แอล แฟนนิง (Elle Fanning) นักแสดงสาวสวยชาวอเมริกันวัย 25 ปี น้องสาวของนักแสดงสาวสวย ดาโกตา แฟนนิง (Dakota Fanning) ที่แฟนหนังต่างรู้จักเธอจากการเป็นอดีตนักแสดงเด็กดาวรุ่งในหนังดังมาก่อน ทั้งการรับบทเป็นเด็กหญิงผู้ถูกแม่บ้านลักพาตัวใน ‘Babel’ (2006) รับบทเป็นนางเอกวัยเด็กใน ‘The Curious Case Of Benjamin Button’ (2008) พอโตขึ้นเป็นสาวน้อย ก็ได้รับบทบาทในหนังดังอีกหลายเรื่อง เช่นบทบาทเจ้าหญิงออโรรา ใน ‘Maleficent’ (2014) และ ‘Maleficent: Mistress of Evil’ (2019) ของ Disney
และยังมีผลงานแสดงหลากหลายบทบาทมาจนถึงปัจจุบัน และก็กำลังจะมีผลงานการแสดงใหม่ ๆ อีกหลายชิ้น ได้แก่ ‘A Complete Unknown’ หนังชีวประวัติของศิลปินระดับตำนาน บ็อบ ดีแลน (Bob Dylan) ‘The Nightingale’ หนังผลงานกำกับของนักแสดงสาว เมลานี โรลองต์ (Mélanie Laurent) ที่จะแสดงร่วมกันกับดาโกตา พี่สาวของตัวเอง หนังชีวประวัติ ‘Chippendales’ และ ‘Francis and the Godfather’ หนังดราม่าดัดแปลงจากเกร็ดเบื้องหลังการสร้างหนังเจ้าพ่อตำนาน ‘The Godfather’ (1972) ร่วมกับนักแสดงดัง เจค จิลเลนฮาล (Jake Gyllenhaal) และ ออสการ์ ไอแซก (Oscar Isaac)
แต่กว่าจะมาถึงจุดที่แฟนนิงกลายมาเป็นนักแสดงหญิงคุณภาพในวงการที่ทั้งได้รับการยอมรับในฝีมือการแสดง และได้รับโอกาสในบทบาทที่มากมายและหลากหลาย เธอเองก็ต้องเผชิญกับการแสดงความคิดเห็นที่เป็นพิษซึ่งเธอได้เปิดเผยเรื่องในบทสัมภาษณ์ของเว็บไซต์ The Hollywood Reporter ที่เธอได้เปิดเผยกลางวงบทสนทนาสัมภาษณ์นักแสดงหญิงชื่อดังของยุคว่า เธอเคยเจอความคิดเห็นรุนแรงที่ถึงขั้นทำให้ตัวเธอเองเคยพลาดโอกาสรับบทในหนังมาแล้ว เพียงเพราะเธอดูไม่มีความยั่วยวนทางเพศเท่านั้นเอง
โดยก่อนหน้านั้น แฟนนิงได้เล่าถึงผู้จัดการส่วนตัว และเอเจนซี หรือต้นสังกัดที่ดูแลเธอมาตั้งแต่ตอนที่เธอยังเป็นนักแสดงเด็ก ก่อนจะเล่าถึงหน้าที่สำคัญของการมีผู้จัดการส่วนตัวและเอเจนซี ก่อนที่แฟนนิงจะเปิดเผยเรื่องราวอื้อฉาว
“ฉันมีผู้จัดการและเอเจนซีที่เก่งมาก ๆ ค่ะ พวกเขาอยู่กับฉันมาตั้งแต่ฉันอายุ 8-9 ขวบ… ฉันไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังนะคะ ฉันเคยพยายามจะแสดงหนังเรื่องหนึ่ง แต่ฉันไม่ได้เล่น และฉันคิดว่าหนังเรื่องนั้นน่าจะยังไม่ได้สร้างด้วย มันเป็นหนังตลกแนว Road Trip ระหว่างพ่อกับลูกสาว”
“ฉันไม่ได้ยินเรื่องนี้จากเอเจนซีของฉัน เพราะพวกเขาไม่อยากเล่าเรื่องทำนองนี้ให้ฉันฟัง ซึ่งระบบการคัดกรองความคิดเห็นเนี่ยสำคัญมาก เพราะว่าอาจจะมีความคิดเห็นที่สร้างความเสียหายร้ายแรงได้ แต่มันมีความคิดเห็นอันหนึ่งที่หลุดมาถึงฉัน ตอนนั้นฉันอายุแค่ 16 ปี แล้วมีคนสดงความคิดเห็นประมาณว่า ‘ที่เธอไม่ได้รับบทในหนังตลกโรดทริปเรื่องนั้น ก็เพราะว่าเธอมันดูไม่น่าซั่ม (Unf**kable) เลยไง’ “
“มันเป็นความคิดเห็นที่น่าขยะแขยงมาก ๆ คือมาถึงตอนนี้ ฉันก็รู้สึกขำ ๆ แหละนะคะ แต่ตอนนั้นฉันว่ามันเป็นอะไรที่โคตรทุเรศเลย…”
อีกคำวิจารณ์ที่แฟนนิงเคยเจอมาในอดีต และเพิ่งเปิดเผยเมื่อไม่นานมานี้กับทางพอดแคสต์ Happy Sad Confused ว่า เธอเองเคยออดิชันเพื่อเข้าร่วมแสดงในแฟรนไชส์หนังฟอร์มยักษ์ แต่ก็ไม่ได้มีโอกาสร่วมแสดง ไม่ใช่เพราะว่าฝีมือการแสดงไม่ดีพอ แต่เป็นเพราะยอด Follower ในบัญชี Instagram ส่วนตัวของเธอนั้นมีน้อยเกินไป เลยถูกมองว่าไม่มีชื่อเสียงมากพอ
ซึ่งแฟนนิง ที่ปัจจุบันมียอดผู้ติดตามมากถึง 6.3 ล้านคน ได้เปิดเผยเรื่องนี้ว่า “ครั้งหนึ่งฉันเคยไม่ได้รับบทในหนังฟอร์มยักษ์ด้วยค่ะ ซึ่งมันก็อาจจะไม่ใช่แค่เหตุผลนี้อย่างเดียวหรอกนะ เหตุผลที่ว่าก็คือฟีดแบ็กเดียวที่ฉันได้ยินมาก็คือ เป็นเพราะฉันมีผู้ติดตามบน Instagram ไม่มากพอ ซึ่งฉันเองก็เซ็งนิด ๆ เพราะฉันเองก็ไม่คิดหรอกว่าตัวเองจะไม่ได้รับบทเพราะเหตุผลแบบนั้น”
แม้เธอจะรู้สึกเซ็งในการที่ไม่ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของแฟรนไชส์หนังฟอร์มยักษ์ที่เธอเองก็ไม่ได้เปิดเผยว่าเป็นแฟรนไชส์ไหน (แต่ในฮอลลีวูดตอนนี้ก็คงมีหนังฟอร์มยักษ์ดัง ๆ อยู่ไม่กี่แฟรนไชส์) แต่เธอเองก็เปิดเผยเพิ่มเติมว่า เธอเองไม่เคยรู้สึกเครียดที่ไม่เคยได้เข้าไปอยู่ในแฟรนไชส์หนังฟอร์มยักษ์เพื่อการันตีตัวเองว่าเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จเลยสักครั้ง
“แน่นอนว่า ผลงานเหล่านั้นมันเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลาย ๆ คนได้ แต่บางครั้งคุณก็ไม่รู้หรอกว่ามันจะประสบความสำเร็จหรือเปล่า ซึ่งมันเป็นอะไรที่น่ากลัวมากนะ”
ที่มา: The Hollywood Reporter, IndieWire
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส