ถ้าจะกล่าวถึงหนังสยองขวัญที่มีสัตว์ประหลาดหรือภูติผีร้ายเป็นตัวชูโรงอย่างเช่น ‘it’, ’Mama’, ‘Slender Man’, เราก็คงประทับใจปนกับความสยองกับตัวประหลาดทั้งหลายที่มันเหมือนกับมีตัวตนจริง ๆ ทั้งท่าทาง และกิริยาอาการต่าง ๆ ล้วนแปลกประหลาดจนไม่คิดว่ามนุษย์คนไหนจะมาทำอะไรได้แบบนี้ ด้วยสรีระแบบนี้ ในหนังใข้แต่ CGI แน่ ๆ ไม่มีทางที่นักแสดงคนไหนจะมีรูปร่างแปลกประหลาดเช่นนี้ แต่คุณ ๆ อาจจะคิดผิดเมื่อได้มารู้จักกับ ฮาเวียร์ โบเทต (Javier Botet) ยอดนักแสดงมากฝีมือชาวสเปน ที่อยู่เบื้องหลังของตัวประหลาดทั้งหลาย ในหนังหลาย ๆ เรื่องที่เราคุ้นเคยกันดี และกล่าวกันว่าเขาคือหนึ่งในนักแสดงบทสัตว์ประหลาดที่ดีที่สุดในยุคนี้เลย

โบเทตเกิดในเมืองเล็ก ๆ ทางตอนเหนือของกรุงมาดริด ประเทศสเปน เขาเติบโตมากับความรักในเรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติ และสนใจนิยายวิทยาศาสตร์เป็นอย่างมาก จนกระทั่งในวัยรุ่นเขาจึงตัดสินใจเข้ากรุงมุ่งสู่เมืองหลวง เพื่อตามหาความฝันเกี่ยวกับงานศิลปะของเขา และตอนนั้นเองเขาเริ่มหันมาสนใจเกี่ยวกับเรื่องการผลิตภาพยนตร์ และเข้าวงการหนังสั้นตั้งแต่ตอนนั้นเอง


สิ่งที่ทำให้โบเทตโดดเด่นกว่าคนอื่นนั่นเพราะเขาเป็นโรค ‘Marfan syndrome’ มันทำให้เขามีรูปร่างลักษณะแปลกประหลาดไปจากคนอื่น ๆ “คนที่เป็นโรคนี้จะมีลักษณะผอม ร่างกายจะยืดสูงเป็นอย่างมาก มีแขนขาเก้งก้าง และข้อนิ้วมือที่ยาวมากผิดปกติ มีความยืดหยุ่นมากกว่าคนปกติทั่วไป อย่างที่คุณเห็นตัวผมนี่แหละครับ” จุดเริ่มต้นในการเข้าสู่บทบาทสัตว์ประหลาดของเขาคือเมื่อครั้งหนึ่ง สมัยที่ยังไปเข้าคอร์สเวิร์กชอปเกี่ยวกับสเปเชียลเอฟเฟกต์ ทั้งผู้สอน และตัวเขาเองเห็นตรงกันว่า โครงสร้างรูปร่างของเขานั้นเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งที่จะเมกอัปเป็นตัวประหลาด และเขาก็ไม่ลังเลที่จะทำมัน

และเมื่อปี 2005 โบเทตก็ได้แสดงในบทตัวประหลาดเป็นครั้งแรกในหนังเรื่อง ‘Beneath Still Waters’ และในปีต่อ ๆ มากับโปรเจกต์ที่ใหญ่ขึ้นอย่าง ‘Rec’, ‘Rec2’ และจาก ‘Rec2’ นี้เองในปี 2009 ที่เทศกาลหนังเท็กซัส เขาได้มีโอกาสพบกับ อังเดรส มูเชสติ (Andrés Muschietti) ผู้กำกับชาวอาร์เจนตินา ที่มาโปรโมตหนังสั้น ‘Mama’ เพื่อหานายทุนสร้างมันให้เป็นภาพยนตร์แบบเต็มเรื่อง เต็มรูปแบบ และมันก็ทำให้เป็นที่ฮือฮามาก ณ ขณะนั้น และเมื่อนักแสดงที่ใช่รับกับบทบาทที่พอเหมาะพอเจาะขนาดนี้ โปรเจกต์ ‘Mama’ ก็เป็นรูปเป็นร่างจริง ๆ ในอีก 1 ปีต่อมา โดยมีชื่อ กีเยร์โม เดล โตโร (Guillermo del Toro) นั่งแท่นเป็นผู้อำนวยการสร้าง และแน่นอนว่ามีชื่อของโบเทต เป็นนักแสดงนำ


และเมื่อหนังเรื่องนี้เข้าฉายในปี 2013 มันกลับกลายเป็นประเด็นให้แฟน ๆ สนใจสงสัยใคร่รู้กันเป็นอย่างมากว่าตัวละครผีที่น่ากลัวน่าขนลุกขนพองนั้น ใช้คนแสดงจริง ๆ หรือใช้ CGI กันแน่ แต่เสียงโหวตจากผู้ชมจะหันเหไปทางที่ว่าหนังใช้ CGI สร้างผีแม่สายโหดตนนี้ขึ้นมา จนทำให้ทีมงานสร้างทนไม่ไหวจนต้องอัพโหลดคลิปของโบเทตที่กำลังทดสอบการเคลื่อนไหวในลักษณะแปลกประลาดก่อนที่จะถ่ายทำหนัง โดยใช้ประโยชน์ของข้อต่อมหาเทพยืดหยุ่นสูงของเขา จนทำให้คนดูถึงกับอึ้ง ทึ่ง ไปตาม ๆ กัน และสุดท้ายทางทีมผู้สร้างก็บอกว่านี่แหละ คือเหตุผลที่บทผีร้ายนี้ต้องเป็นโบเทตเท่านั้น และจากหนังเรื่องนี้เอง เขาก็ได้ก้าวขึ้นไปอีกขั้นกับหนังที่มีชื่อชั้นมากกว่าอย่าง ’Crimson Peak’, ’Insidious’, ‘The Conjuring’ และ ‘Alien : Covernant’



และด้วยความที่รักในงานภาพยนตร์ โบเทตได้แแสดงในบทตลก และเขียนบทหนังเอง กำกับเองอีกด้วย และตัวเขาเองก็ยังมุ่งมั่นและพัฒนาในส่สนของการแสดงให้ดียิ่งขึ้นไปอีก เขาเปิดเผยว่าเขาเริ่มหัดเต้นในหลาย ๆ สไตล์ เรียนรู้การเคลื่อนไหวต่าง ๆ และดัดแปลงมันออกมาให้เป็นเอกลักษณ์ของเขาเอง และมันจะทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าบางครั้ง CGI ก็ไม่ได้จำเป็นเสมอไปนัก
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส