ไมค์ แฟลนากัน (Mike Flanagan) ผู้สร้างซีรีส์สยองขวัญสุดฮิตอย่าง ‘The Haunting of Hill House’ และ ‘Midnight Mass’ ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการพอดแคสต์ Script Apart ซึ่งเขาได้เปิดเผยแนวคิดของเขาในการนำภาพยนตร์สยองขวัญระดับตำนานอย่าง ‘A Nightmare on Elm Street’ มาปัดฝุ่นเป็นเวอร์ชันใหม่
เขาได้กล่าวว่าเขาได้เตรียมการนำเสนอวิสัยทัศน์ในการสร้าง ‘A Nightmare on Elm Street’ มานานหลายปี และเขายังได้กล่าวถึงเมื่อครั้งที่เขาได้นำไอเดียที่จะกำกับ ‘A Nightmare on Elm Street’ เวอร์ชันใหม่ไปเสนอให้เอเยนต์ของเขา ซึ่งเอเยนต์ก็สับสนไปหมด เพราะไม่รู้ว่าจะต้องติดต่อใครหรือเสนอไอเดียนี้ต่อใครต่อไป
“นี่เป็นหนึ่งในแฟรนไชส์ที่ผมชื่นชอบมากที่สุด ซึ่งถ้ามีโอกาสได้สร้างก็จะเป็นอะไรที่สนุกมากแน่ ผมได้พยามนำเสนอไอเดียใหม่ทั้งหมดเมื่อ 2 – 3 ปีก่อน และตามที่ผมเข้าใจนั้น แฟรนไชส์ยังมีปัญหาด้านลิขสิทธิ์ที่ซับซ้อนอยู่ ไม่มีใครทราบว่าใครเป็นผู้ควบคุมสิทธิ์ในแฟรนไชส์นี้จริง ๆ ไม่มีใครรู้ว่าจะต้องเสนอไอเดียต่อใคร
ผมได้นำเรื่องนี้ไปคุยกับเอเยนต์ เขาก็บอกว่าไม่รู้ว่าต้องไปคุยกับใคร ผมใช้เวลาเกือบ 1 ปี กับ เฮเทอร์ แลงเกนแคมป์ (Heather Langenkamp) นักแสดงนำจาก ‘A Nightmare on Elm Street’ เวอร์ชันต้นฉบับ เราได้คุยกัน และดูเหมือนว่าไม่มีใครที่รู้ว่าจะต้องทำอะไรต่อเลย”
แฟลนากันนั้น ถือได้ว่าเป็นผู้สร้างและผู้กำกับภาพยนตร์สยองขวัญคลื่นลูกใหม่ที่มาแรงมากในยุคนี้ โดยจะเป็นได้จากผลงานกำกับภาพยนตร์สยองขวัญที่เต็มไปด้วยลูกล่อลูกชนใหม่ ๆ อย่าง ‘Oculus’ (2013), ‘Ouija: Origin of Evil’ (2016) และ ‘Doctor Sleep’ (2019) รวมไปถึงซีรีส์สยองขวัญที่ประสบความสำเร็จของ Netflix อย่าง ‘The Haunting of Hill House’, ‘The Haunting of Bly Manor’ และ ‘Midnight Mass’ ซึ่งถ้าหากแฟลนากันได้มีโอกาสรีบูต ‘A Nightmare on Elm Street’ จริง ๆ ก็นับว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากสำหรับแฟรนไชส์นี้ที่ผู้ชมเริ่มลืมเลือนมันไปทุกที
‘A Nightmare on Elm Street’ เวอร์ชันต้นฉบับเมื่อปี 1984 เป็นผลงานกำกับของ เวส เครเวน (Wes Craven) โดยได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์สยองขวัญที่ดีที่สุดตลอดกาล จากนั้นจึงได้มีการสร้างภาคต่ออีกหลายภาคตั้งแต่ปี 1985 จนถึงปี 2003 และได้มีการรีเมกในปี 2010 โดยผู้กำกับ ซามูเอล ไบเออร์ (Samuel Bayer) จากการอำนวยการสร้างของ ไมเคิล เบย์ (Michael Bay) แต่ประสบความล้มเหลวในทุก ๆ ด้าน จนไม่สามารถสานต่อแฟรนไชส์นี้ได้
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส