Deadline ได้รายงานว่า ‘Mission: Impossible – Dead Reckoning Part One’ ทำรายได้สุดสัปดาห์ที่ 2 ไป 19.5 ล้านเหรียญ อยู่ในอันดับที่ 4 รองจาก ‘Barbie’ (155 ล้านเหรียญ), ‘Oppenheimer’ (80.5 ล้านเหรียญ) และ ‘Sound of Freedom’ (20.1 ล้านเหรียญ) ซึ่งลดลงถึง 64.3% จากรายได้เปิดตัวที่สูงถึง 54.7%
นี่เป็นสถิติรายได้สุดสัปดาห์ที่ 2 ที่ลดต่ำสุดของแฟรนไชส์ จากเดิมที่ ‘Mission: Impossible II’ (2000) เคยทำรายได้สุดสัปดาห์ที่ 2 ลดต่ำถึง 53.3%
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ‘Mission: Impossible – Dead Reckoning Part One’ ทำสถิติรายได้เปิดตัว 5 วันแรก สูงสุดของแฟรนไชส์ถึง 80 ล้านเหรียญ
ปัจจัยหลักที่ทำให้รายได้ของ ‘Mission: Impossible – Dead Reckoning Part One’ ลดลงอย่างมาก คือ การเข้าฉายของ 2 ภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ที่ผู้ชมจับตามองมากที่สุดของปี นั่นคือ ‘Barbie’ และ ‘Oppenheimer’ ที่เข้าฉายเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2023 พร้อมกัน โดย ‘Barbie’ นั้น ได้ครองสถิติรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกสูงสุดในปี 2023 ในขณะนี้
อย่างไรก็ดี ‘Mission: Impossible – Dead Reckoning Part One’ ยังมีโอกาสทำรายได้ที่ดีในระยะยาว หากพิจารณาจากคู่แข่งที่จะเปิดตัวถัดไปอย่าง ‘Haunted Mansion’, ‘Teenage Mutant Ninja Turtles: Mutant Mayhem’ และ ‘Meg 2: The Trench’ ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีโอกาสขึ้นอันดับที่ 1 แต่ก็คาดว่ารายได้จะลดลงในสัปดาห์ถัดไปอย่างรวดเร็ว
นั่นอาจส่งผลทำให้ ‘Mission: Impossible – Dead Reckoning Part One’, ‘Barbie’ และ ‘Oppenheimer’ สามารถครองพื้นที่บนบ็อกซ์ออฟฟิศในระยะยาวตลอดซัมเมอร์ปี 2023 นี้ได้
ในขณะนี้ ‘Mission: Impossible – Dead Reckoning Part One’ ทำรายได้รวมในสหรัฐฯ ไป 118.7 ล้านเหรียญ และรายได้รวมทั่วโลก 370.8 ล้านเหรียญ โดย ‘Dead Reckoning Part Two’ ซึ่งเป็นภาคปิดแฟรนไชส์ มีกำหนดฉายในปี 2024
ที่มา : ScreenRant
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส