‘Knock at the Cabin’ ผลงานกำกับล่าสุดของเจ้าพ่อภาพยนตร์ระทึกขวัญในยุคนี้อย่าง เอ็ม. ไนท์ ชยามาลาน (M. Night Shyamalan) เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในสหรัฐฯ ด้วยรายได้ 14.2 ล้านเหรียญ (ประมาณ 480 ล้านบาท) ขึ้นอันดับที่ 1 บนตารางบ็อกซ์ออฟฟิศสหรัฐฯ แทน ‘Avatar: The Way of Water’ ที่ตกไปอยู่อันดับที่ 3 ภายหลังจากครองอันดับที่ 1 มานานถึง 6 สัปดาห์ซ้อน
ในส่วนของรายได้ทั่วโลกนั้น 21.2 ล้านเหรียญ (ประมาณ 710 ล้านบาท) จากทุนสร้างราว 20 ล้านเหรียญ (ประมาณ 670 ล้านบาท)
‘Knock at the Cabin’ ได้รับการดัดแปลงจากนิยายเรื่อง ‘The Cabin at the End of the World’ ของ พอล จี. เทรมบ์เลย์ (Paul G. Tremblay) ที่ตีพิมพ์เมื่อปี 2018 ว่าด้วยเรื่องราวของคนแปลกหน้า 3 คน ที่บุกรุกเข้ามาในกระท่อมและบังคับให้หนึ่งในสมาชิกของครอบครัวหนึ่งต้องสละชีพเพื่อหยุดเหตุการณ์วันสิ้นโลก ซึ่งเป็นแนวระทึกขวัญบีบอารมณ์อย่างที่ชยามาลานถนัด โดยตัวภาพยนตร์ได้รับคะแนนวิจารณ์จาก Rotten Tomatoes ไปในระดับกลาง อยู่ที่ 68%
อันดับที่ 2 ตกเป็นของ ’80 for Brady’ ภาพยนตร์คอมเมดี้รวมทีมนักแสดงหญิงรุ่นเก๋า ว่าด้วยเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนหญิงที่เดินทงไปชมการแข่งขัน Super Bowl และได้พบกับ ทอม เบรดี้ (Tom Bradey) ผู้ควอเตอร์แบ็กระดับตำนานของวงการ NFL ยุคปัจจุบัน
’80 for Brady’ เป็นผลงานเปิดตัวเบรดี้ในวงการฮอลลีวูดเป็นเรื่องแรก โดยเก็บรายได้ไป 12.5 ล้านเหรียญ (ประมาณ 420 ล้านบาท)
อันดับที่ 3 ตกเป็นของแชมป์เก่าอย่าง ‘Avatar: The Way of Water’ ที่ถึงแม้จะเก็บรายได้ในสหรัฐฯ เพิ่มไปอีกเพียง 10.8 ล้านเหรียญ (ประมาณ 360 ล้านบาท) แต่รายได้รวมในสหรัฐฯ นั้นสูงถึง 636.4 ล้านเหรียญ (ประมาณ 21,300 ล้านบาท) อยู่ในอันดับที่ 10 ของภาพยนตร์ทำรายได้ในสหรัฐฯ สูงสุดตลอดกาล รองจาก รองจาก ‘Jurassic World’ (2015)
ส่วนรายได้ทั่วโลกนั้นอยู่ที่ 2,174.4 ล้านเหรียญ (ประมาณ 72,800 ล้านบาท) อยู่ในอันดับที่ 4 ของภาพยนตร์ทำรายได้ทั่วโลกสูงสุดตลอดกาล รองจาก ‘Titanic’ (1997)
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส