นับถึงวันนี้ ภาพยนตร์ในจักรวาล Evil Dead ก็ถูกสร้างมาแล้ว 5 เรื่อง ยังไม่นับรวมซีรีส์ Ash Vs Evil dead ที่ออกมาอีก 3 ซีซันนะ เฉพาะภาพยนตร์ก็ทำรายได้ไปแล้วรวมกันกว่า 270 ล้านเหรียญ อาจจะดูไม่มาก แต่ต้องไม่ลืมว่า แต่ละเรื่องนั้นใช้ทุนสร้างต่ำมาก แต่ละเรื่องไม่เกิน 20 ล้าน ต้นทุนรวมกันทั้ง 5 เรื่อง ยังไม่ถึง 50 ล้านเลยด้วยซ้ำ อย่างภาคล่าสุดนี้ Evil Dead Rise กวาดรายได้ทั่วโลกไปแล้ว 114 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างเพียงแค่ 19 ล้านเหรียญ มองเห็นกำไรเป็นกอบเป็นกำมาก นับว่าเป็นแฟรนไชส์ที่ทำกำไรให้ผู้สร้างได้ดี ด้วยเหตุนี้ แซม ไรมี (Sam raimi) จึงได้ออกมาประกาศว่า นับจากนี้ไป เขาจะสร้างหนังในแฟรนไชส์ Evil Dead เรื่องใหม่ออกมาทุก ๆ 2 – 3 ปีล่ะ ไม่ต้องให้แฟน ๆ รอกันนาน
Evil Dead ภาคแรกออกมาในปี 1981 เป็นภาคที่ถือเป็นจุดกำเนิดของแฟรนไชส์ ที่ว่าด้วยผีห่าซาตานจากนรก ถูกปลุกขึ้นมาด้วยคาถาโบราณที่จารึกไว้ในหนังมนุษย์ เนโครโนไมคอน นับถึงวันนี้ แฟรนไชส์ Evil Dead ก็มีอายุ 42 ปีแล้ว แต่การที่แฟรนไชส์ถือกำเนิดขึ้นมาได้ จนมีแฟน ๆ ติดตามอยู่ทั่วโลกอย่างเช่นทุกวันนี้ได้นั้น แซม ไรมี บอกว่า เป็นเพราะผู้มีพระคุณคนหนึ่ง ถ้าไม่ได้เขาคนนี้ Evil Dead ก็เจ๊งไปตั้งแต่ภาคแรกแล้ว เขาผู้นี้ก็คือ สตีเฟน คิง (Stephen King) ปรมาจารย์แห่งนิยายสยองขวัญที่ทั่วโลกรู้จักกันดี แต่ว่าคิงมามีส่วนร่วมกับหนัง Evil Dead ได้อย่างไรกัน ต้องฟังจากตัวไรมี ที่ย้อนเล่าถึงอดีตในวันที่เขาเพิ่งสร้าง Evil Dead เสร็จแล้ว เขาก็หิ้วหนังไปที่เมืองคานส์ แต่ยังหาบริษัทตัวแทนจัดจำหน่ายหนังให้เขาไม่ได้
“เราหาผู้จัดจำหน่ายหนัง Evil Dead ไม่ได้เลย หนังก็สร้างเสร็จแล้วด้วย แต่ตัวแทนจำหน่ายในอเมริกาก็ไม่มีใครสนเลย มันเป็นช่วงเวลาที่น่าหดหู่มากเลยตอนนั้น ผมหิ้วหนังไปหาตัวแทนจำหน่ายแทบทุกเจ้า แต่เขาก็ปฏิเสธมาหมด”
“จนในที่สุด ผมก็ได้พบกับ เออร์วิน ชาพิโร (Irvin Shapiro) เขาเป็นเซลส์ขายหนัง ชาพิโรได้ดู Evil Dead แล้ว เขาก็หันมาบอกกับผมว่า ‘ก็โอเคนะ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่หนังเลิศเลอแบบ Gone With The Wind ก็ตามเหอะ แต่ผมคิดว่าผมน่าจะขายมันได้’ ว่าแล้วเขาก็หิ้วหนังผมไปคานส์ ไม่ได้ไปฉายโชว์ในเทศกาลหนังนะ แต่เอาไปขายในตลาดหนัง ซึ่งเขาจัดอยู่พร้อม ๆ กันกับเทศกาลประกวดหนังนั่นแหละ”
แล้วชาพิโรก็สามารถเอา Evil Dead ไปฉายโชว์ในตลาดขายหนังที่คานส์ได้สำเร็จ และในรอบที่ฉายโชว์นั้น สตีเฟน คิง ก็ได้มาดูด้วย และที่สำคัญ Evil Dead สามารถทำให้ปรมาจารย์อย่างคิงรู้สึกกลัวได้สำเร็จ ชาพิโรดีใจ มองเห็นแล้วล่ะว่านี่ถือเป็นเรื่องดี น่าจะเอามาใช้โปรโมตหนังได้ ชาพิโรเลยไปกระซิบบอกกับไรมีว่า ให้ไปคุยกับคิงแล้วขอประโยคเด็ด ๆ จากเขามาหน่อย ว่าเขาคิดอย่างไรกับ Evil Dead
“ผมก็โทรไปหาคิง……แล้วบอกกับเขาว่า ‘ขอคำพูดสักประโยคสิครับ ว่าคุณคิดอย่างไรจริง ๆ กับหนังเรื่องนี้’ คิงก็ตอบกลับมาว่า ‘ไม่นะ ผมจะไม่ทำแบบนั้น แต่เอาแบบนี้ดีกว่า ผมจะเขียนรีวิวให้แทน แล้วถ้าในรีวิวนี้มีประโยคไหนที่คุณคิดว่าน่าจะดึงไปใช้ได้ เอาไปเลย’ นั่นนับว่าเป็นความกรุณาจากเขาอย่างมากเลย แล้วเราก็เลือกดึงคำชมที่เขาเขียนถึงเรามาใช้โปรโมตได้ ถ้าไม่ได้เขานะ หนังผมเจ๊งไปแล้ว แต่พอได้เสียงเชียร์จาก สตีเฟน คิง ทำให้ผมขายหนังได้สำเร็จ คำชมจากเขาทำให้ผู้คนหันมาสนใจหนัง”
บุญคุณของคิงที่มีต่อแฟรนไชส์ Evil Dead ยังไม่หมดแค่นั้น ตอนที่ไรมีสร้าง Evil Dead 2 ก็ยังได้ความช่วยเหลือจากคิงอีก หลังประสบความสำเร็จกับ Evil Dead ภาคแรก ไรมีก็กำกับ Crimewave เป็นผลงานเรื่องต่อไป แต่หนังก็ออกมาแป้ก ทำให้ไรมีตัดสินใจมาทำ Evil Dead 2 แต่เขาไม่มีทุนสร้างแล้ว ทำให้ไรมีเริ่มถอดใจ เขาหันไปบอกผู้ช่วยผู้กำกับหญิงของเขาว่า เห็นทีว่าเขาจะต้องยกเลิกโปรเจกต์นี้เสียแล้ว แต่แล้วเธอคนนี้ล่ะ ก็ได้ไปอยู่ในกองถ่ายหนังเรื่องใหม่ที่สร้างจากนิยายของ สตีเฟน คิง และอำนวยการสร้างโดย ดิโน เดอ ลอเรนทิส ทำให้เธอได้พบกับคิง แล้วเธอก็บอกกับคิงว่า แซม ไรมี กำลังพยายามหาทุนสร้างหนัง Evil Dead 2 อยู่
“ผมไม่เคยบอกอะไรกับคิงเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยนะ แต่กลับมีข่าวลือออกมาว่า เขาโทรหา ดิโน เดอ ลอเรนทิส แล้วบอกว่า ‘ดิโน นายต้องช่วยไอ้หนุ่มพวกนี้สร้าง Evil Dead 2 นะ’ แล้วเราก็ได้รับโทรศัพท์จาก ดิโน เดอ ลอเรนทิส แล้วเราก็ได้พบกับเขาที่ออฟฟิศของเขา เขาบอกกับผมว่า ‘ตกลงนะ เราจะสร้างหนังเรื่องนี้กัน’ กลายเป็นว่าเพราะ สตีเฟน คิง อีกนั่นแหละ ที่เขาช่วยผมไว้เป็นครั้งที่ 2
สำหรับแฟน ๆ ของ แซม ไรมี เขากำลังมีหนังใหม่ 2 เรื่อง คือ World War 3 และ The Kingkiller Chronicle ซึ่งทั้งสองเรื่องกำลังอยู่ในขั้นตอนเตรียมการสร้าง น่าจะยังไม่ได้ดูกันเร็ว ๆ นี้หรอก ส่วน สตีเฟน คิง นั้น ก็จะมี The Boogeyman หนังสยองขวัญที่ดัดแปลงมาจากนิยายของเขา วางกำหนดฉายไว้มิถุนายนนี้แล้ว
ที่มา : thedigitalfix IMDB