เป็นเรื่องเศร้าที่สร้างความเสียใจให้กับศิลปิน คนดนตรี และแฟนเพลงทั่วประเทศจากการสูญเสียบุคลากรสำคัญของวงการเพลงไทย ‘โต้ง-มณเฑียร แก้วกำเนิด’ มือกีตาร์วง P.O.P และศิลปินเดี่ยวในนาม Save Da Last Piece ที่ได้เสียชีวิตอย่างกะทันหันจากโรคประจำตัว เพื่อเป็นการรำลึกถึงคนดนตรีคุณภาพคนนี้ Beartai Buzz ได้รวบรวมเรื่องราวตั้งแต่จุดเริ่มต้นบนเส้นทางดนตรีตั้งแต่ยุค P.O.P. จนถึงผลงานในนาม ‘Save Da Last Piece’
‘โต้ง – มณเฑียร แก้วกำเนิด’ เข้าวงการดนตรีมาในฐานะนักแต่งเพลง และขึ้นเป็นโปรดิวเซอร์ ก่อนเริ่มขยับมาทำงานเบื้องหน้าในฐานะมือกีต้าร์ของวง P.O.P. และมีผลงานอัลบั้มเดี่ยวในชื่อ ‘Save Da Last Piece’
โต้งชอบเล่นดนตรีมาตั้งแต่เด็ก จบการศึกษาระดับมัธยมที่โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์ พอช่วงมัธยมปลายก็ตัดสินใจไปเรียนดนตรีจริงจังที่วิทยาลัยดนตรีเบิร์กเลย์ (Berklee College of Music) หลังเรียนจบก่อนกลับไทย โต้งได้ทำเดโมไว้หนึ่งเพลง ซึ่งเดโมเพลงนี้นี่เองที่ทำให้ สมเกียรติ อริยะชัยพาณิชย์ หรือ Mr.Z (ผู้ก่อตั้งค่ายเบเกอรี่มิวสิก) เรียกโต้งเข้าไปทำงานในฐานะนักแต่งเพลงที่เบเกอรี่มิวสิก
ในตอนแรกที่ตั้งวง P.O.P. ทุกคนตั้งใจให้เป็นเพียงวงเฉพาะกิจในช่วงวิกฤตของวงการเพลงจากเทปผีซีดีเถื่อนที่ระบาดอย่างหนักในช่วงปี พ.ศ. 2541 โต้งรู้จักกับ ป๊อด (ธนชัย อุชชิน) ซึ่งได้แนะนำให้รู้จักกับ (นภ พรชำนิ) ที่เป็นเพื่อนของป๊อด ส่วนก้อ (ณฐพล ศรีจอมขวัญ) นั้นเป็นรุ่นน้องของโต้ง ทั้งสามเลยชักชวนกันมาทำเพลงด้วยกัน และเป็นครั้งแรกที่โต้งได้มีโอกาสโปรดิวซ์งานเพลง จนกระทั่งฝีมือเข้าหูเข้าตา สมเกียรติ อริยะชัยพาณิชย์ และ บอย โกสิยพงษ์ จึงได้มีโอกาสโปรดิวซ์งานเรื่อยมา
วง P.O.P (ย่อมาจาก Period of Party) ในช่วงแรกประกอบไปด้วย 3 สมาชิกคือ โต้ง-มณเฑียร แก้วกำเนิด นภ พรชำนิ และ ก้อ-ณฐพล ศรีจอมขวัญ โดยใช้ชื่อ TNK ในช่วงที่เริ่มส่งเดโมให้กับทางค่าย ย่อมาจาก โต้ง, นภ และ ก้อ ซึ่งเรียงตามความสูงของแต่ละคน ก่อนจะเปลี่ยนเป็น P.O.P และมีผลงานอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากอีพี ‘Era’ ในปี พ.ศ. 2541 ต่อมามีอัลบั้มเต็มโดยใช้ชื่อเดียวกับวงคือ ‘P.O.P’ และอัลบั้มอะคูสติกอย่าง ‘In The Room’ ในปี พ.ศ. 2543 P.O.P มีผลงานเพลงที่ได้รับความนิยมมากมายอาทิ “แค่ได้พบเธอ”, “ที่แห่งนี้”, “รักของเธอมีจริงหรือเปล่า” และ “ไม่มี” หลังจากช่วงเวลานั้นสมาชิกแต่ละคนต่างแยกย้ายกันไปทำผลงานของตัวเอง ก้อ เริ่มก่อตั้งวง ‘Groove Riders’ ส่วน นภ ก็มีอัลบั้มเดี่ยวของตัวเองที่ชื่อ ‘The Beginning’
ต่อมา P.O.P ทั้ง 3 คนได้กลับมารวมตัวกันทำอัลบั้มสุดท้าย ‘S’ ซึ่งย่อมาจาก Summary ในปี พ.ศ. 2546 และประกาศยุติบทบาทของวงในคอนเสิร์ตครั้งสุดท้าย ‘An Era Has Been Completed’ วันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2547 ณ อิมแพค อารีนา เมืองทองธานี
ในปี พ.ศ. 2554 ทางวงได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งภายใต้สังกัด LOVEiS (เลิฟอีส) และประกาศเพิ่มสมาชิกใหม่อย่างเป็นทางการ ซึ่งมี เจอรี่-ศศิศ มิลินทวนิช หรือ เจอรี่ ‘2 Days Ago Kids’ และ สมเกียรติ อริยะชัยพาณิชย์ เข้าร่วมเป็นสมาชิกของวง โดยเปิดตัวด้วยซิงเกิลเพลง “ลมหายใจ” ต้นฉบับของ สมเกียรติ ที่นำกลับมาเรียบเรียงใหม่ และได้ออกซิงเกิล “คนที่ไม่บอกผ่าน” (Non Passer By) ในปี พ.ศ. 2555 กับออกอัลบั้ม ‘Rock’ ในปี 2556 มีผลงานเด่น ๆ อย่าง “ได้ยินความรักบ้างไหม” “คนที่ไม่บอกผ่าน” “ลมหายใจ”
ก่อนหน้าที่ P.O.P. จะกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง โต้งได้มีโอกาสทำงานผลงานเดี่ยวภายใต้ชื่อ ‘Save Da Last Piece’ กับทาง Spicy Disc ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2547 โดยมี พิชัย จิราธิวัฒน์ เป็นกรรมการผู้จัดการ และได้เป็นสมาชิกคนแรกของค่าย
โต้ง หรือ ‘Save Da Last Piece’ ได้ออกอัลบั้ม ‘Appetizer’ ในปีพ.ศ. 2548 หนึ่งในอัลบั้มยุคเริ่มต้นของค่าย Spicy Disc ที่ได้เพื่อนพ้องน้องพี่ในวงการดนตรีมาร่วมงานมากมายอาทิ ธีร์ ไชยเดช, นภ พรชำนิ, บอย ตรัย ภูมิรัตน , Groove Riders, อพาร์ทเมนต์คุณป้า, นู๋ Kidnappers , UNKLE T และศิลปินอื่น ๆ อีกมากมาย ที่มาร่วมร้องร่วมแจมในงานเพลงของ Save Da Last Piece เช่น บุรินทร์ & ตุลย์ อพาร์ทเม้นคุณป้าในเพลง “กลับ” นภ พรชำนิในเพลง “แม้” บอย ตรัย ภูมิรัตนในเพลง “คอย” นู๋-มนทิพย์ ลิมปิสุนทร นักร้องนำ วงคิดแนปเปอร์ในเพลง “อย่า” หรือแม้แต่ผู้บริหารค่ายอย่างพิชัย จิราธิวัฒน์ (UNKLE T) ก็มาแจมในเพลง “ขอ” ด้วยความที่โต้งเป็นโปรดิวเซอร์ ทำให้รู้จักศิลปินอย่างดีจึงรู้ว่าคาแรกเตอร์ของแต่ละคนเป็นอย่างไร จึง
ได้หยิบเอาจุดเด่นและเอกลักษณ์ของแต่ละคนมาใช้ได้อย่างกลมกล่อม อัลบั้มนี้การันตีความดีงามด้วยรางวัล Male Artist of the Year จากเวที FAT AWARDS ครั้งที่ 4 ในปี พ.ศ.2549
‘Appetizer’ เปิดอัลบั้มด้วยเพลง “เก็บ” เพลงที่โต้งแต่งเองร้องเอง ด้วยท่วงทำนองที่สว่างใส เนื้อร้องและเสียงร้องที่จริงใจ จึงทำให้เพลงนี้เป็นเสียงแรกของอัลบั้มที่เชื้อเชิญให้เราฟังเพลงต่อ ๆ ไปอย่างเพลิดเพลินจนจบอัลบั้ม
“จะเก็บชิ้นสุดท้าย
ยังไม่ยอมให้ใคร
นานเท่าไหร่ก็ยังจะเก็บไว้
ไม่ยอมให้ใครได้ไปสักที”
หากใครคิดถึง P.O.P. การได้ฟังเพลง “แม้” ที่ได้น้ำเสียงนุ่มละมุนของ “นภ พรชำนิ” ในท่วงทำนองฟีลกู๊ด อบอุ่นที่ผสานไปกับไลน์กีต้าร์ที่มีเอกลักษณ์ของโต้ง ก็เป็นอะไรที่โดนใจวัยรุ่น Y2K นัก “แม้นานสักเพียงไหน แสนนานสักเพียงไหน ก็ยังคงเป็นเหมือนวันเก่า”
“คอย” ได้น้ำเสียงอุ่นละมุนของบอย ตรัย ภูมิรัตน ถ่ายทอดอารมณ์ของคนที่คอยต่อไปแม้ไม่รู้ว่าจะมีใครเดินกลับมาหรือไม่ “เหมือนคอยใคร… ใครสักคนที่เขาได้เดินจากไปแล้ว” เป็นเพลงที่โดนใจคนสายเหงามาก
บอย ตรัย กับโต้งนับว่าเป็นมิตรสหายทางดนตรีที่มีความใกล้ชิดกันมาก โต้งเคยเป็นโคโปรดิวซ์อัลบั้มเดี่ยวชุดแรกของบอย ‘my diary original soundtracks’ ซึ่งเพิ่มเสน่ห์บางอย่างให้กับอัลบั้มชุดนี้ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ชื่อโปรเจกต์ ‘Save Da Last Piece’ ก็ยังมาจากไอเดียของบอย ในค่ำคืนหนึ่งที่ทั้งคู่นั่งดื่มด้วยกันในช่วงที่ได้ออกทัวร์ร่วมกัน บอยได้ยุให้โต้งทำอัลบั้มเดี่ยว ในตอนที่ถั่วในจานกำลังจะหมดก็เลยแนะนำให้ตั้งชื่อโปรเจกต์ว่า ‘ชิ้นสุดท้ายแฟนสวย’ หลังจากนั้นโต้งเลยเปลี่ยนมาเป็นแบบเก๋ ๆ ว่า ‘Save Da Last Piece’
“กลับ” คือบทเพลงของหนุ่มทรงแบดที่กำลังแซดจากการห้ามใจไม่ให้คิดถึงแฟนเก่า ที่ได้น้ำเสียงเท่ ๆ ของ ‘บุรินทร์ Groove Riders’ และสไตล์การแรปคูล ๆ ของ ‘ตุลย์ อพาร์ทเมนต์คุณป้า’ และโดดเด่นด้วยท่อนโซโลกีต้าร์กลางเพลงของโต้ง ทำให้เป็นหนึ่งเพลงที่น่าประทับใจในอัลบั้มนี้เลย “ลองทำใจดูไม่คิด มันก็ยังไม่หยุดคิดถึงใคร ทำใจยังไม่ยอมหยุด”
ใครสนใจแผ่นเสียงอัลบั้มนี้สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ที่ spicydiscshop
ต่อมาในปี 2560 Save Da Last Piece ได้ออก Ep. อัลบั้ม ‘Soup’ ซึ่งมีกระบวนการทำงานที่แตกต่างจาก ‘Appetizer’ อยู่เล็กน้อย เพราะคราวนี้โต้งเลือกที่จะถอยออกมาอยู่วงนอก คอยคุมงานอยู่ และให้ศิลปินทั้ง 3 วงที่มาร่วมงานได้แก่ Nap A Lean, Mild และ Better Weather ได้ปรุงปรุงอาหารรสอร่อยจากวัตถุดิบคุณภาพของโต้งที่ชิม ชม ตบ แนะให้กลมกล่อมลงตัว ด้วยความที่เป็นคนชอบทำอาหาร (ซึ่งมีคนเรียกร้องให้เขาเปิดร้านราดหน้าอยู่บ่อย ๆ ) การทำงานในอัลบั้มนี้ โต้งจึงมองกระบวนการของมันคล้ายกับการทำอาหาร โต้งได้วางตัวเองเป็นเชฟใหญ่ที่มองภาพรวมและคอยป้อนวัตถุดิบให้กับศิลปินคนอื่น ๆ ได้ปรุงอาหารด้วยรสมือของตัวเอง ฟุ้ง-อัครชนช์ ราชปันดิ หรือ ฟุ้ง มือกีตาร์หนุ่มจากวง Better Weather กล่าวว่าโต้งนั้นเป็น “อาจารย์ผู้ที่คอยสอนผม ด่าดุ แต่ใจดี ไอดอลด้านการเล่นกีต้าร์ผมมาทั้งชีวิต พี่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมด้านโปรดิวซ์ ด้านการฟังเพลง ทำอาหาร”
‘Soup’ มีความเป็น Save Da Last Piece ที่ผสานไปกับเอกลักษณ์อันโดดเด่นของทั้ง 3 ศิลปินซึ่งในแต่ละเพลงจะมีคาแรกเตอร์ที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดทั้ง Nap A Lean ในเพลง “จดหมาย”, Mild ในเพลง “ยอมแพ้” และ Better Weather ในเพลง “Last Time”
จริง ๆ แล้วโต้งกำลังวางแผนที่จะปล่อยอัลบั้มชุดใหม่ของ Save Da Last Piece แต่ด้วยการต้องเผชิญกับปัญหาด้านสุขภาพทำให้แผนงานมีอันต้องเลื่อนไป และในที่สุด โต้ง – มณเฑียร แก้วกำเนิด คนดนตรีคุณภาพมากความสามารถคนนี้ก็ได้จากไปอย่างสงบท่ามกลางความเสียใจและความคิดถึงของครอบครัว เพื่อนร่วมวงการและแฟน ๆ ทิ้งไว้ซึ่งผลงานดี ๆ ทั้งจากวง P.O.P. , Save Da Last Piece , ผลงานที่ทำร่วมกับศิลปินคนอื่น ๆ และแรงบันดาลใจอีกมากมายที่โต้งได้ส่งต่อให้กับเพื่อน ๆ ทั้งหลาย
Beartai Buzz ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของพี่โต้ง มณเฑียร มา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ที่มา
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส