Deadline ได้รายงานว่า วิล เฟอร์เรล (Will Ferrell) นักแสดงตลกมากความสามารถ เล็งจะรับบทเป็น จอห์น แมดเดน (John Madden) โค้ชและนักวิจารณ์กีฬาอเมริกันฟุตบอลระดับตำนาน ในภาพยนตร์ชีวประวัติโดยผู้กำกับ เดวิด โอ. รัสเซล (David O. Russell) ที่เคยชิงรางวัลออสการ์มาแล้วจาก ‘American Hustle’ (2013), ‘Silver Linings Playbook’ (2012) และ ‘The Fighter’ (2010)
จอห์น แมดเดน เป็นโค้ชและนักวิจารณ์กีฬาชื่อดังในวงการ NFL ที่เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2021 ในวัย 85 ปี โดยเขาได้คุมทีม Oakland Raiders (ในปัจจุบันคือ Las Vegas Raiders) ระหว่างปี 1969 – 1978 ซึ่งเขานำทีมคว้าถ้วย Super Bowl มาได้เป็นครั้งแรกของแฟรนไชส์ในการแข่งขัน Super Bowl XI เมื่อปี 1977 และยังถือครองสถิติเป็นโค้ช NFL ที่มีเปอร์เซ็นต์ชนะสูงสุดตลอดกาล สำหรับการคุมทีมอย่างน้อย 100 เกม
เขาได้เกษียณตัวเองมาเป็นนักวิจารณ์กีฬา NFL ระหว่างปี 1979 – 2008 เขาได้รับคำชื่นชมจาการวิพากษ์วิจารณ์แผนการเล่นของทีมต่าง ๆ ได้อย่างตรงจุดและมีบทวิเคราะห์เชิงลึกที่ละเอียดจนไม่มีใครกล้าคัดค้าน ซึ่งชื่อเสียงอันมากมายของเขานั้น ได้ถูกไปตั้งชื่อเป็นวิดีโอเกม NFL ของค่าย Electronic Arts ที่มีชื่อว่า ‘Madden’ ซึ่งได้รับความนิยมมาตั้งแต่ยุค 90s มาจนถึงปัจจุบันนี้
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานการสร้างของ Amazon และ MGM ที่เคยสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับกีฬามาแล้วมากมาย โดยตัวภาพยนตร์จะเน้นไปที่เรื่องราวของแมดเดนในช่วงเวลาที่เกษียณจากการเป็นโค้ชแล้ว โดยได้ แคมบรอน คลาร์ก (Cambron Clark) จากซีรีส์ ‘Black List’ มาเป็นผู้เขียนบท
นี่เป็นโปรเจกต์ที่ผู้กำกับรัสเซลให้ความสนใจเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้ได้ถูกระงับการพัฒนาไว้ก่อนจนกว่าสถานการณ์การประท้วงของสมาคมนักเขียนแห่งอเมริกา (WGA) จะคลี่คลาย
สำหรับเฟอร์เรลนั้น ก็เคยแสดงภาพยนตร์ตลกเกี่ยวกับวงการกีฬาอยู่หลายเรื่อง เช่น ‘Kicking & Screaming’ (2005), ‘Blades of Glory’ (2006) และ ‘Talladega Nights: The Ballad of Ricky Bobby’ (2006) อีกทั้งยังเคยถูกวางตัวให้รับบท เจอร์รี บัส (Jerry Buss) เจ้าของทีมบาสเก็ตบอล Los Angeles Lakers ยุค 1980s ในซีรีส์ ‘Winning Time: The Rise of the Lakers Dynasty’ ของผู้กำกับ อดัม แมคเคย์ (Adam McKay) แต่บทดังกล่าวกลับตกเป็นของ จอห์น ซี. ไรลีย์ (John C. Reilly) ซึ่งส่งผลทำให้มิตรภาพของเขาระหว่างแมคเคย์และไรลีย์เริ่มสั่นคลอน รวมถึงบริษัท Gary Sanchez Productions ที่พวกเขาร่วมกันเปิด ก็ได้รับผลกระทบตามไปด้วย
ที่มา : ScreenRant
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส