หลังจากที่เมื่อเดือนตุลาคม 2022 เจมส์ กันน์ (James Gunn) และ ปีเตอร์ ซาฟราน (Peter Safran) ได้เข้ามารับหน้าที่เป็นผู้บริหารดูแลคอนเทนต์ภายใต้จักรวาลของ DC ตามนโยบายใหม่ของบริษัทแม่อย่าง วอร์เนอร์ บราเธอส์ ดิสคัฟเวอรี (Warner Bros. Discovery) ที่ต้องการจัดการกับจักรวาลภาคขยายของ DC (DC Extended Universe) หรือ DCEU และจักรวาลปลีกย่อยอื่น ๆ ให้เข้าที่เข้าทาง และจัดการตัดโปรเจกต์ที่น่าจะไม่ทำเงินออกไป

ซึ่งหลังจากที่กันน์และซาฟรานได้ดำเนินการเสนอแผนแนวทางใหม่ของ DC Studios ต่อ เดวิด ซาสลาฟ (David Zaslav) ซีอีโอของ Warner Bros. Discovery ไปแล้วเมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2022 ที่ผ่านมา ก็ได้มีการเปิดเผยว่า จะนำแผนนี้มาเปิดเผยอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนมกราคม ปี 2023

ซึ่งในวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา กันน์และซาฟรานได้เทียบเชิญสื่อมวลชนของสำนักข่าวใหญ่ ๆ ไปยังสำนักงานของ DC Studios เพื่อทำการแถลงข่าวเพื่อเปิดเผยและนำเสนอแผนระยะยาวในการสร้างจักรวาลของ DC หรือที่เรียกกันว่า DCU (DC Universe) ซึ่งเป็นแผนที่มีระยะเวลา 10 ปี โดยกันน์ได้เปิดเผยผ่านคลิปแถลงข่าวว่า จะเป็นการรวมจักรวาลคอนเทนต์ของ DC ทั้งหมดให้มีความเชื่อมต่อถึงกัน ทั้งภาพยนตร์ ทีวีซีรีส์ แอนิเมชัน และเกม โดยจะใช้นักแสดงคนเดียวกันในทุก ๆ คอนเทนต์ และเล่าผ่านเส้นเรื่องเดียวกัน

ซึ่งแน่นอนว่าหลายคนอาจสงสัยในประเด็นนี้ว่า นักแสดงชุดเก่าจากจักรวาล DCEU จะยังคงได้กลับมาแสดงในบทบาทเดิมไหม ซึ่ง 2 ผู้บริหารได้เปิดเผยว่า พวกเขาจะยังคงมีสิทธิ์ที่จะได้กลับมารับบทเดิมในจักรวาล DCU ต่อไป เพียงแต่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะนำเรื่องราวของพวกเขากลับมาเล่าต่อใน DCU อย่างไร ทั้ง เจสัน โมโมอา (Jason Mamoa – Aquaman), กัล กาด็อต (Gal Gadot – Wonder Woman) เอซรา มิลเลอร์ (Ezra Miller – The Flash) และ แซ็กคารี ลีวาย (Zachary Levi – Shazam)

Gal Gadot

ซึ่งมีรายงานเปิดเผยว่า กันน์ได้ทำการพูดคุยกับกาด็อตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนมิลเลอร์นั้น ซาฟรานเผยว่า อาจจะยังไม่ได้กลับมารับบท The Flash ใน DCU ในเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากต้องการให้เขามีสมาธิในการบำบัดอาการป่วย และขึ้นศาลเพื่อดำเนินการตามกฏหมาย ก่อนที่จะเริ่มดำเนินการพูดคุยร่วมกันในเวลาอันสมควร ส่วน เฮนรี คาวิลล์ (Henry Cavill) กันน์ได้ยืนยันชัดเจนว่า คาวิลล์จะไม่ได้กลับมารับบทซูเปอร์แมนใน DCU อย่างแน่นอน เนื่องจากเรื่องราวของซูเปอร์แมนใน DCU ที่ไม่ได้เชื่อมโยงกัน และคาแรกเตอร์ของคาวิลล์ที่ไม่เหมาะกับเรื่องราวของซูเปอร์แมนชุดใหม่

ส่วน เจสัน โมโมอา (Jason Mamoa) ที่มีข่าวลือว่าจะถูกสลับบทบาทจาก Aquaman ไปรับบทเป็น โลโบ (Lobo) แอนตีฮีโรนักล่าค่าหัวแห่งห้วงอวกาศแทน ก็ได้รับการยืนยันแล้วว่า โมโมอาจะได้กลับมารับบทเดิมใน ‘Aquaman 3’ ต่อไปโดยที่ไม่มี ‘Lobo’ เป็นโปรเจกต์คู่ขนาน รวมทั้ง เบน เอฟเฟล็ก (Ben Affleck) เจ้าของบทบาท แบทแมน (Batman) ในจักรวาลของสไนเดอร์ (Snyderverse) ที่จะกลับมารับหน้าที่ผู้กำกับภาพยนตร์ของ DCU ในโปรเจกต์ที่ยังไม่มีการเปิดเผยอีกด้วย

เฟสแรกของ DCU จะถูกเรียกว่าเป็น ‘บทที่ 1’ (Chapter 1) มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า ‘Gods and Monsters’ โดยชื่อ ‘Gods and Monsters’ จะเป็นการสื่อถึงภาพรวมของ Title ทั้ง 10 โปรเจกต์ที่ประกอบไปด้วยภาพยนตร์และทีวีซีรีส์ ที่จะมีทั้งเรื่องราวของซูเปอร์ฮีโรที่ถูกเปรียบเหมือนดังเทพเจ้า และเรื่องราวของเหล่าสัตว์ประหลาดและอสุรกายทั้งหลาย ซึ่งได้มีการเปิดเผย 10 Title ที่อยู่ภายใต้ Chapter 1 ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนี้

ภาพยนตร์

‘Superman: Legacy’

DCU Chapter 1 Warner Bros. Discovery

ภาพยนตร์ซูเปอร์แมนที่จะไม่ใช่แค่เล่าย้อนไปยังต้นกำเนิดของซูเปอร์ฮีโร แต่จะเป็นการค้นหาจุดสมดุลของจุดกำเนิดของชาวคริปโตเนียน และการเลี้ยงดูตามวิถีของมนุษย์ ซูเปอร์แมนจะกลายเป็นตัวแทนของความจริง ความยุติธรรม และวิถีของชาวอเมริกัน ในโลกยุคสมัยที่ความมีเมตตาเป็นเพียงเรื่องเก่าล้าสมัย ตัวหนังยังไม่มีการคัดเลือกนักแสดงมารับบทซูเปอร์แมน และจะไม่ใช่ภาค Prequel หรือต้นกำเนิดของ ‘Man of Steel’ โดยซาฟรานเผยว่า กันน์กำลังเขียนบทอยู่ และเขาหวังว่ากันน์อาจลงมากำกับหนังเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ตัวหนังมีกำหนดวันฉาย 11 กรกฎาคม 2025 และจะทำหน้าที่เป็นต้นกำเนิดจักรวาล DCU ด้วย

‘The Authority’

DCU Chapter 1 Warner Bros. Discovery

รวมทีมซูเปอร์ฮีโรกลุ่มใหม่ของ DCU ที่จะไม่ใช่แค่การเล่าเรื่องราวของการกอบกู้โลก และไม่ใช่เรื่องราวของซูเปอร์ฮีโรและวายร้ายเพียงอย่างเดียว พวกเขามีวิธีจัดการเรื่องต่าง ๆ ด้วยวิถีของพวกเขาเอง และอาจจะเป็นกลุ่มซูเปอร์ฮีโร LGBTQ+ ด้วย ยังไม่มีกำหนดวันฉาย

‘The Brave and the Bold’

DCU Chapter 1 Warner Bros. Discovery

หนังเปิดตัว ‘Batman’ เข้าสู่จักรวาล DCU เป็นหนังที่จะเล่าเรื่องของพ่อลูกแบทแมน ทั้ง บรูซ เวย์น (Bruce Wayne) และเปิดตัว เดเมียน เวย์น (Damian Wayne) ลูกชายที่บรูซไม่เคยรู้ว่ามี ตอนที่เดเมียนอายุได้ 8-10 ปีแรก ในฐานะของโรบิน ตัวหนังจะเล่าเรื่องของคู่พ่อลูกที่แสนแปลกประหลาด และจะแยกจากจักรวาล ‘The Batman’ ภายใต้ ‘DC Elseworld’ ยังไม่มีกำหนดวันฉาย

‘Supergirl: Woman of Tomorrow’

DCU Chapter 1 Warner Bros. Discovery

สร้างจากการ์ตูนเรื่องเดียวกัน โดยจะเล่าเรื่องของ คารา ซอร์-เอล (Kara Zor-El) ลูกพี่ลูกน้องของซูเปอร์แมน ที่กันน์เผยว่า จะเป็นซูเปอร์เกิร์ลที่ต่างออกไปจากเดิม โดยเธอจะเกิดและเติบโตบนดาวคริปตัน และถูกเลี้ยงดูมาอย่างโหดร้ายเนื่องจากคนรอบตัวของเธอถูกฆ่าตายอย่างสยดสยองในช่วง 14 ปีแรกของชีวิต ทำให้ตัวหนังจะเป็นการเล่าเรื่องของซูเปอร์เกิร์ลที่โหดฮาร์ดคอร์ยิ่งกว่าเดิม ยังไม่มีกำหนดวันฉาย

‘Swamp Thing’

DCU Chapter 1 Warner Bros. Discovery

หนังเปิดจักรวาลเหล่าสัตว์ประหลาดของ DC ที่จะนำสู่เรื่องราวของต้นกำเนิดอันดำมืดของ Swamp Thing จากชายคนหนึ่ง เปลี่ยนกลายเป็นอสุรกายแห่งหนองน้ำ ผ่านเรื่องราวแนวสยองขวัญมืดหม่น ที่กันน์ได้เผยว่า Swamp Thing จะเป็นตัวเพิ่มความหลากหลายให้กับจักรวาล DCU

ทีวีซีรีส์

‘Creature Commandos’
DCU Chapter 1 Warner Bros. Discovery

ซีรีส์แอนิเมชัน 7 ตอนเ เรื่องราวของหน่วยรบแอนตีฮีโรทีมใหม่ที่ประกอบไปด้วยเหล่าอสุรกายสุดสยอง ทั้งแวมไพร์ มนุษย์หมาป่า และซอมบี้ ให้อารมณ์ที่แตกต่างจาก ‘The Suicide Squad’ มีการยืนยันว่าจะมีการนำตัวละครจาก ‘The Suicide Squad’ ที่กันน์กำกับในปี 2021 กลับมาร่วมด้วย ทั้ง วีเซิล (Weasel) และ ริก แฟล็ก (Rick Flag) และกันน์ยังได้เผยว่า นักแสดงที่มาพากย์เสียงตัวละครในแอนิเมชัน จะมีบทบาทในคอนเทนต์ที่เป้นไลฟ์แอ็กชันของ DCU ต่อไปในอนาคตด้วย

‘Waller’
DCU Chapter 1 Warner Bros. Discovery

ซีรีส์ภาคแยกของ ‘Peacemaker’ ที่จะเจาะเรื่องราวของคุณป้า อแมนดา วอลเลอร์ (Amanda Waller) หัวหน้าทีม Suicide Squad ที่จะเล่าเรื่องระหว่างกลางของซีรีส์ ‘Peacemaker’ ซีซันแรก ก่อนเชื่อมเรื่องไปสู่ซีซัน 2 โดยได้ วิโอลา เดวิส (Viola Davis) กลับมารับบทเดิม

‘Booster Gold’

DCU Chapter 1 Warner Bros. Discovery

ซีรีส์แนวตลกที่จะเล่าเรื่องของ ไมก์ คาร์เตอร์ (Mike Carter) ซูเปอร์ฮีโรขี้แพ้แห่งศตวรรษที่ 25 ที่ได้ใช้เทคโนโลยีย้อนเวลากลับมายังปัจจุบัน แล้วแสร้งว่าตัวเองเป็นซูเปอร์ฮีโร

‘Green Lantern Corps’

ซีรีส์แนวคู่หูนักสืบ ‘Green Lantern’ นำโดย ฮัล จอร์แดน (Hal Jordan) และ จอห์น สจวร์ต (John Stewart) ที่จะเล่าด้วยอารมณ์และโปรดักชันเดียวกับซีรีส์คุณภาพสูง ซึ่งซาฟรานใช้คำว่า เป็นงานใหญ่ในคุณภาพระดับ HBO และจะเป็นเรื่องราวแกนหลักที่จะแตกแขนงออกเป็นสปินออฟทั้งภาพยนตร์และทีวีซีรีส์อีกหลายเรื่องในอนาคต

‘Paradise Lost’

DCU Chapter 1 Warner Bros. Discovery

เรื่องราวของชนเผ่าอะเมซอน (Amazon) บนเกาะเธอมิสซีรา (Themyscira) ที่จะเล่าในช่วงเวลาก่อนที่วันเดอร์วูแมน (Wonder Woman) จะถือกำเนิด ซึ่งกันน์เผยว่า จะเป็นเรื่องราวของการเมืองที่สวยงามและน่ารังเกียจ ที่อยู่ภายใต้เบื้องหลังสังคมที่มีแต่ผู้หญิงล้วน ให้อารมณ์เหมือนกับซีรีส์ ‘Game of Thrones’ ของ HBO

ในขณะที่เรื่องราวอื่น ๆ ที่ไม่อยู่ภายใต้ DCU อาทิ จักรวาล ‘The Batman’ ของผู้กำกับ แมตต์ รีฟส์ (Matt Reeves) และจักรวาล ‘Joker’ ของผู้กำกับ ท็อดด์ ฟิลลิปส์ (Todd Phillips) หรือแอนิเมชัน ‘Teen Titans Go!’ รวมทั้งซีรีส์ที่ฉายทางช่อง The CW เช่น ‘Superman & Lois’, ‘Gotham Knight’ และหนัง ‘Black Superman’ ของผู้กำกับ เจ.เจ. แอบรัมส์ (J.J. Abrams) และ ทา-เนฮีซี โคตส์ (Ta-Nehisi Coates) จะถูกแยกออกมาต่างหาก และจะถูกเรียกรวมว่าเป็น ‘DC Elseworld’ ที่จะเป็นการเล่าเรื่องของโลกคู่ขนานกับ DCU

โดยโปรเจกต์ในจักรวาล ‘The Batman’ มีทั้งภาคต่อที่จะใช้ชื่อว่า ‘The Batman – Part II’ มีกำหนดฉายในสหรัฐอเมริกา วันที่ 3 ตุลาคม 2025 รวมทั้งซีรีส์สปินออฟ 2 เรื่อง โดยหนึ่งในนั้นคือซีรีส์สปินออฟวายร้าย เดอะ เพนกวิน (The Penguin) รวมทั้งหนังภาคต่อของวายร้าย ‘Joker’ ที่ใช้ชื่อว่า ‘Joker: Folie à Deux’ ที่วางแผนฉายในวันที่ 4 ตุลาคม ปี 2024

ซึ่งหลังจากที่ภาพยนตร์ชุดของ DCEU ดั้งเดิมที่จะฉายในปีนี้จบลง ทั้ง ‘Shazam! Fury of the Gods’ (ฉาย 17 มีนาคม 2023), ‘Blue Beetle’ (ฉาย 18 สิงหาคม 2023) รวมทั้ง ‘The Flash‘ (ฉาย 23 มิถุนายน 2023) และ ‘Aquaman and the Lost Kingdom’ (ฉาย 25 ธันวาคม 2023) จึงจะมีการเริ่มเดินเครื่องภายใต้แผนจักรวาล DCU ต่อไป


ที่มา: DC.com, Variety, Deadline, Discussing Films

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส