เจสัน โมโมอา (Jason Momoa) นักแสดงผู้มีร่างกายสูงใหญ่ และหนวดเครารุงรังอันเป็นเอกลักษณ์ เขาเข้าวงการแสดงมาตั้งแต่ต้นยุค 2000’s รับบทตัวประกอบบ้าง ตัวร้ายบ้างแต่ก็ยังไม่เป็นที่รู้จัก จนโอกาสมาถึงเมื่อได้ร่วมแสดงใน Game of Thrones ซีรีส์สุดฮิตของ HBO ในบท คาห์ล โดรโก ต่อยอดให้เขาได้รับเลือกเป็นซูเปอร์ฮีโร Aquaman ที่เข้ากับภาพลักษณ์ของเขาเป็นอย่างดี

วันนี้โมโมอาได้รับการพูดถึงในวงกว้างอีกครั้ง เมื่อเขาเปลี่ยนภาพลักษณ์มาเป็นวายร้าย ในบท ดังเต้ เรเยส วายร้ายอารมณ์ดีแต่มากพิษสงใน Fast X ที่เขาได้โชว์ความสามารถทางการแสดง จนได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลาม ว่าเป็นจุดที่ดีที่สุดของ Fast ภาคนี้เลยก็ว่าได้ และน่าจะส่งให้อนาคตในวงการฮอลลีวูดของโมโมอา สดใส และน่าติดตามขึ้นอย่างมาก วันนี้แบไต๋จึงขอหยิบยก 15 เรื่องราวน่าสนใจของนักแสดงชาวฮาวายวัย 43 ปีผู้นี้มาเล่าสู่กันฟังครับ มีหลายเรื่องที่น่าสนใจเลยทีเดียว

1.เขาเกิดในฮาวาย แต่มาโตในไอโอวา

เจสัน โมโมอา เกิดเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 1979 ในฮอนโนลูลู, ฮาวาย มี โจเซฟ โมโมอา คุณพ่อเป็นจิตกร ส่วนคุณแม่ โคนิ เป็นช่างภาพ แม้เป็นชาวฮาวายโดยกำเนิดแต่ก็มีส่วนผสมจากหลายเชื้อชาติ เพราะว่าพ่อนั้นเป็นชนพื้นเมืองชาวฮาวาย ส่วนแม่นั้นเป็นเป็นลูกผสมทั้งเยอรมัน, ไอริช และอินเดียนแดงเผ่าพาวนี หลังจากโมโมอาคลอดออกมาได้แค่ 6 เดือน พ่อกับแม่ก็แยกทางกัน แม่เป็นผู้รับเลี้ยงดูโมโมอา พาเขาย้ายไปอยู่ที่เมืองนอร์วอล์ก รัฐไอโอวา ซึ่งเขาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่จนโต โมโมอาเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมนอร์วอล์ก ที่นี่เขาได้ร่วมทีมฟุตบอลโรงเรียน และมี แบรนดอน เราธ์ (Brandon Routh) อดีตผู้รับบท ซูเปอร์แมน เป็นเพื่อนร่วมทีม จากนั้นโมโมอาก็กลับไปเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัยใน มหาวิทยาลัยแห่งฮาวาย

โมโมอาเผยกับ CNN ในปี 2019 ว่า เหตุผลที่เขากลับมาเรียนที่ฮาวายก็เพราะ “ผมรู้สึกว่าที่นี่เป็นบ้านของผม ผมเป็นชาวฮาวายโดยกำเนิด ฮาวายเป็นสัญชาติของผม”

2.เขาแอบอ้างว่าเป็นนายแบบ เพื่อให้ได้รับการคัดเลือกเป็นนักแสดงใน Baywatch

มีหลาย ๆ สื่อลงประวัติของ เจสัน โมโมอา ว่าเขาเริ่มต้นอาชีพด้วยการเป็นนายแบบ และได้รับตำแหน่ง “นายแบบแห่งปีของฮาวาย” เมื่อตอนที่เขาอายุ 20 ปี แต่ภายหลังโมโมอาบอกว่า “ที่จริงแล้ว ผมแต่งเรื่องขึ้นเองทั้งเพ” เขาไม่เคยเป็นนายแบบมาก่อนเลย แต่ทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องที่เขากุขึ้น ตอนที่เขาไปออดิชันบทใน ‘Baywatch’ ทีวีซีรีส์เรื่องดังปี 1999 ที่เป็นผลงานแสดงเรื่องแรกในชีวิตของเขา ซึ่งเขาต้องแย่งชิงบทนี้กับคนอื่น ๆ อีกนับร้อย

จนเมื่อทีมงานคัดผู้แสดงขอประวัติส่วนตัวจากโมโมอา แต่เขาก็ไม่มีผลงานที่จะนำมาอ้างอิงได้เลย
“ตอนนั้นเขาถามผมว่า ‘เฮ้ นายเคยผ่านงานแสดงมาบ้างไหม ?’ ผมก็ตอบ ‘ไม่เลยครับ’ เขาก็ถามต่อว่า ‘แล้วเคยผ่านงานนายแบบมาบ้างไหม ?’ ผมก็ตอบ ‘เคยครับ ใช่ครับ ผมเป็นนายแบบชื่อดังเลย ผมเป็นแบบให้ Gucci แล้วก็ Louis Vitton ด้วย’ พอดีตอนนั้นเพื่อนผมก็ไปคัดตัวด้วย ผมก็เลยได้ทีหันไปส่งมุกกับเพื่อน ‘แกก็ถ่ายแบบให้ Prada ใช่ไหม ?’ เพื่อนก็รับมุกทันตอบ ‘ใช่ ใช่ ครับ เราไปถ่ายแบบกันที่ญี่ปุ่น’ เรื่องทั้งหมดนั่นเราก็อ้างขึ้นมาเองเพื่อทำให้เราดูน่าสนใจขึ้น”

3.เขาไม่อยากพูดถึง Baywatch: Hawaii

แม้ว่า ‘Baywatch: Hawaii’ จะเป็นบันไดก้าวแรกในวงการแสดงของ เจสัน โมโมอา ที่เขาได้ร่วมแสดงถึง 44 ตอน ตั้งแต่ปี 1999 ลากยาวไปจนถึง 2001 แต่ดูเหมือนว่าโมโมอาไม่อยากจะพูดถึงผลงานการแสดงของเขาในเรื่องนี้เลย โมโมอาแสดงปฏิกิริยาต่อเรื่องนี้ชัดเจน ว่าเขาอยากจะลืมประสบการณ์ช่วงนั้นไปซะ ตอนที่ไปร่วมรายการ Ellen DeGeneres เมื่อปี 2019 แล้วพิธีกรได้ย้อนถามถึงประสบการณ์การแสดงใน ‘Baywatch: Hawaii’

“ผมเสียเวลาไปกับมันมาก ถือซะว่านั่นไม่ใช่ตัวผมแล้วกัน ผมลบความทรงจำช่วงนั้นทิ้งไปหมดแล้ว”

4.เขาสูงเกือบ 2 เมตรเลยนะ


จากที่เราเห็นตัวเขาบนจอหนัง เราก็รู้สึกว่าโมโมอาเป็นผู้ชายที่ร่างสูงใหญ่ แต่อาจจะคาดไม่ถึงว่าเขาสูงถึง 195 เซนติเมตรเลยทีเดียว เขาเล่าว่า ด้วยความสูงปรี๊ดของเขานี่แหละ ที่ทำให้เขาได้เปรียบมาก ตอนที่ไปออดิชันบท คาห์ล โดโกร และ โคแนน “เมื่อคุณเป็นชาวฮาวาย และมาพร้อมความสูง 195 เซ็นติเมตร แล้วตอนที่ผมออดิชันบท ผมก็ตะโกนร้องจนสุดเสียง ทำเอาผู้คัดเลือกนักแสดงกลัวไปตาม ๆ กัน มันได้ผลครับ “

5.เขาเคยไว้ผมทรงเดรดล็อก


โมโมอาได้ร่วมแสดงใน ‘Stargate: Atlantis’ ทีวีซีรีส์ไซไฟเรื่องดัง ในช่วงปี 2005 – 2009 และบท Ronon Dex ของเขานั้น มีเอกลักษณ์เด่นคือผมทรงเดรดล็อก ซึ่งตัวโมโมอาเองก็ต้องไว้ผมทรงเดรดล็อกเพื่อบทนี้ จนกระทั่งผมของเขายาวขึ้นและมันหนักมากจนเขาทนไม่ไหว ต้องขอตัดทิ้งในซีซันที่ 4 แต่ทีมงานก็ยังต้องคงภาพลักษณ์ของตัวละครนี้ไว้ จึงต้องสั่งทำวิกผมทรงเดรดล็อกมูลค่า 10,000 เหรียญมาให้โมโมอาสวม แต่กลายเป็นว่าวิกผมนี้ก็มีน้ำหนักพอ ๆ กับผมจริงของเขาเลย พอพ้นจากเรื่องนี้ โมโมอาก็เริ่มไว้ผมยาว และเป็นภาพลักษณ์ปัจจุบันอย่างที่เราเห็นกันทุกวันนี้

6.รอยแหว่งบนคิ้วซ้าย คือแผลเป็น ไม่ใช่แฟชั่น

คิ้วซ้ายของ เจสัน โมโมอา มีรอยแหว่งขนคิ้วหายไปเป็นเส้น ที่แฟน ๆ ก็เข้าใจว่าเขาเจตนากันคิ้วออกให้เป็นเส้นเพื่อเป็นแฟชั่น หรือสร้างความน่าสนใจ แต่ความจริงแล้วมันเกิดจากแผลเป็น โมโมอาเล่าให้ฟังว่า แผลนี้เขาได้มาเมื่อปี 2011
“มันบ้ามาก มีชายคนหนึ่งเอาแก้วเบียร์ทุบมามาบนหน้าผม ทำเอาผมต้องเย็บไปถึง 140 เข็มเลยนะ กลายเป็นว่าขนคิ้วมันไม่ขึ้นตรงนั้นเลย แต่มันก็ช่วยให้ผมได้บทตัวร้าย”
โมโมอาคิดว่า เหตุที่ชายผู้นั้นทำร้ายเขาแบบนั้น น่าจะเป็นการโชว์ห้าวเพื่อเข้าแก๊งอันธพาล

7.ได้บท คาห์ล โดรโก เพราะรูปแบบการออดิชันอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตน


ก่อนที่จะมาเป็น Aquaman ซูเปอร์ฮีโรแห่งค่ายดีซีนั้น บทที่ทำให้แฟน ๆ ทั่วโลกเริ่มรู้จักเขาก็คือ ‘คาห์ล โดรโก’ ผู้นำแห่งเผ่า โดธารากิ ในซีรีส์ Game of Thrones ซึ่งโมโมอาเผยว่า ตอนที่เขาไปออดิชันบทนี้ เขาได้โชว์เต้นระบำฮากา (Haka) ซึ่งเป็นการเต้นระบำพื้นเมืองของชนเผ่าเมารี ในนิวซีแลนด์ โมโมอาได้โชว์การเต้นระบำฮากาอีกครั้ง ตอนที่นำหนัง ‘Aquaman’ ไปฉายโชว์ที่ฮาวายเมื่อปี 2018 ซึ่งเขาเผยความรู้สึกว่า
“มันเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่งในชีวิตผม”

8.เขาเป็นนักปีนผาตัวยง และมีแบรนด์ผลิตภัณฑ์ปีนผาเป็นของตัวเอง

เจสัน โมโมอา หลงใหลในกีฬาปีนผาอย่างมาก ถึงกับเอ่ยปากว่า “การปีนผานี่ค้นพบตัวผม ไม่ใช่ผมค้นพบกิจกรรมนี้ ผมมีความสุขกับมันมาก ผมหลงรักกิจกรรมนี้จริง ๆ” ซึ่งหลายปีที่ผ่านมานี่ โมโมอาก็เปิดเผยกิจกรรมนี้อย่างต่อเนื่องผ่านทางช่องยูทูบและอินสตาแกรมส่วนตัวของเขา มันอาจจะเริ่มต้นด้วยการเป็นงานอดิเรก และเริ่มจริงจังมากขึ้นในเวลาต่อมา เขายังได้รับการยอมรับนับถือจาก จิมมี่ ชิน (Jimmy Chin) นักปีนผามืออาชีพ ที่โมโมอาได้ออกไปร่วมปีนผากับชินอยู่บ่อยครั้ง

ในปี 2019 จิมมี่ ชิน กำกับภาพยนตร์สารคดี ‘Free Solo’ ที่เกี่ยวกับการปีนฝา และคว้าออสการ์สาขาภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยมมาได้ และ เจสัน โมโมอา ก็รับหน้าที่เป็นผู้มอบรางวัลออสการ์ให้กับชินเอง ไม่แค่นั้น เจสัน โมโมอา ยังก่อตั้งบริษัท So Ill ผลิตเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์สำหรับกีฬาปีนผาเองด้วย เขายังสอนลูก ๆ ให้หัดปีนผาอีกด้วย

9.เขาเป็นเจ้าของธุรกิจน้ำดื่มบรรจุกระป๋องอีกด้วย

เป็นพระเอกที่มีความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมด้วย เจสัน โมโมอา ได้ก่อตั้งบริษัท Mananalu ในเดือนเมษายน ปี 2019 เป็นบริษัทผู้ผลิตน้ำดื่มบรรจุกระป๋อง เขาเผยปนิธานในการก่อตั้งบริษัทนี้ผ่านเว็บไซต์ของบริษัทว่า
“มีพลาสติกบนโลกนี้เพียง 9% ที่เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล และมีขวดน้ำดื่มพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งเพียง 3% เท่านั้นที่เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล”
“ดีที่สุดก็คือพลาสติกเหล่านี้ถูกฝังกลบ แต่แย่ที่สุดก็คือการที่พวกมันลงไปในทะเล”

ในวันเปิดตัวบริษัท Mananalu เจสัน โมโมอา กล่าวว่า เหตุที่เขาเลือกผลิตน้ำดื่มบรรจุกระป๋องอะลูมิเนียมนั้นก็เพราะว่า “ในทุกวันนี้ 75% ของผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียมยังคงถูกใช้หมุนเวียน และสามารถรีไซเคิลได้ 100% กระป๋องน้ำที่คุณดื่มนั้น มันจะผ่านกระบวนการรีไซเคิลแล้วกลับมาใหม่ใน 60 วัน”

10.โปรดปรานเบียร์ยี่ห้อ Guinness มากจน Guinness ออกเบียร์รุ่นเฉพาะของเขาให้

ในช่วงที่ ‘Game of Thrones’ ยกกองไปถ่ายทำกันในเบลฟาสต์ ไอร์แลนด์เหนือ โมโมอาได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตเบียร์ Guinness เพื่อชิม The Mano เป็นเบียร์รสเปรี้ยวรุ่นแรกของ Guinness ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อ เจสัน โมโมอา โดยเฉพาะ บนขวดยังมีลายเซ็น และออกแบบลวดลายตามรอยสักของโมโมอา ที่เป็นรอยสักอันเป็นเอกลักษณ์ของขาวฮาวาย โมโมอายังเผยเคล็ดลับอีกว่า เขาใช้การดื่มเบียร์ Guinness แลกินพิซซ่านี่แหละ เพื่อเพิ่มขนาดตัวให้ดูใหญ่ขึ้น เพื่อให้สมกับบท คาห์ล โดรโก

11.ความหมายของแต่ละรอยสัก


เอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของ เจสัน โมโมอา ก็คือรอยสักจำนวนมากทั่วร่างของเขา ซึ่งตัวโมโมอาก็เผยที่มาของแต่ละรอยสักว่า

  • คำว่า “etre toujours ivre” บนแขนขวาเป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่า “จะเมาอยู่เสมอ”
  • บนหน้าอกมีรอยสักที่เป็นลายเซ็นของลูก ๆ ของเขา
  • คำว่า “pride of gypsies”อยู่บนแขนขวา และถูกใช้เป็นชื่อบริษัทผลิตภาพยนตร์ของเขาด้วย
  • มีคำว่า “Diablo” อยู่บนนิ้วกลาง เพื่อระลึกถึงเพื่อนที่เสียชีวิตไปในปี 2013
  • ช่วงปลายแขนซ้าย มีรูปสามเหลี่ยมเชื่อมต่อกัน มีชื่อเรียกว่า “Aumakua” เป็นสัญลักษณ์ของผู้พิทักษ์ของชาวฮาวาย ซึ่งรูปสามเหลี่ยมนี้จำลองมาจากรูปทรงของฟันฉลาม ส่วนรอยสักอื่น ๆ ที่ออกแบบเพิ่มขึ้นมาในหนัง Aquaman นั้นก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรอยสักที่แขนนี้เอง ทางทีมงานก็จำลองรูปแบบสามเหลี่ยมนี้แล้วขยายไปทั่วตัวของโมโมอา
  • เมื่อเดือนกันยายน 2022 โมโมอาได้โกนผมด้านข้างศีรษะออก เผยให้เห็นรอยสัก “Aumakua” อยู่บนหนังศีรษะด้านซ้ายด้วย เป็นสามเหลี่ยมเชื่อมต่อกันเป็นเส้นยาวลงมาจนถึงคอ โมโมอาเผยว่า เขาชอบรอยสัก “Aumakua” นี้มาก เพราะมันเปรียบเสมือนสัญลักษณ์แห่ง “การปกป้องครอบครัว”

12.แฟน ๆ สามารถติดตามชีวิตของเขาได้ทางช่องยูทูบของเขา

ปัจจุบันช่องยูทูบของ เจสัน โมโมอา มีผู้ติดตามแล้วกว่า 972,xxx ราย ทางช่องทางนี้ แฟน ๆ จะได้รับรู้เรื่องราวต่าง ๆ ของเขามากมาย ทั้งเรืองงานและชีวิตส่วนตัว ที่ผ่านมาเขาก็โพสต์คลิปตอนที่เขาเดินทางกลับไปเยี่ยมแม่ที่ไอโอวา ภาพฟุตเทจเบื้องหลังทีวีซีรีส์ ‘See’ หรือคลิปตอนที่เขาซื้อรถมัสแตงรุ่นคลาสสิกมาเซอร์ไพรส์ภรรยา นอกจากนี้ยังมีคลิปตอนที่เขาขี่มอเตอร์ไซค์ลุยเข้าไปในป่า และที่ขาดไม่ได้คือกิจกรรมปีนผาของเขา

13.ไปแสดงในมิวสิกวิดีโอเพลง ‘Scary Little Green Men’ ของศิลปินระดับตำนาน Ozzy Osbourne

ปี 2020 เจสัน โมโมอา ได้ไปร่วมแสดงในมิวสิกวิดีโอเพลง ‘Scary Little Green Men’ ของ ออสซี่ ออสบอร์น (Ozzy Osbourne) ศิลปินร็อกระดับตำนานตั้งแต่ยุค 70s และเป็นศิลปินคนโปรดของโมโมอาเองด้วย ซึ่งตัวโมโมอาได้เผยความรู้สึกว่า “ผมตื่นเต้นและรู้สึกเป็นเกียรติจริง ๆ ที่ออสซี่ และ ชารอน เชื่อมั่นในตัวผมที่ให้ผมได้ร่วมอยู่ในมิวสิกวิดีโอนี้ด้วย ผมมีความสุขจริง ๆ ผมไม่คาดคิดจริง ๆ ว่าในรอบหนึ่งพันล้านปีนี้ พระเจ้าองค์หนึ่งของผม ที่ผมเห็นวง Black Sabbath มาตั้งแต่ยังเด็ก แล้วผมจะได้อยู่ในมิวสิกวิดีโอของเขา มันเหลือเชื่อจริง ๆ ครับ ตอนเขาทักมาชวน ผมก็ตอบไปว่า ‘เฮ้ย ได้สิ เฮ้ย ได้เลย ผมจะแสดงให้คุณ เมื่อไหร่เมื่อนั้นได้เลยเพื่อน’ “

14.เขาเล่นกีตาร์และเบสด้วย

นอกจากทักษะทางด้านการแสดง การปีนผาแล้ว โมโมอายังชอบเล่นกีตาร์อีกด้วย เมื่อเดือนตุลาคม 2020 โมโมอาได้เป็นตัวแทนของ Gibson ไปสัมภาษณ์ สแลช (Slash) มือกึตาร์ของ Guns N’ Roses เมื่อใดที่เขามีเวลาว่าง เขาก็มักจะออกไปฝึกฝนทักษะการเล่นกีตาร์ของเขากับนักดนตรีมืออาชีพอยู่เสมอ เมื่อเดือนกันยายน 2020 เขาก็ไปเล่นเบสกับ เลส เคลย์พูล (Les Claypool) มือเบสของวง Primus ในเดือนเดียวกันเขาก็ขึ้นเวทีไปเล่นกับวง Mike Hayes Band

15.มีชีวิตครอบครัวมาแล้ว 2 ครั้ง ลูกสาว 1 คน ลูกชาย 1 คน

เจสัน โมโมอา คบหากับ ซิมโมน เจด แม็กคินนอน (Simmone Jade Mackinnon) นักแสดงร่วมในทีวีซีรีส์ Baywatch เมื่อปี 1999 และใช้ชีวิตคู่กันอยู่ 6 ปี ก่อนจะหมั้นกันในปี 2004

ในปี 2005 โมโมอาเริ่มไปคบหากับ ลิซา โบเน็ต (Lisa Bonet) ทำให้เขากับแม็กคินนอนต้องเลิกรากันไป โบเน็ตเป็นอดีตภรรยาของ เล็นนี่ คราวิตซ์ ศิลปินเพลงและนักแสดงชื่อดัง โบเน็ตมีลูกสาวกับคราวิตซ์ ชื่อว่า โซอี คราวิตซ์ (Zoë Kravitz) เป็นนักแสดงฮอลลีวูด ที่มีผลงานการแสดงมากมาย ทั้งโซอี้และเล็นนี่ต่างก็สนิทสนมกับ เจสัน โมโมอา

ส่วน เจสัน โมโมอาและ ลิซา โบเน็ต มีลูกสาว โลลา ไอโอลานี เกิดมื่อปี 2007 และลูกชาย นาโค-วูล์ฟ มานาคัวโพ นามาเคฮา เกิดเมื่อปี 2008 ทั้งคู่ใช้ชีวิตครอบครัวกันมายาวนานกว่าจะตกลงเข้าพิธีแต่งงานกันในปี 2017 หลังจากนั้น 5 ปีต่อมา ในปี 2022 โมโมอาและโบเน็ต ก็แยกทางกัน

ที่มา : insider IMDB Wikipedia menshealth