Puck News ได้รายงานว่า ดเวย์น จอห์นสัน (Dwayne Johnson) ได้ขึ้นแท่นเป็นนักแสดงชายที่ได้รับค่าเหนื่อยสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากภาพยนตร์ 1 เรื่อง อยู่ที่ 50 ล้านเหรียญ จากการรับบทนำใน ‘Red One’ ภาพยนตร์แอ็ชันผจญภัยเทศกาลคริสต์มาส ที่จะฉายบนบริการสตรีมมิง Prime Video ของ Amazon
จอห์นสันได้รับบทเป็น Callum Drift ผู้บัญชาการทีม E.L.F. โดยตัวภาพยนตร์ได้ถ่ายทำเสร็จสิ้นไปเมื่อต้นปี 2023 และมีกำหนดฉายในช่วงหยุดยาวปลายปี 2023
จอห์นสันมีชื่อเสียงมาจากนการเป็นนักมวยปล้ำ WWE ่กอนจะหันมารับงานแสดงในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่างแฟรนไชส์ ‘Fast and Furious’, ‘Jumanji’ และเพิ่งรับบทเป็นซูเปอร์ฮีโรของ DCEU
จอห์นสันเป็นหนึ่งในนักแสดงชายที่มีรายได้สูงสุดของฮอลลีวูดในยุคนี้ โดยเขาเคยได้รับค่าเหนื่อยในระดับสูงกว่า 20 ล้านเหรียญต่อเรื่อง จากภาพยนตร์ในช่วงหลังอย่าง
- ‘Red Notice’ (2021) : 23.5 ล้านเหรียญ
- ‘Black Adam’ (2022) : 22.5 ล้านเหรียญ
- ‘Jungle Cruise’ (2021) : 22 ล้านเหรียญ
- ‘Fast & Furious Presents: Hobbs & Shaw’ (2019) : 20 ล้านเหรียญ
ค่าเหนื่อยล่าสุดของจอห์นสันนี้ ยังสูงกว่าเจ้าของสถิติเดิมอย่าง โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ (Robert Downey Jr.) และ วิล สมิธ (Will Smith) ที่เคยได้รับจาก ‘Captain America: Civil War’ (2016) และ ‘King Richard’ (2022) ตามลำดับ ที่ 40 ล้านเหรียญ เท่ากัน
ก่อนหน้านี้ ค่าเหนื่อยของนักแสดงในฮอลลีวูดนั้นจะสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 20 ล้านเหรียญ บวกส่วนแบ่งจากรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศ แต่อุตสาหกรรมสตรีมมิงได้เปลี่ยนกฏทุกอย่างไป โดยผู้ให้บริการยักษ์ใหญ่อย่ง Netflix และ Prime Video ได้เสนอค่าเหนื่อยระดับมหาศาลให้แก่นักแสดงหรือผู้สร้างอยู่เสมอ เนื่องจากเป็นการรวมเปอร์เซ็นต์ความนิยมจากผู้ชมสตรีมมิงไปก่อนล่วงหน้าแล้ว
ที่มา : ScreenRant
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส