หลังจากที่ดู The Last of Us ฉบับซีรีส์ตอนแรกจบและยังคงดูวนซ้ำอย่างต่อเนื่อง (ว่างแหละดูออก) ผู้เขียนก็ได้ค้นพบ Easter Eggs จำนวนมาก เท่านั้นยังไม่พอ ด้วยความชื่นชอบส่วนตัว ผู้เขียนยังไปหาข้อมูลที่น่าสนใจมานำเสนอกันด้วยบทความนี้ “ลองมาดูกันว่าใน “10 เกร็ดเสริมหลังดูจบ EP. 1 The Last of Us” จะมีอะไรที่รู้สึกว้าวกันบ้าง ไปดูกัน!

**คำเตือน บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาหลายส่วนของ The Last of Us EP.1

ในเมื่อ The Last of Us คือซีรีส์ที่สร้างจากเกมของ Naughty Dog ที่ก็เป็นค่ายผู้พัฒนา 1st Party ของ Sony Interactive Entertainment หรือฝั่งที่ทำเครื่องเล่นคอนโซลและเกม PlayStation นั่นเอง มีหรือที่จะไม่แอบใส่คอนโซลหยุดโลกนี้เป็นอีสเตอร์เอ้กให้แฟน ๆ ที่ชอบเก็บทุกเม็ดทุกเฟรมได้ยิ้มกรุ้มกริ่มใจ

อันนี้เป็น Easter Egg ที่ผู้เขียนเจอแล้วรู้สึกว่าเออเจ๋งดีแฮะ กับหนังปลอม ๆ ในเกม Curtis and Viper ที่ใน The Last of Us Part II เราจะได้เจอเป็นครั้งแรกที่มาไกลถึงภาค 4 แล้วนะ แต่ในฉบับในซีรีส์เราจะได้เจอเป็นภาค 2 แทน เนื่องด้วยช่วงเวลาของซีรีส์ในฉากนั้นที่เกิดขึ้นในปี 2003 นั่นเอง

ด้วยความที่ซีรีส์ The Last of US เป็นโปรเจกต์ที่ทาง HBO ลงทุนไปพอสมควรด้วยงบตอนละราว ๆ 10 – 15 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ เลยไม่แปลกที่จะลิสต์ของดาราจำนวนมากที่พวกเขาเพ่งเล็งมาให้รับตัวละครเอกอย่าง โจล มิลเลอร์ (Joel Miller) ไม่ว่าจะฮิว แจ็กแมน (Hugh Jackman) จาก X-Men, Woverine, ทอม ฮาร์ดี้ (Tom Hardy) ผู้รับบทเป็น Bane จาก The Dark Knight Rise และ Venom, จอน แฮมม์, โจล เอดเกอร์ตัน, จอน เบิร์นธัล และ ไมเคิล ฟาสเบนเดอร์

แต่ในท้ายที่สุดแล้ว ผู้ที่ทีมงานและทีมแคสต์นักแสดงเห็นว่าคู่ควรดูจะเป็นป๋าเปโดร ปาสคาล (Pedro Pascal) ซึ่งใครที่ดูแล้วก็น่าจะรู้ว่าแกเต็มไปด้วยจิตวิญญาณความเป็นโจลขนาดไหน!?

หน้าที่ของนักแสดงคือการสวมบทบาทเป็นอีกตัวละครโดยที่สามารถแสดงออกความคิด อากัปกิริยา และอารมณ์ได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งเบลล่า แรมซีย์ (Bella Ramsey) และเพโดร พาสคาล ก็พยายามที่จะทำการบ้านครั้งนี้อย่างครั่งเครัด ทว่าในตอนนั้น แรมซีย์ ก็ยอมรับว่าเธอดูวิดีโอเกมเพลย์ผ่านยูทูบเพื่อเรียนรู้บรรยากาศ และโทนของ The Last of Us คร่าว ๆ แต่เธอก็ต้องหยุดตามคำเรียกร้องของทีมงานไป ในขณะที่ เพโดร พาสคาล ได้เผยว่าเขาพยายามหลีกเลี่ยงที่จะเล่นเกม แล้วเน้นการชมเกมเพลย์จากหลานชายที่กำลังเล่นเกม The Last of Us เท่านั้น

อันนี้เกิดขึ้นจากการที่ผู้เขียนดูซ้ำในฉากใกล้จบของตอนแรก โดยในช่วงท้าย ๆ ของตอนนี้ หากใครสังเกตไปมุมตึกฝั่งซ้ายดี ๆ ในตอนที่ฟ้าผ่า เราจะเห็นเจ้าคลิกเกอร์ ผู้ติดเชื้อระยะสุดท้ายยืนมองกลุ่มของโจลอยู่ ซึ่งก็เป็นนัยว่าตอนต่อไป เราจะได้เจอเจ้านรกบนดินตัวนี้กันแล้วนั่นเอง

ในตอนนี้หากใครแวะไปที่เฟซบุ๊กแฟนเพจของ HBO Max และ Warner Bros. Discover ก็จะเจอเข้ากับภาพโปรไฟล์ที่มีเชื้อราไปประกบบนโลโก้ ซึ่งก็แน่นอนว่าเป็นการโปรโมตซีรีส์ The Last of US ที่หายนะทั้งปวงเกิดขึ้นจากการระบาดของเชื้อรานั่นเอง

ฟุตบอลนั้นผู้เขียนไม่ทราบว่าเป็นกีฬาที่เธอโปรดปรานหรือไม่ แต่ในเวอร์ชันเกม เราจะได้เห็นรูปนี้ในรูปแบบของไอเทมให้เก็บสำรวจ ส่วนกีต้าร์ อันนี้คือสิ่งที่โจลรักมากในชีวิต ซึ่งถูกนำไปใช้ในเชิงสัญญะในเกมภาค 2 ที่เมื่ออารมณ์และเหตุการณ์ของตัวเกมพามาถึงจุด ๆ หนึ่ง คุณจะรู้เลยว่าเครื่องดนตรีชนิดนี้ เป็นการแสดงความรักที่โจลมีให้ต่อเอลลี่ขนาดไหน T T

ผู้เขียนละอยากจะกรี๊ดให้เสียงหมดคอหอย ตอนแรกก็กลัวว่าจะแป๊กแต่พอตอน Pilot (ตอนที่ 1) ได้ออก ผลตอบรับกลับดีโคตร ๆ ชนิดที่ว่าเว็บวิจารณ์สื่อที่มักจะเป็นตัวจุดชนวนดราม่าต่าง ๆ ได้คะแนนมะเขือเทศไปถึง 99% ส่วนในฝั่งคนดูได้ไปถึง 96% (เช็กล่าสุดเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2023) แต่ก็นะ ยังเหลืออีก 9 ตอน มารอดูกันดีกว่าว่าจะเฟี้ยวขนาดนี้ตลอดรอดฝั่งไหม!?

อันนี้ผู้เขียนไม่แน่ใจว่าตัวซีรีส์จงใจไหม แต่มันได้อารมณ์ฉากหน้าเมนูหลักของ The Last of Us ภาคแรกมาก ๆ

เรียกได้ว่าน่าสนใจมาก ๆ และเป็นกรณีที่แทบจะไม่ค่อยเกิดขึ้นที่นักแสดงต้นแบบจากในเวอร์ชันเกม จะได้กลับมารับบทบาทตัวละครเดิมในเวอร์ชันภาพยนตร์/ซีรีส์ สำหรับใครที่คิดว่าต้องการลดคอสต์แหง ๆ ก็ต้องบอกว่าใครที่ดูตอนแรกแล้ว คุณจะไม่พูดอะไรที่หลบหลู่เธอแบบนั้นออกมาแน่นอน

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส