ในปี 2022 เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) นักร้องวัย 33 ปี กลับมาอีกครั้งพร้อมกับผลงานสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 10 ชื่อว่า ‘Midnights’ ซึ่งอัลบั้มชุดนี้ ทำให้เธอกวาดรายได้ไปกว่า 92 ล้านเหรียญ หรือ 3,151 ล้านบาท และส่งให้เธอกลายเป็นศิลปินหญิงเพียงคนเดียวจาก 10 คนบันเทิงที่ทำรายได้สูงสุดในปี 2022 จากการรายงานของ Forbes

Forbes ได้จัดอันดับโดยพิจารณารายได้ของแต่ละคนก่อนหักภาษี รวมถึงค่าธรรมเนียมต่าง ๆ และต้นทุนการดําเนินงานทางธุรกิจทั้งหมดในปี 2022

ถึงแม้ว่าอัลบั้ม ‘Midnights’ จะทำให้สวิฟต์ สามารถคว้ารางวัลแกรมมีได้เพิ่มเป็น 12 สมัยและกลายเป็นศิลปินคนแรกในประวัติศาสตร์ที่มีเพลงครองตําแหน่ง 10 อันดับแรกบน Billboard Hot 100 แต่รายได้ของเธอก็ยังคงน้อยกว่าวงโปรเกรสซีฟร็อกระดับตำนานอย่าง Genesis ซึ่งเมื่อปีที่แล้วสามารถกวาดรายได้ไปกว่า 230 ล้านเหรียญ หรือราว 7,879 ล้านบาท Forbes จึงจัดให้ Genesis เป็นอันดับ 1 สำหรับของคนบันเทิงที่ทำรายได้สูงสุดในปี 2022

เจเนซิส

ส่วนอันดับที่ 2 นั้นตกเป็นของ สติง (Sting) นักร้องชาวอังกฤษ วัย 71 ปี โดยเขาทำรายได้สูงถึง 210 ล้านเหรียญ หรือ 7,194 ล้านบาท อันดับที่ 3 เป็นของนักแสดงชาวอเมริกัน ไทเลอร์ เพอร์รี (Tyler Perry) ทำรายได้ไปทั้งหมด 175 ล้านเหรียญ หรือ 5,995 ล้านบาท อันดับที่ 4 เทรย์ พาร์กเกอร์ (Trey Parker) และ แมตต์ สโตน (Matt Stone) สองผู้ให้กำเนิดซีรีส์แอนิเมชันซิตคอมเรื่อง ‘South Park’ ซึ่งทำรายได้ไปกว่า 160 ล้านเหรียญ หรือ 5,481 ล้านบาท อันดับที่ 5 เจมส์ แอล. บรูกส์ (James L. Brooks) และ แมต เกรนิง (Matt Groening) สองผู้สร้างการ์ตูน ‘The Simpsons’ กวาดรายได้ไป 105 ล้านเหรียญ หรือ 3,597 ล้านบาท

อันดับที่ 6 แบรด พิตต์ (Brad Pitt) นักแสดงชื่อดัง โดยเขาสามารถทำรายได้ไปกว่า 100 ล้านเหรียญ หรือ 3,425 ล้านบาท อันดับที่ 7 เดอะโรลลิงสโตนส์ (Rolling Stones) วงดนตรีร็อก ชาวอังกฤษ ทำรายได้ 98 ล้านเหรียญ หรือ 3,357 ล้านบาท อันดับที่ 8 เจมส์ แคเมรอน (James Cameron) ผู้กำกับชื่อดังซึ่งปี 2022 เข้ากวาดรายได้ไป 95 ล้านเหรียญ หรือ 3,252 ล้านบาท และอันดับสุดท้ายที่ 10 ตกเป็นของแรปเปอร์หนุ่ม แบด บันนี (Bad Bunny) ซึ่งทำรายได้ไปกว่า 88 ล้านเหรียญ หรือ 3,041 ล้านบาท

แบด บันนี่

สำหรับในปี 2023 นี้ถือว่าเป็นอีกปีที่ยิ่งใหญ่สําหรับสวิฟต์ เพราะเธอจะมีคอนเสิร์ตทัวร์ ซึ่งจะเริ่มจัดขึ้นภายในเดือนมีนาคมเร็ว ๆ นี้

ที่มา forbes, cnbc

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส