Variety ได้รายงานว่า จากเหตุการณ์ประท้วงของสมาพันธ์ WGA (สมาพันธ์นักเขียนแห่งอเมริกา) และ SAG-AFTRA (สมาพันธ์ศิลปินโทรทัศน์และวิทยุอเมริกัน) ที่เกิดขึ้นในฮอลลีวูด ณ ขณะนี้ อาจส่งผลทำให้ Warner Bros. ตัดสินใจเลื่อนฉายภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ จำนวน 3 เรื่องของตน ที่มีกำหนดฉายในปี 2023 นี้ อย่าง ‘Aquaman and the Lost Kingdom’, ‘Dune: Part Two’ และ ‘The Color Purple’ ออกไปยังไปี 2024
รายงานดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่มีการเปิดเผยว่า การถ่ายทำ ‘Aquaman and the Lost Kingdom’ ประสบปัญหาติดขัดมากมาย
อย่างไรก็ดี Werner Bros. Discovery และ Legendary Entertainment (สตูดิโอร่วมสร้าง ‘Dune: Part Two’) ยังมิได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อรายงานดังกล่าวแต่อย่างใด
ในขณะนี้ สตูดิโอส่วนใหญ่ของฮอลลีวูดต้องหยุดการพัฒนาโปรเจกต์ชั่วคราวในระหว่างการประท้วงนี้ กอปรกับความพยายามของ WGA และ SAG-AFTRA ที่เดินหน้าเจรจากับ AMPTP (สมาพันธ์ผู้ผลิตภาพยนตร์และโทรทัศน์) เพื่อหาข้อตกลงด้านค่าตอบแทนสำหรับนักแสดงและศิลปินในฮอลลีวูดที่เป็นธรรมมากขึ้นก็ไม่มีความคืบหน้า จึงส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ของฮอลลีวูดโดยตรง
นอกจากนักแสดงและศิลปินจำนวนมากในฮอลลีวูดจะพร้อมใจกันหยุดงานเพื่อสนับสนุการประท้วงใหญ่ครั้งนี้ซึ่งทำให้หลายโปรเจ็กต์ต้องหยุดชะงักไปแล้วนั้น สตูดิโอก็ยังต้องเสียผลประโยชน์มากมายจากการที่ไม่สามารถจัดการให้สัมภาษณ์, ลงสื่อในโซเชียลมีเดีย และการร่วมการทอล์คโชว์ช่วงกลางคืน เพื่อโปรโมตภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์เรื่องใหม่ตามที่ได้วางแผนไว้ก่อนหน้านี้ได้ ซึ่งมีความสำคัญในเชิงการตลาดมากพอ ๆ กับการฉายตัวอย่างภาพยนตร์ด้วยเช่นกัน
ในตอนนี้ ‘Dune: Part Two’ มีกำหนดฉายในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2023, ‘Aquaman and the Lost Kingdom’ มีกำหนดฉายในวันที่ 20 ธันวาคม 2023 และ ‘The Color Purple’ มีกำหนดฉายวันที่ 25 ธันวาคม 2023
ที่มา : ScreenRant
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส