ไบรอัน ร็อบบินส์ (Brian Robbins) ซีอีโอของพาราเมาท์ สตูดิโอผู้สร้างแฟรนไชส์ Mission: Impossible ให้สัมภาษณ์กับ Variety เมื่อเร็ว ๆ นี้ ร็อบบินส์ได้ย้อนเล่าถึงแง่มุมต่าง ๆ ของกระบวนการสร้างภาพยนตร์ Mission: Impossible – Dead Reckoning Part One และต่อเนื่องถึง Part Two ซึ่งเป็นการถ่ายทำในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาด และมีผลกระทบกับการทำงานของกองถ่าย จนงบประมาณในการสร้างต้องบานปลายกลายเป็น 290 ล้านเหรียญ
แล้วในช่วงท้ายของการถ่ายทำ ทอม ครูซ ก็เปลี่ยนแผนด้วยการเพิ่มฉากเรือดำน้ำเข้าไปในภาคนี้ ทั้งที่แผนการเดิมนั้นฉากเรือดำน้ำจะอยู่ในหนัง Part Two แต่ครูซก็ยังคงยืนกรานที่จะทำเช่นนี้ทั้งที่งบประมาณก็พุ่งขึ้นไปจากเดิมอย่างมากแล้ว ทำให้ ไบรอัน ร็อบบินส์ และ ทอม ครูซ มีปัญหาขัดแย้งกัน
“เอาเป็นว่าพาราเมาท์ ทีมงาน และ ทอม มีความเห็นไม่ลงรอยกันในเรื่องทิศทางการทำงาน และเป็นผลให้กองถ่ายต้องหยุดพักชั่วคราว จากนี้ไปเราก็ต้องมาขบคิดกันว่าเราจะเดินหน้ากันต่อไปอย่างไรกับ ‘Dead Reckoning Part Two’ ในขณะที่เราจบ ‘Dead Reckoning Part One’กันแบบมีปัญหาในการทำงาน ทั้งหมดทั้งหลายมันก็คือเรื่องข้อเรียกร้องต่าง ๆ จากครูซ แล้วเราก็จำเป็นต้องถามกลับไปว่า นี่เราต้องการเรื่องนี้จริง ๆ เหรอ และทำไมต้องใส่เรื่องนี้ลงไปด้วย ? แล้วมันจะบานปลายไปถึงไหนกัน แล้วมันจะใช้เวลาอีกนานแค่ไหน ? ” ไบรอัน ร็อบบินส์ เผยในบทสัมภาษณ์
ปัญหาที่ร็อบบินส์เล่านั้น เกิดขึ้นในช่วงที่กองถ่าย Mission: Impossible – Dead Reckoning Part One ยังปักหลักกันอยู่ในอิตาลีระหว่างที่โควิด-19 แพร่ระบาด ทำให้กองถ่ายต้องปิดตัวลง นับรวมแล้วกองถ่ายถูกสั่งหยุดพักทั้งหมด 7 ครั้ง นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2020 และเป็นเหตุให้งบประมาณในการถ่ายทำเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะต้องจ่ายค่าจ้างให้กับนักแสดงและทีมงานตลอดที่กองถ่ายหยุดพัก แล้วครูซเองก็ยังเรียกเก็บเงินมาอีก 700,000 เหรียญ (ประมาณ 23 ล้านบาท) เป็นค่าเช่าเรือสำราญ 2 ลำ เพื่อใช้เป็นที่พักของทุกคนในกองถ่าย จากคำบอกเล่าของร็อบบินส์ก็พอนึกภาพตามได้ว่า กองถ่าย Dead Reckoning Part One เป็นไปด้วยความตึงเครียดอย่างมาก ประกอบกับหลักฐานที่เคยรั่วไหลออกมา เป็นเสียงของครูซที่ระเบิดโทสะต่อว่าทีมงานที่ไม่ปฏิบัติตามระเบียบด้านความปลอดภัยในช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด
ขณะนี้ งานสร้าง Dead Reckoning Part Two ก็เริ่มต้นขึ้นแล้ว กำหนดการคร่าว ๆ ไว้ว่าจะเปิดกล้องในช่วงปลายปีนี้ และอาจจะได้รับผลกระทบจากสหพันธ์ SAG-AFTRA ที่ยังคงเดินหน้าประท้วงกันอยู่
ที่มา : screenrant