The Hollywood Reporter ได้รายงานว่า เบน แอฟเฟล็ก (Ben Affleck) นักแสดงหนุ่มใหญ่วัย 50 ปี ได้ยืนยันว่าไม่สนใจที่จะกำกับภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโรในจักรวาล DC ภายใต้การดูแลของ DC Studios ที่ เจมส์ กันน์ (James Gunn) และ ปีเตอร์ ซาฟราน (Peter Safran) เป็นซีอีโอร่วมกัน ซึ่งเป็นการยุติบทบาทของแอฟเฟล็กในจักรวาล DCU ใหม่นี้อย่างเป็นทางการ
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา แอฟเฟล็กได้ประกาศว่าจะเขียนบท, กำกับ และนำแสดงภาพยนตร์ ‘Batman’ ในจักราล DCEU (DC Extended Universe) ที่ในตอนนั้นยังอยู่ภายใต้การดูแลของ แซ็ก สไนเดอร์ (Zack Snyder) โดยเน้นเรื่องราวไปที่ด้านมืดของ Batman แต่โปรเจกต์ดังกล่าวถูกพับไปภายหลังจากที่สไนเดอร์ได้ออกจาก Warner Bros. Pictures ไปเมื่อปี 2017 ก่อนที่ผู้กำกับ แมตต์ รีฟส์ (Matt Reeves) จะสร้าง ‘The Batman’ ออกมาในปี 2022
แอฟเฟล็กได้กล่าวว่า “ผมจะไม่กำกับอะไรในจักรวาล DC ของ (เจมส์) กันน์ อย่างแน่นอน ผมไม่ได้มีอะไรขัดแย้งกับ เจมส์ กันน์ นะ เขาเป็นคนดี และแน่นอนว่าเขากำลังจะทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่ ผมแค่ไ่ม่ต้องการเข้าไปมีส่วนร่วมและกำกับภาพยนตร์ในทิศทางที่พวกเขากำลังทำอยู่ในนี้ ผมไม่สนใจเลย”
เขาได้กล่าวต่อเนื่องไปถึง ‘Justice League’ ที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนของเขาในแฟรนไชส์นี้ว่า “ผมเคยจะได้กำกับ ‘Batman’ แต่ ‘Justice League’ ทำให้ผมต้องพลาดโปรเจกต์นี้ และผมไม่ต้องการทำอะไรแบบนั้นอีกแล้ว ผมไม่เหมาะกับมันเลย มันเป็นประสบการณ์ที่แย่ที่สุดที่ผมเคยพบมาในธุรกิจที่เต็มไปด้วยเรื่องแย่ ๆ นี้ มันทำผมใจสลาย”
แอฟเฟล็กนั้นเคยกล่าวไว้เมื่อปี 2022 ว่า ‘Justice League’ เป็นจุดตกต่ำในอาชีพของเขา และไม่ต้องการทำมันอีกต่อไปแล้ว ไม่ใช่เพราะว่า ‘Justice League’ ไม่ใช่ดี แต่เวลาเขามองมันแล้วทำให้รู้สึกว่าเขาไม่มีความสุขกับมันเลย แต่ถ้าเขาอายุสัก 32 ก็อาจอยากทำมันอยู่
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส