Collider ได้รายงานว่า ‘Meg 2: The Trench’ ภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ฟอร์มยักษ์ที่นำ Megalodon ฉลามยักษ์ดึกดำบรรพ์ กลับมาโลดแล่นบนจอภาพยนตร์อีกครั้งด้วยทุนสร้างที่สูงถึง 130 ล้านเหรียญ ทำรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรก (4-6 สิงหาคม 2023) ในสหรัฐฯ ไปเพียง 30 ล้านเหรียญ และ ณ ปัจจุบันนี้ก็ทำไปเพียง 39.3 ล้านเหรียญ จากการฉาย 7 วัน พร้อมทั้งได้รับคำวิจารณ์ในแง่ลบ (28% จาก Rotten Tomatoes)
แต่ ‘Meg 2: The Trench’ กลับสามารถทำรายได้ตลาดประเทศจีนได้อย่างน่าประทับใจถึง 53 ล้านเหรียญ ส่งผลให้รายได้รวมทั่วโลกนั้นอยู่ที่ 154.98 ล้านเหรียญ
กล่าวคือ ‘Meg 2: The Trench’ สามารถรุกตลาดประจีนได้สำเร็จ เช่นเดียวกับภาคแรกอย่าง ‘The Meg’ (2018) ที่ทำรายได้ทั่วโลกไป 530.5 ล้านเหรียญ เป็นรายได้ในสหรัฐฯ เพียง 145.5 ล้านเหรียญ แต่สามารถทำรายได้ในประเทศจีนไปถึง 153 ล้านเหรียญ ในขณะที่ภาพยนตร์ที่กวาดรายได้มากมายในสหรัฐฯ หลายเรื่องในช่วงหลังมานี้ ไม่สามารถทำได้
เดิมที ประเทศจีนเป็นตลาดภาพยนตร์ที่ทำรายได้ให้สตูดิโอฮอลลีวูดเป็นกอบเป็นกำ แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส Covid-19 และความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ และจีน ส่งผลทำให้ภาพยนตร์ฮอลลีวูดหลายเรื่องในช่วงหลังสิ้นสุดการแพร่ระบาดของ Covid-19 นี้ ไม่สามารถเข้าฉายในประเทศจีนหรือไม่ได้รับความสนใจจากผู้ชมในประเทศจีนเหมือนอย่างเคย
นั่นทำให้มีภาพยนตร์ฮอลลีวูดในช่วงหลังมานี้เพียงไม่กี่เรื่องที่ประสบความสำเร็จในตลาดประเทศจีนที่เป็นหนึ่งในตลาดภาพยนตร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ยกตัวอย่างเช่น ‘Avatar: The Way of Water’ (2022) ที่ทำรายได้ในประเทศจีนอย่างมหาศาลถึง 245 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นรายได้ในตลาดต่างประเทศที่สูงสุดของภาพยนตร์เรื่องนี้ ในขณะที่ ‘Ant-Man and the Wasp: Quantumania’ (2023) ทำไปเพียง 39.4 ล้านเหรียญ และ ‘The Little Mermaid’ ก็ไม่ประสบความสำเร็จในตลาดประเทศจีนแต่อย่างใด (ทำไปเพียง 3.7 ล้านเหรียญ)
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ ‘Meg 2: The Trench’ ทำรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในประเทศจีนได้สูงกว่า ‘Jurassic World Dominion’ (2022), ‘Transformers: Rise of the Beasts’ (2023) และ ‘Mission: Impossible – Dead Reckoning Part One’ (2023) ซึ่งเป็นผลมาจากตัวภาพยนตร์ได้รับการออกแบบให้ตอบโจทย์ด้านความบันเทิงสำหรับผู้ชมชาวจีนได้อย่างเต็มที่มากกว่า
นอกจากนี้ การที่ Warner Bros. ได้จับมือกับบริษัท CMC Pictures ของประเทศจีน ในการสร้าง ‘Meg 2: The Trench’ นั้น ก็ทำให้มีองค๋ประกอบที่เป็นอัตลักษณ์ของประเทศจีนปรากฏในภาพยนตร์ตลอดทั้งเรื่อง เช่น เกาะไห่หนาน และนักแสดงแอ็กชันชาวจีนอย่าง อู๋จิง (Wu Jing) เป็นต้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยดึงความสนใจจากผู้ชมในประเทศจีนได้เป็นอย่างดี
ที่มา : ScreenRant และ BoxOfficeMojo
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส