หลังจากที่มีรายงานว่า Disney ได้ประสบสถานการณ์ด้านการเงินที่ย่ำแย่แล้วนั้น ล่าสุด Variety ได้รายงานว่า Disney สามารถตัดหนี้สูญ หรือตัดการจำหน่ายสินทรัพย์ที่ไม่มีมูลค่า (Write-Off) ลงไปได้ถึง 1,500 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 52,200 ล้านบาท จากการลบเนื้อหาจากแพลตฟอร์มสตรีมมิงของตนอย่าง Disney+ และ Hulu

รายงานดังกล่าวระบุว่า คริสทีน แม็คคาร์ธี (Christine McCarthy) ผู้ดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน หรือ CFO (Chief Financial Officer) ของ Disney ได้เปิดเผยในการเรียกประชุมผลประกอบการในสัปดาห์นี้ว่า อาจลดหนี้สูญไปได้ถึง 1,800 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 62,700 ล้านบาท เพื่อช่วยลดค่าภาษีของสตูดิโอ ซึ่งเป็นผลมาจากการลบเนื้อหาที่ผลิตเพื่อฉายบนบริการสตรีมมิงโดยเฉพาะ

Disney ได้ประกาศถึงการเปลี่ยนแปลงของแพลตฟอร์มสตรีมมิงมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2023 ที่ผ่านมา เพื่อตอบสนองต่อการที่ต้องสูญเสียผู้สมัครบริการสตรีมมิงไปถึง 4 ล้านยูสเซอร์ ไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มค่าบริการ, พัฒนาแอปใหม่ที่รวมเนื้อหาจากของ Disney+ และ Hulu เข้าด้วยกัน และลบเนื้อหาจำนวนมากออกจากทั้ง 2 แพลตฟอร์ม

Disney+

ในเบื้องต้น เนื้อหาที่ถูกลบออกไปนั้น มีจำนวน 52 เรื่องด้วยกัน รวมถึง ‘Willow’ ซีรีส์ภาคต่อจากภาพยนตร์แฟนตาซีคลาสิกในอดีต, ‘The Princess’ ภาพยนตร์แอ็กชันระทึกขวัญของ โจอี คิง (Joey King) และ ‘The One and Only Ivan’ ภาพยนตร์ดราม่า ผจญภัยของ ไบรอัน แครนสตัน (Bryan Cranston)

นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่า Disney เตรียมลบเนื้อหาจากทั้ง Disney+ และ Hulu เพิ่มเติมในอีกในเร็ว ๆ นี้ แต่ยังไม่ทราบว่าจะมีภาพยนตร์หรือซีรีส์เรื่องใดที่อาจถูกลบบ้าง

ที่มา : ScreenRant

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส