หากพูดถึงนักกีฬาที่ถูกยกย่องให้เป็น G.O.A.T หรือย่อมาจาก “The Greatest of All Time” ในยุคนี้ โดยเฉพาะฝั่งของวงการ Motorsport ชื่อของ มาร์ก มาร์เกซ (Marc Márquez) นักบิดแชมป์โลก 8 สมัย จากทีม เรปโซล ฮอนด้า ก็น่าจะเป็นชื่อแรก ๆ ที่คนนึกถึง
หลังกวาดแชมป์โลกครั้งที่ 8 มาครองได้ มาร์เกซก็ต้องพบกับจุดเปลี่ยนของชีวิต เขาประสบอุบัติเหตุที่บริเวณแขนขวา อีกทั้งยังประสบปัญหาภาพซ้อน หรืออาการ Diplopia จนทำให้เขาต้องหยุดพักบิดมอเตอร์ไซค์นานแรมปี
เรื่องราวการฝ่าฟันกับอาการบาดเจ็บของมาร์เกซ ถูกนำมาเล่าผ่านซีรีส์สารคดี ‘Marc Márquez All In’ สารคดีสะท้อนชีวิตเรื่องแรกของมาร์เกซที่ถูกสร้างสรรค์โดย Prime Video ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ beartai BUZZ ได้มีโอกาสนั่งพูดคุยแบบ Exclusive กับยอดนักบิดชาวสเปนรายนี้ เกี่ยวกับเรื่องราวที่ถูกเล่าผ่านซีรีส์เรื่องนี้ ทั้งการก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาอันยากลำบาก ความเจ็บปวดที่ช่วยให้เขาเติบโต และแรงผลักดันที่ทำให้เขากลับมาอีกครั้ง
จริงไหมที่คุณเกือบจะรีไทร์ไปแล้ว
มาร์เกซ: อย่างที่ทุกคนเห็น สารคดีเรื่องนี้มาจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในชีวิตนักกีฬาของผม สารคดีมีการถ่ายทำตอนช่วงที่ผมชนะ หรือประสบความสำเร็จ สารคดีเริ่มต้นจากการที่ผมมีฤดูกาลที่ยากลำบาก ระหว่างฤดูกาลผมก็มามีปัญหาด้านการมองเห็น แถมผมยังต้องมีผ่าตัดที่แขนด้วย มีครั้งหนึ่งน่าจะช่วงเดือนเมษายน เรื่องที่ผมจะรีไทร์ถูกหยิบขึ้นมาพูด และก็มีแนวโน้มว่าผมอาจจะต้องรีไทร์ เพราะผมไม่มีความสุขเลย แล้วก็ทนทุกข์มาก ๆ จากอาการบาดเจ็บที่แขน แล้วผมก็ไปหาหมออีกครั้ง และพวกเขาก็หาทางออกให้กับแขนของผม จากนั้นผมก็ตัดสินใจว่า โอเคเราจะผ่าตัดกันอีกครั้ง หลังจากนั้นเราค่อยมาดูผลลัพธ์กัน แต่มันมีช่วงหนึ่งเลยที่ผมเกือบจะเลิกแข่งไปแล้ว
อะไรคือแรงผลักดันให้กลับมาลงแข่งอีกครั้ง
มาร์เกซ: ที่ผมกลับมาลงแข่งอีกครั้ง เพราะผมยังมีแพสชันกับสิ่งนี้อยู่ ผมยังรู้สึกอยากแข่งขัน และผมยังรู้สึกว่าตัวเองสามารถต่อสู้เพื่อคว้าแชมป์ได้ ตอนนี้ผมมีความสุขกับสภาพร่างกายมาก ทุกอย่างดีขึ้นอย่างมาก จึงไม่มีเหตุผลเลยที่ผมจะเลิก
อาการบาดเจ็บทำให้ทุกเติบโตขึ้นอย่างไร
มาร์เกซ: ในทุก ๆ ปี ผมมีความเชื่อว่า ผมจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ และเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น คือในฐานะนักกีฬา เราต้องอยู่ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป ผมตอนอายุ 30 ก็ไม่ใช่คนเดิมกับตอนอายุ 20 แล้ว หลังจากผ่านช่วงเวลาสองปีที่ยากลำบากและทรมาน แม้ผมจะเป็นผู้ใหญ่ขึ้น คือผมก็ยังเป็นมาร์กคนเดิมแหละ แต่ผมมีมุมองทางความคิดในสิ่งต่าง ๆ ที่แตกต่างออกไปจากเมื่อก่อน ซึ่งผมชอบมันนะ เพราะสุดท้ายแล้วสิ่งนี้ทำให้ผมแข็งแกร่งขึ้น
ในมุมหนึ่งความแข็งแกร่งในที่นี้ ไม่ได้หมายความว่าต้องเร็วที่สุดในสนามแข่งอย่างเดียว แข็งแกร่งหมายถึงบุคลิกภาพที่แข็งแกร่ง หรือแม้กระทั่งลักษณะนิสัย และที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งในช่วงเวลานั้น ๆ ด้วย
นอกสนามเป็น ‘คนธรรมดา’ ในสนามเป็น ‘ตัวแสบ’
มาร์เกซ: นี่เป็นอะไรที่คนรอบข้างผม มักจะพูดกับผมเสมอ “นายเป็นอีกคนหนึ่งเลยนะเวลาอยู่บ้าน นายเงียบ แถมดูผ่อนคลาย แต่เวลานายอยู่ในสนาม นายเหมือนกับสัตว์ ที่ชอบจู่โจม หรือตามหาสิ่งที่ดีที่สุดตลอดเวลา” ผมชอบการแข่งขัน ผมเป็นคนที่มีบุคลิกชอบการแข่งขัน นี่คือเรื่องจริงเลยนะ ถ้าผมไม่มีอะไรต้องให้ชนะ ผมจะผ่อนคลาย แต่ทันทีที่ผมต้องเล่นอะไรบางอย่าง หรือมีการแข่งขันเกิดขึ้น ไม่สำคัญว่ากีฬาชนิดใด ผมจะสวมจิตวิญญาณของคนชอบเอาชนะทันที
‘ป้องกัน’ หรือ ‘โจมตี’
มาร์เกซ: ผมขอเลือกตามหลังและหาทางจู่โจมดีกว่า แต่แน่นอนผมก็อยากนำในการชิงแชมป์ด้วย นั่นหมายความว่าผมต้องอยู่ในตำแหน่งที่ต้องคอยป้องกัน แต่ถ้าให้เลือกในการแข่ง ผมขอเลือกแบบเปิดโหมดโจมตีดีกว่า
ชอบอะไรในซีรีส์สารคดีเรื่องนี้
มาร์เกซ: สิ่งที่ผมชอบในสารคดีเรื่องนี้มากที่สุด คือเวลาผมดูมันผมเห็นตัวเอง มันเหมือนกับเรื่องราวชีวิตดราม่า ๆ แน่นอนผมไม่ได้ตั้งใจสร้างอะไรแบบนั้นขึ้นมา ทุกคนจะได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของผมตลอดเวลา ผ่านช่วงเวลาที่แตกต่างกันออกไป
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดตลอดกาล
มาร์เกซ: 2019 เป็นอีกปีที่พิเศษสำหรับผม คือผมค่อนข้างเลือกไม่ถูกระหว่างสองปีนี้ก็คือ 2014 กับ 2019 เพราะปี 2019 ผมก็ชนะหลายสนามเหมือนกัน แล้วผมก็ลงเอยเป็นแชมป์ในประเทศไทยด้วย ผมสนุกมาก ๆ กับปี 2019
ตอนนี้คุณอายุ 30 ปี แต่มากไปด้วยประสบความสำเร็จ ชัยชนะที่ได้มันทำให้คุณรู้สึกแก่ขึ้นกว่าเดิมไหม
มาร์เกซ: ผมไม่รู้สึกแก่เลยนะ อย่างวันนี้ผมก็อายุ 30 พอดี แต่ผมไม่รู้สึกแก่เลย คือด้านร่างกายผมยังดีมาก ๆ แน่นอนว่าเราทำงานมากในช่วงเวลาที่เหมาะสม แต่ในส่วนของด้านคาร์ดิโอทุกอย่าง ผมรู้สึกดีจริง ๆ แข็งแรงมาก และผมก็ไม่รู้สึกแก่เลย ผมมีความคิดที่โตขึ้นและมีประสบการณ์ที่มากขึ้น แต่ผมก็ยังเป็นเด็กคนเดิม ที่ชอบเล่น ที่สนุกไปกับชีวิต และมันจะเป็นสิ่งที่ผมใช้ดำเนินชีวิตต่อไป
ความกดดันสำคัญกับคุณอย่างไร
มาร์เกซ: สำหรับผมความกดดันคือ เรื่องของความรับผิดชอบ ผมรักและชอบมันนะ ความกดดันก็เหมือนอะดรีนาลีน คุณจะรู้สึกได้ถึงความรับผิดชอบและความตึงเครียดในร่างกายของคุณ
ถ้าไม่มีการแข่งขัน วันว่างแสนเพอร์เฟกต์ของ ‘มาร์ก มาร์เกซ’ จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร
มาร์เกซ: วันอาทิตย์แสนสุขที่ไม่มีการแข่งขัน สำหรับผมน่าจะเป็นการตื่นนอนโดยไม่ต้องมีนาฬิกาปลุก จากนั้นผมก็คงไปเดินเล่นกับสุนัขของน้อง หาอาหารเช้าดี ๆ กินสักมื้อ วิ่งลู่วิ่งสักหน่อยก็คงดี ส่วนตอนบ่ายผมชอบที่จะผ่อนคลาย อาจจะนั่งเล่นเกมเพลย์ หรือนั่งดูกีฬาประเภทอื่น ๆ ผมชอบดูฟุตบอลมาก ผมคงหมดวันไปพร้อมกับการดูบาร์เซโลนาแข่งกับทีมไหนสักทีม แล้วก็กินพิซซ่าไปด้วย มันคงเป็นวันอาทิตย์แสนสุขของผมเลยแหละ
สำหรับซีรีส์สารคดี ‘Marc Márquez All In’ มีให้รับชมทั้งหมด 5 ตอน รับชมได้ทาง Prime Video
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส