ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้ Netflix ได้ปล่อยภาพยนตร์ต้นฉบับของตนออกมาสัปดาห์ละ 1 เรื่อง เป็นอย่างน้อย แต่ล่าสุด Bloomberg ได้รายงานว่า Netflix กำลังปรับโครงสร้างแผนกภาพยนตร์และมีการปล่อยภาพยนตร์ต้นฉบับออกมาน้อยลง
Netflix จะรวมทีมงานที่กำลังพัฒนาโปรเจกต์เล็ก ๆ ที่ใช้ทุนสร้างสูงสุด 30 ล้านเหรียญ เข้ากับทีมสร้างภาพยนตร์ที่ใช้ทุนระดับกลาง ระหว่าง 30 – 80 ล้านเหรียญ แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าแผนกภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จะได้รับผลกระทบหรือไม่
นอกจากนี้ ลิซา นิชิมูระ (Lisa Nishimura) ผู้ดูแลสารคดีต่างประเทศอย่ง ‘Tiger King’ และโปรเจกต์ภาพยนตร์ฟอร์มเล็กต่าง ๆ และ เอียน บริค (Ian Bricke) ผู้ดำรงตำแหน่งรองประธานฝ่ายภาพยนตร์มากว่า 10 ปี ยังได้ลาออกจา Netflix อีกด้วย
Bloomberg รายงานเสริมว่า Netflix ได้ปรับเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาภาพยนตร์ของตน ภายหลังจากที่สตูดิโอต่าง ๆ ได้หันมาเปิดตัวบริการสตรีมมิงของตนแทนการขายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ให้แก่บริษัทอื่น โดยในช่วงที่ผ่านมานั้น มีผลงานต้นฉบับของ Netflix เพียงไม่กี่เรื่อง (จากจำนวนที่เปิดฉายอย่างมหาศาล) ที่ได้รับคำชม, มียอดชมถึงหลัก 1 ล้านชั่วโมง หรือประสบความสำเร็จในแบบภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ฟอร์มยักษ์ ซึ่งภาพยนตร์ของ Netflix ที่มีผู้ชมมากที่สุดระหว่างปี 2021 – 2022 คือ ‘Red Notice’, ‘Don’t Look Up’ และ ‘Glass Onion: A Knives Out Mystery’
นั่นทำให้ สก็อตต์ สตูเบอร์ (Scott Stuber) หัวเรือใหญ่แผนก Netflix Film ตัดสินใจตัดการฉายภาพยนตร์ต้นฉบับลงบางส่วนในปี 2023 นี้ และมั่นใจว่าแผนกจะสารมารถสร้างผลงานที่มีคุณภาพสูงขึ้นได้
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส