ใน ‘Star Wars: Episode I – The Phantom Menace’ (1999) ของจักรวาล สตาร์ วอร์ส (Star Wars) มีตัวละครหนึ่งที่แฟน ๆ หลายคนยังคงจดจำและเป็นที่พูดถึงกัน นั่นก็คือ จาร์ จาร์ บิงคส์ (Jar Jar Binks) ชาวเผ่ากันแกน (Gungan) ที่อาศัยอยู่บนดาวนาบู (Naboo) และได้ช่วย 2 อัศวินเจได ไควกอน จินน์ (Qui-Gon Jinn) และโอบีวัน เคโนบี (Obi-Wan Kenobi) หลบหนีจากการตามล่าของสหพันธ์พาณิชย์ และพาลงไปยังเมืองใต้บาดาลที่ชาวกันแกนอาศัยอยู่
แม้ว่าตัวละครนี้จะเป็นตัวละครที่ปฏิวัตินวัตกรรมภาพยนตร์ ด้วยการสร้างสรรค์ตัวละครขึ้นจากเทคนิค CGI จนทำให้จาร์ จาร์ บิงคส์ กลายเป็นตัวละคร CGI ที่สมบูรณ์แบบที่สุดตัวแรก ๆ และเป็นตัวละครที่ จอร์จ ลูคัส (George Lucas) ตั้งใจใส่เพื่อให้โทนหนังไม่ซีเรียสเกินไป แม้ว่าเด็ก ๆ จะชื่นชอบ แต่ไม่ใช่กับบรรดาแฟนบอยผู้ใหญ่ที่ต่างรุมวิจารณ์ตัวละครนี้ว่าดูน่ารำคาญ งุ่มง่าม เล่นมุกแป้ก หน้าตาไม่น่ารัก หนักข้อถึงขั้นโดนวิจารณ์ว่าเป็นตัวละครเหยียดผิว และโดนเหมารวมว่าอาจเป็นตัวละครพวกเดียวกับวายร้ายพัลพาทีน (Palpatine) ที่มีส่วนทำให้เหล่าเจไดโดนสังหารในเหตุการณ์ Order 66 ด้วย
ซึ่งคนที่ได้รับผลกระทบนี้มากที่สุดก็หนีไม่พ้น อาเหม็ด เบสต์ (Ahmed Best) นักแสดงผู้สวมบทบาทนี้ เบสต์ในวัย 25 ปีต้องเผชิญกับการโดนวิจารณ์ก่นด่าอย่างหนัก เขาเองต้องรับมือกับคำวิจารณ์ก่นด่า ทั้งการโดนกล่าวหาว่าเป็นคนทำลายชีวิตวัยเด็ก หนักข้อถึงขั้นโดนโทรศัพท์ขู่ฆ่า และนั่นนำไปสู่ช่วงที่ตกต่ำที่สุดในชีวิตที่ทำให้เขาถึงขั้นคิดอยากจะจบชีวิตตัวเอง ซึ่งเขาได้เล่าเปิดเผยเรื่องนี้ในพอดแคสต์ ‘The Redemption of Jar Jar Binks’ ที่ผลิตโดย TED
เบสต์เล่าถึงช่วงเวลาที่เขาคิดตั้งใจจะฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงจากสะพานบรูกลินที่สูงจากพื้นน้ำ 39 เมตร ในเวลา 03.00 น. ที่มีหมอกลงหนา เขาเดินเกาะขอบสะพาน และในระหว่างที่กำลังตัดสินใจจะพุ่งตัวกระโดดจากสะพาน เบสต์เล่าว่า ในเวลานั้นกลับมีความคิดพุ่งเข้ามาในหัวว่า “ฉันอยากจะแสดงให้ทุกคนเห็น ให้ทุกคนเห็นว่าพวกนายทำอะไรกับฉัน และเมื่อฉันจากไปแล้ว นายจะรู้สึกว่าฉันเคยผ่านอะไรมาบ้าง” ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนใจในท้ายที่สุด “ณ ตอนนั้น มันเป็นอะไรที่น่ากลัวมากจริง ๆ ครับ” เบสต์กล่าวเพิ่มเติม
ปี 2018 ในวาระเกือบครบ 20 ปีของ ‘Star Wars: Episode I’ เบสต์ได้เคยทวีตเล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ พร้อมกับภาพถ่ายของเขาและลูกชาย ที่มีเบื้องหลังเป็นสะพานบรูกลินที่เขาเคยคิดจบชีวิตตัวเอง พร้อมข้อความว่า “ในปีหน้าก็จะครบ 20 ปีที่ผมต้องเจอกับผลตอบรับที่ยังส่งผลต่ออาชีพของผมจนถึงตอนนี้ และที่นี่คือที่ที่ผมเคยเกือบจบชีวิตตัวเอง มันเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยากเหมือนกัน แต่ผมก็ผ่านมาได้ และเจ้าลูกชายคนนี้ก็คือของขวัญสำหรับการมีชีวิตรอดของตัวผมเอง”
แม้จะผ่านเรื่องราวร้าย ๆ แต่เบสต์ก็ยังคงทำงานในจักรวาล Star Wars เรื่อยมา ทั้งการกลับไปพากย์เสียง จาร์ จาร์ บิงคส์ ในแอนิเมชัน ‘Star Wars: The Clone Wars’ (2008 – 2014) และในรูปแบบเกม นอกจากนี้ ในงาน Star Wars Celebration ปี 2019 ลูคัสได้เปิดเผยว่า จาร์ จาร์ บิงคส์ คือตัวละครที่เขาชื่นชอบที่สุดในจักรวาล Star Wars และได้ยกย่องเบสต์ว่ามีการแสดงอันยอดเยี่ยม
และหากใครได้ดูซีรีส์ ‘The Mandalorian’ ซีซัน 3 จนถึงตอนที่ 4 ก็น่าจะเซอร์ไพรส์ไม่น้อย เพราะเบสต์ได้กลับมาสู่จักรวาลนี้อีกครั้ง แต่ไม่ใช่การรับบท จาร์ จาร์ บิงคส์ แต่เขาได้รับบทเป็น เคลเลอราน เบก (Kelleran Beq) ปรมาจารย์เจไดผู้ช่วยเหลือโกรกูให้พ้นจากภัยอันตรายของกองทัพจักรวรรดิ ซึ่งเบสต์ได้กล่าวถึงการรับบทบาทนี้ว่า
“ในฐานะศิลปินคนหนึ่งที่สูญเสียความมั่นใจในตัวเองมานาน นี่คือสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกดีมาก ๆ ‘The Mandalorian’ เหมือนเป็นตัวยืนยันว่า ผมทำสิ่งที่ถูกต้องมาโดยตลอด”
ที่มา: The Guardians, The Daily Mail, Screen Rant
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส