Variety ได้รายงานว่า ‘The Flash’ ภาพยนตร์ลำดับท้าย ๆ ในจักรวาล DCEU (DC Extended Universe) ที่ แซ็ก สไนเดอร์ (Zack Snyder) ปูทางไว้ ทำรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในสหรัฐฯ (16 – 18 มิถุนายน 2023) ไปอย่างน่าผิดหวัง เพียงแค่ 55 ล้านเหรียญ
รายได้ดังกล่าวน้อยกว่าที่หลายสื่อในสหรัฐฯ คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ราว 70 – 75 ล้านเหรียญ อีกทั้งยังเป็นรายได้เปิดตัวที่น้อยกว่า ‘Black Adam’ ซึ่งเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ในจักรวาล DCEU ที่ประสบความล้มเหลวทั้งด้านรายได้และคำวิจารณ์ โดย ‘Black Adam’ นั้น ทำรายได้เปิดตัวไป 67 ล้านเหรียญ
อย่าไรก็ดี ‘The Flash’ สามารถทำรายได้ในตลาดต่างประเทศได้ 75 ล้านเหรียญ ซึ่งส่งผลทำให้รายได้รวมทั่วโลกสุดสัปดาห์แรกนั้นอยู่ที่ 139 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างที่สูงถึง 200 ล้านเหรียญ

ด้วยรายได้เปิดตัวที่น่าผิดหวังนี้ อาจส่งผลต่อเนื่องไปถึงการสร้าง ‘The Flash 2’ ในอนาคต ซึ่งมีข่าวลือว่าสตูดิโอต้องการให้ ‘The Flash’ ทำรายได้ทั่วโลกใกล้เคียงหรือเทียบเท่า ‘The Batman’ (2022) ที่ทำไว้ 771 ล้านเหรียญ เสียก่อนจึงจะอนุมัติสร้างภาคต่อ
อย่างไรก็ดี ‘The Flash’ นั้น เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ DCEU ที่ได้รับคำวิจารณ์วิจารณ์จาก Rotten Tomatoes ในระดับสูง โดยทำไปถึง 89% ในขณะที่ CinemaScore ให้คะแนนในระดับ B ส่วน Comscore ให้คะแนนไป 77%
ที่มา : ScreenRant และ Variety
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส