‘Love Actually’)
- ในซีนที่จูเลียดูวีดีโอที่ถ่ายมาโดยมาร์คแล้วพบว่ามีแต่ภาพของเธอในฉบับที่ฉายอเมริกามีการเปลี่ยนเพลงจาก ‘Too Lost in You’ ของวงชูกาเบบส์ (Sugababes) เป็นเพลง ‘The Trouble With Love Is’ ของ เคลลี คลาร์กสัน (Kelly Clarkson)
- นี่คือหนังแจ้งเกิดของแอนดรูว์ ลินคอล์น ก่อนไปดังกับซีรีส์ ‘The Walking Dead’
Sarah, Karl and Michael
ในชีวิตการทำงานอันแสนน่าเบื่อของซาราห์ (รับบทโดย ลอรา ลินนีย์ Laura Linney) มีคาร์ล (รับบทโดย รอดริโก ซานโทโร Rodrigo Santoro) ที่เป็นเหมือนเหตุผลให้เธอทำงานหนักโดยไม่บ่นเลย และในคืนงานปาร์ตี้คริสต์มาสก็เป็นโอกาสที่ทั้งคู่จะได้ใกล้ชิดและมอบไออุ่นให้กัน แต่แล้วโทรศัพท์สายเดิมที่ซาราห์รับประจำอย่าง ไมเคิล (รับบทโดย ไมเคิล ฟิตซ์เจอรัลด์ Michael Fitzgerald) พี่ชายที่ป่วยทางจิตของเธอก็ดังมาแทรกกลางในเวลาสำคัญของทั้งคู่ จนซาราห์ต้องเลือกระหว่างความรักที่เธอโหยหาตรงหน้าหรือกลับไปมอบของขวัญคริสต์มาสให้แก่พี่ชายที่ต้องการเธอที่สุดในช่วงเวลาสำคัญ
เกร็ดน่ารู้
- ตัวละครซาราห์ของลอรา ลินนีย์จะมีไปโผล่ในงานแต่งงานระหว่าง ปีเตอร์และจูเลียต โดยเธอนั่งข้างเจมี เพื่อนนักเขียนของเธอ
- ซาราห์ทำงานในบริษัทของ กราฟิกดีไซน์ของแฮร์รีแถมยังเป็นเพื่อนสนิทกับมีอาที่เชียร์ให้เธอรุกจีบคาร์ล
Daniel, Sam and Joanna
หลังงานศพของภรรยา แดเนียล (รับบทโดย เลียม นีสัน Liam Neeson) พยายามสานสัมพันธ์กับ แซม (รับบทโดย โธมัส โบรดี แซงสเตอร์ Thomas Brodie-Sangster) ลูกเลี้ยงหนุ่มน้อยที่ทำตัวห่างเหินจากเขา แต่ความจริงแล้วแซมไม่ได้โกรธหรือเสียใจหากแต่กำลังว้าวุ่นใจกับการทำให้ โจแอนนา (รับบทโดย โอลิเวีย โอลซัน Olivai Olson) สาวน้อยที่เขาหมายปองประทับใจกับฝึมือการตีกลองของเขาในคอนเสิร์ตวันคริสต์มาสของโรงเรียน
เกร็ดน่ารู้
- คนที่สอนแซงสเตอร์ตีกลองคือ มาร์ค แซงสเตอร์ (Mark Sangster) คุณพ่อของเขาที่เป็นมือตัดต่อภาพยนตร์
- ต่อมาแซงสเตอร์ก็ได้มีผลงานแฟรนไชส์สุดฮิตอย่าง ‘The Maze Runner’
Harry, Karen and Mia
แฮร์รี (รับบทโดย อลัน ริคแมน Alan Rickman) และคาเรน (รับบทโดยเอ็มมา ธอมป์สัน Emma Thompson) แต่งงานกันมานานจนมีทายาทคล้องใจถึง 2 คน แต่ด้วยสเน่ห์ของแฮร์รี่ที่ไปเตะตาโดนใจ มีอา (รับบทโดย ไฮเคล มาคาตช์ Heike Makatsch) ที่หมั่นทอดสะพานให้เขา
และในวันซื้อของขวัญคริสต์มาสแฮร์รีตัดสินใจซื้อของขวัญให้มีอา โดยมีพนักงานห่อของขวัญนามรูฟัส (รับบทโดย โรแวน แอตคินสัน Rowan Atkinson)บรรจงห่อให้อลังการอย่างผิดเวลา จนในคืนแกะของขวัญคริสต์มาสคาเรนก็ได้พบว่าของขวัญที่ได้รับจากสามีกลับไม่ใช่ชิ้นเดียวกับที่อยู่ในแจ็กแกตของแฮร์รีที่เธอเจอก่อนหน้านี้ แคเรนจะประคับประคองครอบครัวของเธอต่อไปอย่างไรหลังสามีนอกใจเป็นการตอบแทนชีวิตคู่ที่เธอทุ่มเทเวลาให้มาตลอดนับสิบปี
เกร็ดน่ารู้
- ความจริงแล้วบทรูฟัสของแอตคินสันเดิมที เคอร์ติสเขียนให้เป็นเทวดา แต่เมื่อมาคิด ๆ ดูหากใส่อะไรแฟนตาซีในหนังคงต้องอธิบายกันยืดยาวเลยปรับเหลือแค่พนักงานห่อของขวัญที่เป็นตัวฮาของเรื่อง
- และบทรูฟัสนี้ เดิมทีนักแสดงอย่าง ไซมอน เพ็กก์ (Simon Pegg) เคยมาออดิชันแต่ชวดให้แอ็กติงเก๋าเกมของแอตคินสัน
- ฉากที่ธอมป์สันร้องไห้ ความจริงไม่ได้อยู่ในบทแต่นางเอาอินเนอร์มาจากเหตุการณ์ที่เคนเนธ บรานาห์ (Kenneth Branagh) สามีเก่าเคยนอกใจมาใช้ในกระบวนการเมจิกอิฟ (Magic If) ในการแสดงจนน้ำตาไหลออกมาจริง ๆ
Billy Mack and Joe
บิลลี แม็ก (รับบทโดย บิล ไนจ์ฮี Bill Nighy) ร็อกสตาร์วัยดึกหวังจะคัมแบ็กสู่วงการกับเพลง ‘Christmas is all around’ ที่นำเอาเพลง ‘Love is all around’ ของวง ‘Wet Wet Wet’ มาดัดแปลง โดยได้ โจ (รับบทโดยเกรเกอร์ ฟิชเชอร์ Gregor Fisher) ผู้จัดการและเพื่อนรักของเขาคอยผลักดันและต้องคอยรองรับอารมณ์ศิลปินและนิสัยเกินทนของบิลลีเพื่อหวังให้ซิงเกิลประสบความสำเร็จ และในคืนวันคริสต์มาสบิลลีก็ได้รู้แล้วว่าคนที่เขารักและอยากผ่านคืนอันแสนสุขนี้ไปคือใคร
Colin and American Girls
เพราะเหี่ยวแห้งจากสาวอังกฤษ โคลิน (รับบทโดยคริส มาแชลล์ Kris Marshall) เลยแจ้งเพื่อนอย่าง โทนี่ (รับบทโดย อับดุล ซาลิส Abdul Salis) ว่าเขาจะบุกไปปักธงหนุ่มอังกฤษที่วิสคอนซิน ประเทศสหรัฐอเมริกา และในบาร์คืนคริสต์มาสอีฟ โคลินก็ได้พบสาวสวย 3 คนที่ตกหลุมรักสำเนียงอังกฤษของเขา ดูท่าว่างานนี้การเดินทางไกลจะได้ผลแถมเขายังจะได้รู้จักกับอีกหนึ่งสาวฮอตที่โคลินตั้งใจพาเธอข้ามน้ำข้ามทะเลพาไปเจอกับโทนี่ เพื่อนรักของเขา
เกร็ดน่ารู้
- ในบรรดาสาวที่โคลินจีบแล้วแห้วคือ มีอา เลขาสาวที่หลงรักแฮร์รีเจ้านายตัวเอง
John and Judy
จอห์น (รับบทโดยมาร์ติน ฟรีแมน Martin Freeman) และจูดี (รับบทโดยโจแอนนา เพจ Joanna Page) สองนักแสดงสแตนอินฉากเซ็กส์ในหนัง พัฒนาความสัมพันธ์ผ่านงานที่ทุกคนได้เห็นเรือนรางของพวกเขาแต่ไม่มีวันรู้จักใบหน้า แม้ในกองถ่ายทั้งคู่จะไม่เขินอายกับการแก้ผ้าและแสดงกิจกรรมเข้าจังหวะกัน แต่นอกเวลางานพวกเขากลับไม่กล้าแม้เพียงจะเริ่มความสัมพันธ์แม้จะแอบเปลือยความรู้สึกให้กันทุกครั้งที่สบตา
เกร็ดน่ารู้
- คู่ของจอห์นกับจูดีคือคู่ที่ทางผู้จัดจำหน่ายอย่างยูนิเวอร์แซล สตูดิโอตัดออกจากหนังฉบับที่ส่งฉายในทวีปเอเซียเนื่องจากมีฉากแนว 18+ และอาจจะไม่เหมาะกับวัฒนธรรมในประเทศแถบนี้
- ในตอนนี้ โทนี่ เพื่อนของโคลิน จะเล่นเป็นโปรดักชัน แอสซิสแทนต์ (Production Assistant) ให้กับภาพยนตร์ เป็นจุดเชื่อมโยง
- ต่อมามาร์ติน ฟรีแมนเริ่มเป็นที่รู้จักจากซีรีส์ ‘Sherlock’ และหนังไตรภาค ‘The Hobbit’
แต่สำหรับ ‘Love Actually’ ที่จะนำมาฉายที่ House สามย่านในวันนี้จะเป็นฉบับสมบูรณ์แน่นอน ใครอยากสัมผัสเรื่องราวความรักสุดประทับใจในโรงภาพยนตร์อีกครั้งพลาดไม่ได้นะครับหนังจะฉาย 23-25 ธันวาคมและ 28 ธันวาคม 2565 เท่านั้นที่โรงภาพยนตร์ House สามย่าน ซื้อบัตรได้แล้วทางแอปพลิเคชัน House หรือ เว็บไซต์ HOUSE FRONT (housesamyan.com)
ที่มา