The Hollywood Reporter ได้รายงานว่า ‘Avatar: The Way of Water’ ประสบความสำเร็จด้วยการทำรายได้ทั่วโลกถึงหลัก 2,000 ล้านเหรียญ ได้เป็นเรื่องที่ 6 ในประวัติศาสตร์ โดยรายได้อยู่ที่ 2,024 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 66,100 ล้านบาท
สำหรับภาพยนตร์ที่ทำรายได้ทั่วโลกสูงสุดในประวัติศาสตร์ คือ ‘Avatar’ (2009) โดยทำรายได้ไป 2,923.7 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 95,400 ล้านบาท รองลงมาคือ
- Avengers: Endgame (2019) : 2,799.4 ล้านเหรียญ
- Titanic (1997) : 2,194.7 ล้านเหรียญ
- Star Wars: Episode VII – The Force Awakens (2015) : 2,071.3 ล้านเหรียญ
- Avengers: Infinity War (2018) : 2,052.4 ล้านเหรียญ
หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ ‘Avatar: The Way of Water’ ประสบความสำเร็จด้านรายได้อย่างสูง คือการเปิดฉายในวงกว้างอย่างเต็มตัวหลังจากที่ภาพยนตร์ก่อนหน้านี้ถูกจำกัดจำนวนโรงภาพยนตร์ที่จะฉาย เนื่องจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 โดยภาคที่ 2 ของแฟรนไชส์นี้สามารถทำรายได้อันดับที่ 1 บนตารางบ็อกซ์ออฟฟิศมาแล้ว 6 สัปดาห์ซ้อน
นั้นเป็นการยืนยันว่าผู้ชมยังคงชื่นชอบการรับชมภาพยนตร์ระดับบล็อกบัสเตอร์ฟอร์มยักษ์บนจอขนาดใหญ่ และมีความต้องการภาพยนตร์เรื่องอื่น ๆ เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
อีกสิ่งที่น่าสนใจก็คือ เจมส์ คาเมรอน (James Cameron) เป็นผู้กำกับคนเดียวในประว้ติศาสตร์ที่สร้างภาพยนตร์ทำรายได้ถึงหลัก 2,000 ล้านเหรียญ ได้ 3 เรื่องติดต่อกัน ได้แก่ ‘Avatar’, ‘Titanic’ และ ‘Avatar: The Way of Water’
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส