อัสตรุด ชิลเบร์ตู (Astrud Gilberto) ซึ่งเป็นเจ้าของเสียงร้องที่นุ่มนวลและเซ็กซี่ในบทเพลงฮิตติดหู “The Girl From Ipanema” บทเพลงแรกที่เธอได้บรรจงมอบเสียงร้องเอาไว้ ซึ่งทำให้เพลงแนวบอสซาโนวา (Bossa Nova) ของบราซิลกลายเป็นเพลงฮิตในสหรัฐอเมริกาในช่วงทศวรรษ 1960 ได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมาด้วยวัย 83 ปี

การเสียชีวิตของเธอได้รับการยืนยันโดย พอล ริชชี่ (Paul Ricci) นักดนตรีและเพื่อนในครอบครัว ซึ่งกล่าวว่า มาร์เซโล (Marcelo) ลูกชายของชิลเบร์ตูอนุญาตให้เขาประกาศเรื่องนี้ แต่ยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับการเสียชีวิตเพิ่มเติม

อัสตรุด ชิลเบร์ตู เกิดเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 1940 ในเมืองซัลวาดอร์ รัฐบาเอีย ประเทศบราซิล ชิลเบร์ตูโด่งดังไปทั่วโลกในทศวรรษที่ 1960 ด้วยเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ นุ่มนวล และไพเราะของเธอ หนึ่งในผลงานบันทึกเสียงที่โด่งดังที่สุดของ อัสตรุด ชิลเบร์ตู คือเพลง “The Girl from Ipanema” ซึ่งเธอแสดงร่วมกับ ชูเอา ชิลเบร์ตู (João Gilberto) อดีตสามีของเธอ ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็น “บิดาแห่งบอสซาโนวา” (The Father of Bossa Nova) ซึ่งเสียชีวิตไปในปี 2019 และนักเป่าแซ็กโซโฟน Stan Getz (สแตน เก็ตซ์) มือเทเนอร์แซ็กโซโฟนแจ๊สระดับเทพ เจ้าของฉายา “The Sound” เพลงนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากและยังคงเป็นหนึ่งในเพลงบอสซาโนวา ที่โดดเด่นที่สุดจนถึงทุกวันนี้ เสียงร้องอันละเอียดอ่อนและนุ่มนวลของอัสตรุดใน “The Girl from Ipanema” ได้สะกดใจผู้ฟังทั่วโลก

อัสตรุด ชิลเบร์ตู (Astrud Gilberto)

บทเพลง “The Girl From Ipanema” แต่งเนื้อร้องโดย วินิซิอุส เด โมราเอส (Vinicius de Moraes) และดนตรีโดย อังโตนีอู การ์ลูช โชบิง (Antônio Carlos Jobim) หรือ ทอม โชบิง ศิลปินผู้ขับเคลื่อนดนตรีของบราซิลและบอสซาโนวาให้ทั่วโลกได้รู้จัก บทเพลงนี้ได้มีการบันทึกเสียงในหลากหลายเวอร์ชัน จุดเริ่มต้นของตำนาน “The Girl From Ipanema” เกิดขึ้นในวันจันทร์ที่ 18 มีนาคม 1963 เมื่อ ชูเอา ชิลเบร์ตู พร้อมทีมนักดนตรีขั้นเทพได้ย่างก้าวเข้าไปสู่สตูดิโอ A&R ในนิวยอร์ก โดยไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังจะทำจะได้กลายมาเป็นหมุดหมายหนึ่งในประวัติศาสตร์ของวงการดนตรี

สุดยอดทีมในครั้งนี้ประกอบไปด้วย ชูเอา ชิลเบร์ตู ร้องและเล่นกีตาร์ ทอม โชบิง เล่นเปียโน สแตน เก็ตซ์ เล่นแซ็ก  เซบาสติโอ เนโต (Sebastião Neto) เล่นเบส มิลตัน บานาน่า (Milton Banana) เล่นกลอง และอัสตรุด ชิลเบร์ตู ในวัย 23 ปี ผู้มีความใฝ่ฝันจะเป็นนักร้องมาโดยตลอด แต่ยังไม่มีโอกาส จนกระทั่งโอกาสที่เธอไม่เคยคาดคิดก็ได้มาถึงในที่สุด

อัสตรุดและชูเอา ชิลเบร์ตู
อัสตรุด ชิลเบร์ตูและสแตน เก็ตซ์

“The Girl from Ipanema” เป็นผลงานจากอัลบั้ม “Getz/Gilberto” ที่ ชูเอา ชิลเบร์ตู ทำร่วมกับ สแตน เก็ตซ์ ซึ่งในอัลบั้มนี้มี 2 เพลงที่มีเสียงร้องของ อัสตรุด ชิลเบร์ตู คือ “The Girl from Ipanema” และ  “Corcovado  (Quiet Nights of Quiet Stars)” สำหรับ “The Girl from Ipanema” ในเวอร์ชันของ อัสตรุด ชิลเบร์ตู นั้นเนื้อร้องจะเป็นภาษาอังกฤษ แต่งโดย นอร์แมน กิมเบล (Norman Gimbel) ผู้เขียนเนื้อเพลงเวอร์ชันภาษาอังกฤษให้กับเพลงบราซิลมากมายหลายเพลง “The Girl from Ipanema” คือการร้องเพลงครั้งแรกในฐานะนักร้องของ อัสตรุด ชิลเบร์ตู และมันก็ทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปตลอดกาล เพราะเพลงนี้ได้กลายเป็นเพลงฮิตติดชาร์ตไปทั่วโลก และต่อมาก็ได้รับรางวัลแกรมมี่ในสาขาเพลงแห่งปีอีกด้วย จากนั้นความฝันของเธอก็เป็นจริง อัสตรุดได้ทำอัลบั้มออกมาอีกมากมาย อัลบั้มแรกคือ “Getz Au Go Go” ที่เธอทำร่วมกับ สแตน เก็ตซ์ ในปี 1964 ปีเดียวกันกับอัลบั้ม ‘Getz/Gilberto’ มีเรื่องราวหลังจากอัลบั้มนี้จบลง เพราะ อัสตรุดได้ตกหลุมรักกับเก็ตซ์และได้ตามเขาไปยังอเมริกา แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์ทางดนตรีของ ชูเอา ชิลเบร์ตู กับ สแตน เก็ตซ์ ต้องจบลงเพราะหลังจากนั้นทั้งคู่ก็ยังทำงานเพลงร่วมกันอีก ส่วนอัสตรุดกับชูเอาก็หย่ากันในราวปี 1965 จากนั้นอัสตรุดกับเก็ตซ์ก็ดำรงความสัมพันธ์กันทั้งในฐานะคนรักและคนดนตรี แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้แต่งงานกันอาจจะด้วยสาเหตุว่าเก็ตซ์ไม่อาจทำเรื่องหย่าร้างกับภรรยาของตัวเองได้

อัลบั้ม ‘Getz/Gilberto’

อัสตรุด ชิลเบร์ตู มีความสุขกับเส้นทางสายดนตรีมากว่า 4 ทศวรรษ โดยได้มอบเสียงร้องอันนุ่มนวลและเซ็กซี่ให้กับอัลบั้มดี ๆ ร่วมกับนักดนตรีชื่อดังมากมายอย่าง อังโตนีอู การ์ลูช โชบิง, ควินซี โจนส์ (Quincy Jones),  กิล อีแวนส์ (Gil Evans), สแตนลีย์ เทอร์เรนไทน์ (Stanley Turrentine) และ เจมส์ ลาส (James Last) ตลอดจนทำงานร่วมกับ จอร์จ ไมเคิล (George Michael) และคนอื่น ๆ อีกมากมาย และได้ออกอัลบั้มของเธอที่ประสบความสำเร็จหลายชุดอาทิ “The Astrud Gilberto Album” (1965), “Look to the Rainbow” (1966) และ “Windy” (1968) ดนตรีของเธอมักจะผสมผสานดนตรีบอสซาโนวาเข้ากับองค์ประกอบของดนตรีแจ๊ส ทำให้เกิดเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้เธอยังได้ออกอัลบั้มมากมายตลอดหลายปีที่ผ่านมาและได้สำรวจสไตล์ดนตรีที่แตกต่างนอกเหนือจากบอสซาโนวาอีกด้วย

ผลงานเพลงของ อัสตรุด ชิลเบร์ตู และสไตล์การร้องที่โดดเด่นของเธอทำให้เธอเป็นผู้มีอิทธิพลในแนวเพลง บอสซาโนวาและเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมในบราซิล การแสดงที่ผ่อนคลายและเป็นกันเองของเธอยังคงก้องกังวานกับผู้ชมทั่วโลก ทิ้งมรดกอันยาวนานไว้ในโลกของดนตรีบราซิลและวงการดนตรีโลก

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส