'Barbie' ทำเงินทะลุ 1,000 ล้านเหรียญ, 'Oppenheimer' ตามมาที่ 500 ล้านเหรียญ, 'Meg 2: The Trench' เปิดตัว 140 ล้านเหรียญ

ร้อนแรงต่อเนื่องสำหรับ ‘Barbie’ ของผู้กำกับหญิง เกรต้า เกอร์วิก (Greta Gerwig) ที่ครองอันดับที่ 1 บนตารางบ็อกซ์ออฟฟิศมาแล้ว 3 สัปดาห์ซ้อน โดยทำรายได้ในสุดสัปดาห์ที่ 3 (4 – 6 สิงหาคม 2023) ไปอย่างน่าประทับใจถึง 53 ล้านเหรียญ ซึ่งทำให้รายได้รวมในสหรัฐฯ นั้น อยู่ที่ 459.4 ล้านเหรียญ

เมื่อรวมกับรายได้จากต่างประเทศที่สูงถึง 572.1 ล้านเหรียญ ก็ทำให้ ‘Barbie’ ทำรายได้ทั่วโลกถึง 1,030 ล้านเหรียญ แล้วในขณะนี้ ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่กำกับโดยผู้กำกับหญิงเรื่องแรกในรประวัติศาสตร์ที่ทำรายได้ทั่วโลกถึงหลัก 1,000 ล้านหรียญ

นับตั้งแต่ Warner Bros. ปล่อยตัวอย่างแรกของ ‘Barbie’ ที่เปรียบกับภาพยนตร์ไซไฟระดับขึ้นหิ้งอย่าง ‘2001: A Space Odyssey’ นั้น ก็ทำให้ทราบทันทีว่าเกอร์วิกมุ่งมั่นจะนำ ‘Barbie’ หลุดออกจากขนบเดิม ๆ ของภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากของเล่น และเมื่อภาพยนตร์เข้าฉายจริงก็ทำให้ผู้ชมทึ่งไปกับการเสียดสีประเด็นทางสังคมได้อย่างเจ็บแสบบและน่ารัก ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์สุดฮิตพึงมี และทำให้ ‘Barbie’ ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องจนถึงตอนนี้

สำหรับอันดับที่ 2 ตกเป็นของภาพยนตร์เข้าใหม่อย่าง ‘Meg 2: The Trench’ ที่ทำรายได้สุดสัปดาห์แรก ไป 30 ล้านเหรียญ ซึ่งน้อยกว่า ‘The Meg’ (2018) ที่ทำรายได้เปิดตัวไป 45.4 ล้านเหรียญ และทำรายได้รวมทั่วโลกได้อย่างน่าประทับใจ อยู่ที่ 142 ล้านเหรียญ โดยเป็นรายได้จากประเทศจีนสูงถึง 20.4 ล้านเหรียญ

ถือว่า ‘Meg 2: The Trench’ ยังดำเนินรอยตามภาคแรกในแง่ของรายได้จากตลาดต่างประเทศ โดย ‘The Meg’ นั้น ทำรายได้สุทธิในสหรัฐฯ ไป 145.4 ล้านเหรียญ แต่ทำรายได้รวมทั่วโลกไปมหาศาลถึง 530.2 ล้านเหรียญ โดยเป็นรายได้จากประเทศจีนสูงถึง 153 ล้านเหรียญ

อันดับที่ 3 ตกเป็นของ ‘Oppenheimer’ ที่เก็บรายได้ในสุดสัปดาห์ที่ 3 เพิ่มไปอีก 28.7 ล้านเหรียญ ส่งผลให้รายได้รวมในสหรัฐฯ อยู่ที่ 228.6 ล้านเหรียญ และรายได้รวมทั่วโลกก็น่าประทับใจมากถึง 552.9 ล้านเหรียญ

และอันดับที่ 4 ตกเป็นของภาพยนตร์แอนิเมชันฟอร์มดีที่เข้าใหม่อย่าง ‘Teenage Mutant Ninja Turtles: Mutant Mayhem’ ซึ่งทำรายได้สุดสัปดาห์แรกไป 28 ล้านเหรียญ และถ้ารวมรายจากากรฉาย 5 วัน (ตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม 2023) ก็ทำไปแล้วถึง 43 ล้านเหรียญ

แม้ว่ารายได้จะไม่สูงนัก แต่ก็อยู่ในเกณฑ์น่าพึงพอใจ เนื่องจากทำไปแล้วกว่าครึ่งจากทุนสร้าง 70 ล้านเหรียญ กอปรกับคะแนนวิจารณ์บน Rotten Tomatoes ที่อยู่ในระดับดีงามถึง 96% ก็เป็นอีกปัจจัยที่จะทำให้ภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องนี้ได้รับความสนใจในระยะยาวจากทั้งตลาดสหรัฐฯ และต่างประเทศ มากขึ้นได้