วัลคีรี (Valkyrie) คือชื่อเรียกกลุ่มเทพธิดาผู้เป็นข้ารับใช้ของโอดินตามตำนานนอร์ส เรื่องเล่าขาน ตำนาน และปกรณัมของพวกเธอมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เป็นแรงบันดาลใจให้กับวรรณกรรมทั้งยุคเก่าและใหม่มากมาย หนึ่งในนั้นก็คือเรื่องราวของ 13 พี่น้องวัลคีรีผู้เลือกอยู่เคียงข้างมนุษย์จาก ‘Record of Ragnarok’ หรือ ‘มหาศึกคนชนเทพ’ อนิเมะสัญชาติญี่ปุ่นที่ซีซัน 2 กำลังออนแอร์ทาง Netflix
‘Record of Ragnarok’ กล่าวถึงช่วงเวลาที่มนุษย์ต้องถูกพิพากษา เพราะการใช้ชีวิตอย่างอวดดีจนลืมเลือนเหล่าทวยเทพและความเชื่อดั้งเดิม ในการชุมนุมของเหล่าเทพจากตำนานทั่วโลก พวกเขาเลือกให้ทำลายล้างมนุษย์ให้สิ้นไป แต่แล้วกลับมีเทพธิดาองค์หนึ่งกล้าออกมาคัดค้านคำพิพากษานั้น พร้อมเสนอให้ใช้กฎ Ragnarok มาตัดสินชะตากรรมของมนุษย์แทนการล้างบางแบบไร้ทางสู้ เธอก็คือ บรุนฮิลด์ วัลคีรีผู้เลือกอยู่เคียงข้างมนุษย์นั่นเอง
คำเตือน: บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของอนิเมะ ‘Record of Ragnarok’ ซีซัน 1 และซีซัน 2
13 พี่น้องวัลคีรี กับบทบาทใน ‘Record of Ragnarok’
- บรุนฮิลด์ (Brunhilde)
บรุนฮิลด์ คือพี่ใหญ่ในบรรดา 13 พี่น้องวัลคีรีใน ‘Record of Ragnarok’ เธอคือผู้ที่คัดค้านการพิพากษามนุษย์ต่อหน้ามหาเทพอย่างซุส โอดิน รวมถึงเหล่าเทพผู้ยิ่งใหญ่องค์อื่น ๆ อย่างไม่เกรงกลัว รวมถึงเป็นผู้เสนอให้ใช้กฎ Ragnarok เพื่อคัดเลือกตัวแทนของทวยเทพและวีรชนของมนุษย์ ฝั่งละ 13 คนออกมาต่อสู้กัน หากฝั่งใดชนะครบ 7 ครั้งก่อนก็จะได้ชัยชนะไปครอง บรุนฮิลด์เลือกวิธีนี้ก็เพื่อเป็นหนทางรอดให้เหล่ามวลมนุษย์ นอกจากนี้ตลอดเวลาของการแข่งขัน เธอยังคอยวางแผน เลือกเหล่าพี่น้องที่เหมาะสมที่สุด เพื่อส่งไปช่วยบรรดาวีรชนในการต่อสู้ด้วย
- เกล (Göll)
ใน ‘Record of Ragnarok’ เรามักเห็นเกลอยู่ข้าง ๆ บรุนฮิลด์เสมอ เกลคือน้องเล็กในบรรดา 13 พี่น้องวัลคีรี มีนิสัยร่าเริง เข้ากับทุกคนได้ง่าย และยังสนิทสนมกับเหล่าเทพต่าง ๆ ได้ดี ตอนแรกเมื่อบรุนฮิลด์ลุกขึ้นต่อต้านเหล่าเทพ เธอค่อนข้างกลัวและไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไร เพราะไม่อยากให้พี่น้องของตัวเองต้องเอาชีวิตไปเสี่ยง แต่ท้ายที่สุดแล้วเกลก็ยอมรับการตัดสินใจของพี่สาวเพราะตระหนักถึงหน้าที่ของวัลคีรีในการนำทางและอยู่เคียงข้างมวลมนุษย์
- แรนด์กรีส (Randgriz)
แรนด์กรีสคือวัลคีรีที่มาพร้อมรอยยิ้มงามสง่าและพร้อมทำตามความต้องการของบรุนฮิลด์อย่างไม่ลังเล เธอคือวัลคีรีตนแรกที่รับหน้าที่ โวลุนด์ (Völundr) หรือการกลายร่างเป็นศาสตราวุธให้กับตัวแทนฝั่งมนุษย์ โดยจับคู่กับลิโป้ในการต่อสู้รอบแรกของศึก Ragnarok
- เรกินเลฟ (Reginleif)
เรกินเลฟคือวัลคีรีที่ทำหน้าที่ดูแลคลังความรู้แห่งวัลฮัลลา เธอปรากฎตัวพร้อมภาพลักษณ์เงียบขรึม คงแก่เรียน แต่หากพี่น้องต้องการให้ร่วมศึกแล้วล่ะก็ เธอก็ไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย เธอกลายเป็นโวลุนด์ให้กับ อดัม ในศึกรอบสอง
- ฮริส (Hrist)
ฮริสคือวัลคีรีที่ได้รับความเคารพรักจากบรรดาพี่น้องไม่ต่างจากบรุนฮิลด์ เพราะเธออ่อนโยน จิตใจดี และมีเมตตา แต่จริง ๆ แล้วฮริสมีอีกบุคลิกซึ่งตรงข้ามกับนิสัยด้านอ่อนโยนโดยสิ้นเชิง เพราะอีกบุคลิกของเธอเต็มไปด้วยความดุดัน เธอกลายเป็นโวลุนด์ให้กับ ซาซากิ โคจิโร่ ในการต่อสู้รอบที่สาม
- ฮเลิกก์ (Hlökk)
ฮเลิกก์คือวัลคีรีรูปร่างหน้าตาน่ารัก เอาแต่ใจ และหากไม่พอใจอะไรก็จะไม่ทำเด็ดขาด แม้บรุนด์ฮิลจะขอให้เธอเป็นโวลุนด์ให้กับ แจ็ก เดอะ ริปเปอร์ แต่เจ้าตัวก็ปฏิเสธ จนท้ายที่สุดต้องกลายเป็นโวลุนด์ไปแบบไม่เต็มใจในการต่อสู้รอบที่สี่
- ธรูด (Thrud)
ธรูดคือวัลคีรีสุดแกร่งที่มาพร้อมร่างกายกำยำสูงใหญ่ มีพละกำลังมหาศาล แต่ภายในมีอารมณ์อ่อนไหวไม่แพ้หญิงสาวคนไหน ๆ และแน่นอนว่าเธอพร้อมต่อสู้เคียงข้างเหล่าพี่น้องอย่างไม่ลังเล ธรูดกลายเป็นโวลุนด์ให้กับ ไรเดน ในการต่อสู้รอบที่ 5
วัลคีรีใน ‘Record of Ragnarok’ มีทั้งหมด 13 ตนเพื่อจับคู่กับวีรชนทั้ง 13 ของฝั่งมนุษย์ ปัจจุบันอนิเมะเปิดเผยชื่อและรูปร่างหน้าตาแล้ว 7 ตน ส่วนที่เหลือยังไม่ปรากฎตัวอย่างเป็นทางการ
ตำนานวัลคีรี เทพธิดาแห่งสงคราม ผู้ชี้ทางนักรบสู่ดินแดนวัลฮัลลา
ตำนานนอร์สกล่าวว่า วัลคีรีคือกลุ่มเทพธิดาผู้เป็นข้ารับใช้ของโอดิน มีหน้าที่คัดเลือกวิญญาณของนักรบผู้กล้าที่ตายในสงครามเพื่อชี้ทางและนำพาพวกเขาไปสู่วัลฮัลลา ดินแดนหลังความตายของเหล่านักรบ ที่ซึ่งเชื่อกันว่าคือดินแดนแห่งเกียรติยศสูงสุด เพราะวัลฮัลลาคือท้องพระโรงของโอดิน วิญญาณของเหล่านักรบจะได้ร่วมสงครามอันดุเดือดช่วงตอนกลางวัน และร่วมกินดื่มสังสรรค์กันในตอนกลางคืน ท้ายที่สุดพวกเขาจะเข้าร่วมการต่อสู้เคียงข้างโอดินเมื่อถึงสงครามวันสิ้นโลกหรือ Ragnarok
วัลคีรีเป็นชื่อเรียกนักรบหญิง พวกเธอบินลงมาจากฟากฟ้าบนหลังม้าศึก สวมชุดขนหงส์ที่ทำให้บินได้ นอกจากนี้ยังสวมเกราะโซ่ถักยาวถึงเข่าและสวมหมวกเกราะเช่นเดียวกับนักรบผู้ชาย แต่ละตนถือหอกที่เปล่งแสงเจิดจ้า บ้างก็ว่าเป็นหอกเปื้อนเลือดซึ่งเป็นอาวุธที่โอดินโปรดปราน
เมื่อปรากฎตัวเหนือสนามรบ พวกเธอจะบินว่อนทั่วท้องฟ้า เปล่งเสียงในลำคอที่ทั้งข่มขวัญและสร้างความสยดสยองให้กับเหล่านักรบ เนื่องจากมีหน้าที่นำพาดวงวิญญาณที่ตายในสนามรบไปสู่วัลฮัลลา บางตำนานจึงเล่าว่าบางครั้งพวกเธอก็ปรากฎตัวในรูปลักษ์ของอีกาหรือนกแร้งซึ่งเป็นสัตว์ที่สื่อถึงความตายและซากศพ
นอกจากหน้าที่ในการนำพาดวงวิญญาณสู่วัลฮัลลาแล้ว พวกเธอยังทำหน้าที่เป็นข้ารับใช้ในท้องพระโรงให้กับมหาเทพ โดยตำนานกล่าวว่าเหล่าวัลคีรีมีหน้าที่รินเหล้าให้แก่โอดิน รวมถึงกองทัพหนึ่งบุรุษ (the Einherjar) หรือบรรดานักรบที่ถูกพามายังวัลฮัลลาด้วย
แม้เหล่าวัลคีรีจะเป็นที่จดจำในฐานะข้ารับใช้ของโอดิน แต่บางตำนานก็กล่าวว่าพวกเธอรับใช้เทพองค์อื่นด้วยเช่นกัน นั่นคือเทพีเฟรย่าซึ่งเป็นเทพีแห่งเวทมนตร์และความงาม เพราะมีบางตำนานเชื่อว่านอกจากโอดิน ก็มีเฟรย่านี่แหละที่ทำหน้าที่นำทางดวงวิญญาณนักรบไปสู่วัลฮัลลา หากอ้างอิงตามตำนานนี้หลายคนก็มองว่าเฟรย่าอาจเป็นผู้นำของเหล่าวัลคีรีก็เป็นได้ เพราะเธอจะเลือกนักรบที่แกร่งที่สุดครึ่งหนึ่งมาเป็นกองกำลังของตัวเอง ส่วนที่เหลือจะถูกส่งไปยังวัลฮัลลา
อย่างไรก็ตามนักวิชาการหลายคนเชื่อว่าเรื่องราวของวัลคีรีเป็นแค่ส่วนเสริมเติมแต่งในตำนานนอร์ส และเป็นผลพวงมาจากความคิดสร้างสรรค์ที่ถูกถ่ายทอดผ่านบทกวี นอกจากนี้ยังเชื่อว่าแรกเริ่มเดิมทีแล้ววัลคีรีมีภาพลักษณ์เป็นหญิงสาวที่ดูแข็งแกร่งน่าเกรงขามมากกว่าเป็นเทพธิดาที่สง่างาม บ้างก็เชื่อว่ารูปลักษณ์ดั้งเดิมของพวกเธอใกล้เคียงปีศาจมากกว่าด้วยซ้ำ
แถมช่วงแรกแนวคิดเกี่ยวกับวัลคีรีจะเป็นไปในด้านลบมากกว่า ทั้งการปรากฎตัวในร่างอีกาซึ่งสะท้อนถึงความโหดร้ายของสงครามและซากศพที่ถูกทิ้งหลังการรบ รวมถึงการนำดวงวิญญาณไปสู่อเวจีนิรันดร์ ไม่ใช่สรวงสวรรค์อย่างวัลฮัลลา แต่แล้วแนวคิดเกี่ยวกับวัลคีรีก็เปลี่ยนไปในด้านบวกมากขึ้น จนกลายเป็นเรื่องราวเล่าขานเกี่ยวกับวัลคีรีที่เราคุ้นเคยในปัจจุบัน
บรุนฮิลด์ วัลคีรีที่มีชื่อเสียงมากที่สุด
ในบรรดาเรื่องเล่าเกี่ยวกับวัลคีรี หากจะพูดถึงวัลคีรีที่มีชื่อเสียงมากที่สุดก็ต้องเป็น บรุนด์ฮิล เรื่องราวของเธอถูกบันทึกเอาไว้มากมายในตำนานโวลซุงกา (Volsunga) ซึ่งเป็นตำนานนอร์สดั้งเดิม ตำนานเล่าถึงเทพธิดาตนนี้เอาไว้ว่านางได้ทำให้มหาเทพพิโรธเพียงเพราะเลือกคำตอบฝ่ายที่จะชนะสงครามไม่ถูกใจโอดิน พระองค์จึงลงโทษด้วยการให้นางแต่งงานกับมนุษย์
สำหรับเทพธิดาแล้วการแต่งงานกับมนุษย์ถือเป็นการหยามเกียรติอย่างรุนแรง นอกจากนี้ยังเป็นบทลงโทษที่หนักหนาสำหรับบรุนด์ฮิลผู้รักอิสระ แต่บรุนด์ฮิลก็ยอมรับการลงโทษจากโอดิน เพียงแต่มีข้อแม้ว่าเธอจะแต่งงานกับชายที่กล้าหาญที่สุดเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เธอจึงขังตัวเองอยู่ในหุบเขาที่รายล้อมด้วยวงแหวนไฟและหลับใหลไปเพื่อเฝ้ารอชายผู้กล้าหาญมารับตัวเธอ
วันหนึ่ง ซีเกิร์ด (Sigurd) นักรบผู้สังหารมังกร ฟาฟเนียร์ (Fafnir) ได้ฝ่าวงแหวนไฟมาเจอเธอเข้าและปลุกเธอจากการหลับใหล เรื่องราวไม่ได้จบลงแบบมีความสุข เพราะซีเกิร์ดคิดว่าตัวเขายังมีการผจญภัยอีกหลายอย่างรออยู่ จึงทิ้งเธอไว้ที่นั่นและสัญญาว่าจะมารับตัวเธอไป บรุนด์ฮิลเองก็บอกว่าจะรอเขากลับมา
แต่ระหว่างการเดินทางซีเกิร์ดถูกสาปให้ความจำเสื่อม เขาลืมเรื่องราวเกี่ยวกับบรุนด์ฮิลทั้งหมด แถมยังไปแต่งงานกับหญิงอื่นนามว่า กุดรุน (Gudrun – บางตำนานเชื่อว่านางก็คือวัลคีรีเช่นกัน) เรื่องราวยิ่งยุ่งเหยิงเมื่อซีเกิร์ดได้กลับไปยังวงแหวนแห่งไฟอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาใช้เวทมนตร์ปลอมเป็นกุนนาร์ (Gunnar) เพื่อนของตัวเองที่ขี้ขลาดเกินจะฝ่าวงแหวนไฟเข้ามาแต่ก็ต้องการตัวบรุนด์ฮิล
แม้จะยังรักซีเกิร์ดแต่เธอก็ต้องแต่งงานกับกุนนาร์ตามที่ลั่นวาจาเอาไว้ ดังนั้นเธอจึงตามเขากลับไปเพื่อเข้าพิธีแต่งงาน ระหว่างนั้นซีเกิร์ดกับกุนนาร์ก็ทำการสลับใบหน้ากันอีกครั้ง เมื่อเวลาผ่านไป ท้ายที่สุดแล้วบรุนด์ฮิลก็รู้ความจริง เธอวางแผนแก้แค้นด้วยการให้กุนนาร์ไปลอบสังหารซีเกิร์ดจนตาย แต่ด้วยความรักที่ยังมีให้ซีเกิร์ด บรุนด์ฮิลเองก็หัวใจสลาย ความดาร์กยังไม่จบแค่นั้นเพราะต่อมาบรุนด์ฮิลได้ฆ่าลูกชายของซีเกิร์ดแล้วจึงฆ่าตัวตายตามคนที่เธอรักไป
แม้เรื่องเล่าเกี่ยวกับบรุนด์ฮิลจะมีรายละเอียดแตกต่างกันออกไปบ้าง แต่โดยรวมแล้วก็เป็นเรื่องราวของความรักที่ไม่สมหวัง การแก้แค้น รวมถึงฉากจบแบบโศกนาฏกรรมสุดสะเทือนใจจนทำให้เรื่องของวัลคีรีตนนี้โด่งดังและมีชื่อเสียงมากกว่าวัลคีรีตนอื่น ๆ
และนี่ก็คือเกร็ดตำนานเกี่ยวกับวัลคีรี เทพธิดานักรบผู้ชี้นำดวงวิญญาณเหล่าผู้กล้าสู้วัลฮัลลาตามตำนานนอร์ส ซึ่งเข้ามามีบทบาทสำคัญในอนิเมะ ‘Record of Ragnarok’
สามารถรับชม ‘Record of Ragnarok’ ซีซัน 1 (12 ตอน) และซีซัน 2 (10 ตอน) ได้ทาง Netflix
อ้างอิง: blog.vkngjewelry.com, mythologysource.com, Record of Ragnarok Wiki | Fandom
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส