จูดี เดนช์ (Judie Dench) นักแสดงหญิงชาวอังกฤษรุ่นใหญ่ วัย 88 ปี เจ้าของบทบาท M จากหน่วย MI6 หัวหน้าหญิงคนแรกของสายลับ เจมส์ บอนด์ (James Bond) ในแฟรนไชส์หนัง 007 ที่เคยเปิดเผยมาก่อนหน้านี้ว่า เธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นจอประสาทตาเสื่อมมาตั้งแต่ปี 2012 ล่าสุดเธอได้เปิดเผยว่า ณ ปัจจุบันนี้ เธอมีปัญหาด้านสายตาจนไม่สามารถอ่านบทภาพยนตร์ได้ด้วยตัวเองอีกต่อไป
เดนซ์ได้ให้สัมภาษณ์ Exclusive กับเว็บไซต์ The Mirror ว่า ด้วยปัญหาด้านดวงตาที่ยังเรื้อรัง ทำให้สายตาของเธอแย่ลงจนไม่สามารถอ่านบทภาพยนตร์ในกองถ่ายได้อีกต่อไปแล้ว แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังคงตั้งใจจะทำงานในวงการบันเทิงต่อไปโดยไม่ยอมเกษียณเธอเอง
“ฉันเองไม่สามารถมองเห็นกองถ่ายได้อีกต่อไปแล้ว มองเห็นอะไรได้ไม่ค่อยถนัดนัก และก็อ่านอะไรไม่เห็นด้วย เลยต้องใช้วิธีการอื่น ๆ ในการจัดการกับมัน ถ้าบทพูดท่อนไหนยาว ๆ ก็จำยากหน่อย ฉันยังไม่รู้วิธีจัดการเท่าไหร่ แต่ฉันมีเพื่อนมากมายที่คอยอ่านบทให้ฉันฟัง และฉันก็จะใช้วิธีจำมันเป็นภาพ”
ในปี 2012 เดนซ์ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อมตามอายุ (Age-Related Macular Degeneration – AMD) ซึ่งเป็นโรคทางจักษุวิทยาที่สามารถพบได้ในผู้สูงอายุ ผู้ป่วยจะมีอาการสูญเสียการมองเห็นชัดตรงกลางภาพ ทำให้การมองเห็นภาพชัดลดลงแบบฉับพลัน หรือแบบค่อยเป็นค่อยไป เกิดอาการตามัว มองเห็นภาพเบี้ยว มองเห็นจุดดำตรงกลางภาพ เป็นต้น จนกระทั่งไม่กี่ปีที่ผ่านมา เธอถูกบังคับห้ามขับรถ เนื่องจากสายตาของเดนซ์ที่เริ่มมีปัญหามากขึ้นเรื่อย ๆ
ในปี 2021 เดนซ์ได้ให้สัมภาษณ์กับ The Guardian ว่า แม้เธอจะประสบปัญหาในการอ่านบทซึ่งทำให้การแสดงมีอุปสรรคเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว แต่เธอก็ค้นพบวิธีในการอ่านบทและเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ด้วยการให้เพื่อนอ่านบทให้เธอฟังซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ฉันเริ่มค้นพบวิธีที่จะเอาชนะในสิ่งที่ฉันคิดว่ามันยากมาก ฉันต้องหาวิธีในการเรียนรู้บท และสิ่งต่าง ๆ นั่นก็คือการมีเพื่อนดี ๆ ที่คอยพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้ฉันฟัง และฉันก็ใช้วิธีการเรียนรู้ผ่านการทำซ้ำ ๆ ฉันหวังแค่ผู้คนจะไม่สังเกตเห็นมากไป ถ้าหากบทนั้นมันดูสิ้นหวังน่ะนะ”
เดนซ์ได้เปิดเผยเรื่องนี้อีกครั้งในรายการ เดอะ เกรแฮม นอร์ตัน โชว์ (The Graham Norton Show) โดยเธอได้เปิดเผยว่า ในอดีต เธอไม่ได้มีปัญหากับการอ่านและจดจำบทนัก เพราะเธอสามารถจำบทละครเวทีเรื่อง ‘Twelfth Night’ ประพันธ์โดย วิลเลียม เชกสเปียร์ (William Shakespeare) ที่เธอเคยแสดงครั้งแรกในปี 1958 ได้ทั้งหมดด้วยการจำเป็นรูปภาพ แต่เธอยอมรับว่าในปัจจุบัน การอ่านและศึกษาบทที่ตัวเองได้รับ กลับเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมากขึ้นเรื่อย ๆ
“เมื่อก่อนฉันรู้สึกว่า การอ่านและจดจำบทเป็นสิ่งที่ง่ายมาก ฉันสามารถแสดง ‘Twelfth Night’ ทั้งเรื่องตอนนี้ได้เลย ซึ่งปกติแล้วใคร ๆ ก็สามารถอ่านบทให้คุณฟังได้ แต่ตอนนี้ฉันเพิ่งค้นพบว่าตัวฉันเองจำเป็นภาพ มันเลยกลายเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยถ้าจะอ่านบท เพราะฉันจำทุกอย่างเป็นภาพน่ะ ฉันไม่ได้ต้องการแค่เครื่องมือที่จะสอนเกี่ยวกับบทพูดให้ฉันได้ แต่ฉันอยากได้เครื่องมือที่คอยบอกฉันด้วยว่าบทพูดของฉันอยู่ตรงไหนของหน้ากระดาษ”
เดม จูดิธ โอลิเวีย เดนช์ เริ่มต้นทำงานอาชีพนักแสดงด้วยการแสดงในละครเวทีมาตั้งแต่ปี 1957 ก่อนจะเริ่มมีผลงานการแสดงภาพยนตร์ครั้งแรกในปี 1964 ผลงานการแสดงอันหลากหลายตลอด 6 ทศวรรษของเธอยืนยันด้วยการเข้าชิงรางวัลในเวทีต่าง ๆ มากมาย ได้รับพระราชทานราชอิสริยาภรณ์ เดม (Dame) หรือคุณหญิงเมื่อปี 1988 และเคยได้รับรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม จากหนังเรื่อง ‘Shakespeare in Love’ (1998)
และเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากการรับบทเป็น เอ็ม (M) ผู้หญิงคนแรกและคนเดียวในแฟรนไชส์เจมส์ บอนด์ ตั้งแต่ภาค ‘GoldenEye’ (1995) ในยุค เพียร์ซ บรอสแนน (Pierce Brosnan) และรับบทนี้ครั้งสุดท้ายในภาค ‘Spectre’ (2015) ในยุค แดเนียล เครก (Daniel Craig) รวมทั้งหมด 8 ภาค
และหากจะนับเฉพาะผลงานภาพยนตร์ของเดนซ์ตั้งแต่ปี 2012 ที่เธอเริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับสายตา ก็นับว่าน่าทึ่งไม่น้อยที่เธอยังคงมีผลงานการแสดงออกมาอีกมากมาย นับเฉพาะภาพยนตร์ที่เด่น ๆ ยกตัวอย่างเช่น ‘Spectre’ (2015), ‘Victoria & Abdul’ (2017), ‘Murder on the Orient Express’ (2017), ‘Cats’ (2019) และ ‘Belfast’ (2021) ที่ทำให้เธอได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมเป็นครั้งที่ 3 ในชีวิต
ภาวะจอประสาทตาเสื่อมตามอายุไม่ได้ส่งผลด้านอาชีพการแสดงของเธอเท่านั้น แต่ดูเหมือนจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตของเธอไม่น้อย เธอเคยเล่าเรื่องเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในภาวะสายตาที่เริ่มแย่ลงเรื่อย ๆ จนต้องปรับการใช้ชีวิตให้เข้าที่เข้าทางแบบขำ ๆ
“ฉันไปทานอาหารเย็นเมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อน เป็นดินเนอร์ที่ค่อนข้างสำคัญ มันมืดมากจนฉันต้องถามเดวิด (เดวิด มิลส์ – David Mills คู่ชีวิตปัจจุบันของเดนซ์) ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ว่า ‘ในจานของฉันมีอะไรไหม’ เขาตอบว่า ‘ใช่’ ฉันถามเขาว่า ‘ต้องหั่นไหม’ เขาตอบว่า ‘ใช่’ และฉันก็ถามว่า ‘หั่นให้ฉันหน่อยได้ไหม ? ‘ เขาเลยหั่นมันและยื่นมาให้ฉันด้วยส้อม นั่นแหละวิธีกินของฉันล่ะ ฉันไม่รู้ว่าฉันกินเสร็จหรือยัง ฉันไม่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไป ฉันคงตักกินหมดจานเท่าที่ฉันรู้นั่นแหละ”
อีกเรื่องตลกที่เธอเคยเปิดเผยก็คือ เธอเคยมองไม่เห็นถึงขั้นทักคนผิดด้วย แต่ไม่ใช่แค่ทักผิด แต่ยังเรียกด้วยคำหยาบคายแบบขำ ๆ เพราะเข้าใจผิดว่าคนแปลกหน้าเป็นเพื่อนสนิทของเธอเอง “ฉันขับรถตาม และเห็นคนที่ฉันคิดว่าเป็น อลิสแตร์ แม็กโกแวน (Alistair McGowan – นักแสดงชาวอังกฤษ) และฉันก็ตะโกนเรียกว่า ‘Wanker!…’ (Wanker – ศัพท์แสลงอังกฤษ แปลว่าคนที่นิสัยแย่หรือไม่ค่อยฉลาด) แต่จริง ๆ แล้วเขาคือคนแปลกหน้าซะงั้น”
แม้ว่าเดนซ์จะประสบปัญหาด้านสายตาจนถึงขั้นไม่สามารถอ่านบทได้ด้วยตัวเองอีกต่อไป แต่เธอเองก็เปิดเผยว่า สายตาที่เป็นปัญหา ไม่ใช่เหตุผลที่จะทำให้เธอยอมเกษียณในอาชีพการงานที่เธอทำมายาวนานกว่า 6 ทศวรรษลงได้ง่าย ๆ
“ฉันไม่ได้ต้องการจะเกษียณ ฉันทำอะไรไม่ได้มากในตอนนี้เพราะฉันมองไม่ค่อยเห็น ก็แย่หน่อย แต่ฉันต้องหาวิธีการเรียนรู้ใหม่ให้กับตัวฉันเอง ฉันมีความทรงจำเป็นภาพ มีหลายคนที่สามารถจะคอยช่วยเหลือฉันได้ การอ่านบทแล้วคอยบอกฉันว่า ‘นี่คือบทพูดของคุณนะ’ ทำให้ฉันสามารถแสดงได้ ฉันจะหาวิธีให้ตัวเอง ฉันรู้ว่าฉันจะทำได้ ตราบใดที่ฉันยังไม่ยอมแพ้ที่จะทำมัน”
ที่มา: Variety, The Daily Mail, The Guardians, NME
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส