นับเป็นความสูญเสียที่โศกเศร้าที่สุดของไทยที่เคยเกิดขึ้น เมื่อพระมหากษัตริย์ไทยผู้ทรงครองราชย์นานที่สุดในโลกและมีพระราชกรณียกิจมากมายที่ทำเพื่อผองชาวไทยได้เสด็จสวรรคตลงในบ่ายวันที่ 13 ตุลาคม ที่ผ่านมา
…พระมหากษัตริย์ที่ไม่ได้เป็นเพียงพระราชาของแผ่นดิน แต่ยังเป็นพ่อของชาวไทยทุกคน
หลายต่อหลายคนพูดว่า “ ไทยเราจะอยู่ได้อย่างไร หากไม่มีพ่อ ” แต่สำหรับบีพระองค์ไม่ได้จากไปไหน พระองค์ยังอยู่เสมอ โดยอยู่ในรูปของ “คำสอนและปรัชญาการดำเนินชีวิต”
สิ่งที่พวกเราควรทำนับจากนี้คือช่วยกันสานต่อสิ่งดีงามที่พ่อสร้างไว้ วันนี้บีเลยขอประมวลภาพพระราชกรณียกิจที่พระองค์เคยทำ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ รวมถึงเป็นแรงบันดาลใจที่จะสานต่อความดีของพ่อให้กับชาวไทยทุกคนค่ะ
พระองค์ทรงมีความห่วงใยประชาชนของพระองค์ในทุกด้าน โดยเฉพาะด้านสุขภาพอนามัย
พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีคณะแพทย์ ทั้งแพทย์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาจากโรงพยาบาลต่างๆ และแพทย์อาสาสมัคร โดยเสด็จพระราชดำเนินไปในขบวนอย่างใกล้ชิด โดยมีโครงการมากมายที่พระองค์จัดทำขึ้น อาทิ โครงการหน่วยแพทย์พระราชทาน โครงการแพทย์หลวงเคลื่อนที่พระราชทาน โครงการแพทย์พิเศษตามพระราชประสงค์
ในด้านเกษตรและการประกอบอาชีพของประชาชน พระองค์ก็ทรงมีบทบาทในเรื่องนี้อย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องของ เศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งมีบทบาทต่อการดำรงอยู่และพัฒนาของประเทศอย่างมาก ทั้งยังทำให้ประเทศไทยสามารถผ่านวิกฤตในหลายๆครั้งมาได้
” ถ้าไม่มี เศรษฐกิจพอเพียง เวลาไฟดับ …
จะพังหมด จะทำอย่างไร ที่ที่ต้องใช้ไฟฟ้าก็ต้องแย่ไป
… หากมี เศรษฐกิจพอเพียง แบบไม่เต็มที่
ถ้าเรามีเครื่องปั่นไฟ ก็ให้ปั่นไฟ
หรือถ้าขั้นโบราณกว่า มืดก็จุดเทียน
คือมีทางที่จะแก้ปัญหาเสมอ”
นับเป็นหลักการใช้ชีวิตแบบพอดี เดินทางสายกลาง ใช้ชีวิตอยู่ด้วยการรู้จักหาความรู้ พัฒนาตนเอง และพึ่งพาตนเอง ก่อนเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากคนอื่น
นอกจากนี้ยังมีโครงการมากมายที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีพของประชาชน “การเกษตรนั้นถือได้ว่าเป็นทั้งรากฐานและชีวิตสำหรับประเทศของเรา เพราะคนไทยเราส่วนใหญ่เป็นผู้มีอาชีพทางเกษตรกรรม ข้าพเจ้าจึงมีความเห็นเสมอมาว่า วิธีการพัฒนาที่เหมาะสมแก่ประเทศเราอย่างยิ่ง ก็คือจะต้องทำนุบำรุงเกษตรกรรมทุกสาขาให้พัฒนาก้าวหน้า”
ทั้งการแก้ปัญหาภัยแล้ง ปัญหาอุทกภัย รวมไปถึงการบำบัดน้ำเสีย เช่น เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จนถึงโครงการขนาดกลางและเล็กจำพวก ฝาย อ่างเก็บน้ำ และโครงการฝนหลวง เพื่อช่วยบรรเทาภัยแล้งสำหรับพื้นที่นอกเขตชลประทาน
และโครงการแก้มลิงที่เกี่ยวข้องกับปัญหาน้ำท่วม ที่ช่วยควบคุมการระบายน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาสู่แม่น้ำท่าจีน ลำคลองต่าง ๆ ลงสู่ทะเลอ่าวไทตามจังหวะการขึ้นลงของระดับน้ำทะเล
และโครงการกังหันชัยพัฒนา ที่บำบัดน้ำเน่าเสียในคูคลอง โดยเป็นการใช้น้ำดีไล่น้ำเสียออกจากคลองโดยการเพิ่มออกซิเจน ซึ่งเป็นสิ่งประดิษฐ์หนึ่งของพระองค์ที่ได้รับสิทธิบัตรจาก กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์
นอกจากนี้ยังมีในเรื่องของธรณีวิทยา ตลอดจนการจัดสรรที่ดิน รวมถึงการอนุรักษ์และพัฒนาป่า โครงการที่มีชื่อเสียงได้รับการยอมรับทั่วโลก มีอาทิ “โครงการหลวง” โดยกำเนิดขึ้นจากการที่ได้ทอดพระเนตรถึงปัญหาการปลูกฝิ่น และทำไร่เลื่อนลอยของชาวเขา จึงมีรับสั่งให้ทดลองหาพืชเมืองหนาวให้ชาวเขาปลูกแทนฝิ่น
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่พระองค์ให้ความสำคัญเสมอมา
และยังมีพระราชพิธีบำเพ็ญการกุศล ทรงสนับสนุนให้มีการสร้างศาสนสถาน อีกทั้งยังทรงเป็นองค์อัครศาสนูปถัมภกของทุกศาสนา ไม่ใช่เฉพาะแต่ศาสนาที่พระองค์ทรงนับถือ เนื่องจากทุกศาสนาต่างสอนให้คนเป็นคนดี
นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของพระราชกรณียกิจของพระองค์เท่านั้น บีไม่อาจเขียนออกมาได้ในบทความจริงๆ เพราะพระราชกรณียกิจที่พระองค์ทำนั้นมากมาย บีว่าคงดีอย่างมาก หากเราทุกคนช่วยกันสานต่อความดีของพระองค์ และดำรงไว้ซึ่งชาติ ศาสนา และสถาบันกษัตริย์ต่อไป รวมถึงคนในแผ่นดินไทยเอื้อเฟื้อ สามัคคี และตั้งอยู่ในคุณธรรม ดังพระบรมราโชวาทของพระองค์ที่ว่า “ คนไทย รักษาชาติ รักษาแผ่นดิน เป็นปึกแผ่นมั่นคงมาได้ ด้วยสติปัญญาความสามารถ และด้วยคุณความดี อิสรภาพ เสรีภาพ ความร่มเย็นเป็นสุข ตลอดจนความเจริญ ทุกอย่างที่มีอยู่บัดนี้ เราทั้งหลายในปัจจุบัน จึงต้องถือเป็นหน้าที่รับผิดชอบอย่างสำคัญ ในอันที่จะรักษาคุณความดี พร้อมทั้งจิตใจที่เป็นไทยไว้ให้มั่นคงตลอดไป ”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการเสด็จออกมหาสมาคม ในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2521