เซลีน ดิออน (Celine Dion) ศิลปินหญิงระดับโลกวัย 55 ปี ได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็น “โรคคนแข็ง” (stiff-person syndrome) มาตั้งมกราคม 2022 เป็นผลให้เธอต้องเลื่อนทัวร์คอนเสิร์ตมาแล้วหลายครั้ง

ขณะนี้ทีมแพทย์กำลังพยายามหายาที่เหมาะสมกับเธอ ข่าวอาการป่วยของดิออนสร้างความเสียใจให้กับเหล่าแฟน ๆ ที่รักและติดตามผลงานเธอมาตลอด และข่าวร้ายที่สุดก็คือ ดิออนอาจจะไม่สามารถกลับมาสานต่อทัวร์คอนเสิร์ตที่เลื่อนไปเป็นพฤษภาคมปีหน้าได้อีกแล้ว แต่อาจถึงกับต้องยุติอาชีพร้องเพลงที่เธอรักตลอดไป

ภาพล่าสุดของ เซลีน ดิออน

แน่นอนว่านี่คือเรื่องยากที่สุดที่เธอจะต้องตัดสินใจ เพราะจากที่ผ่านมา ดิออนมักจะพูดกับแฟน ๆ ผ่านวิดีโอว่าเธอรักในการร้องเพลงมากเพียงใด แต่จนถึงปัจจุบันนี้อาการป่วยก็ทำให้สภาพร่างกายเธอทรุดโทรมลงมาก แหล่งข่าวเปิดเผยว่าขณะนี้ดิออนได้รับการพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน แล้วเธอก็หกล้มง่าย และทุกข์ทรมานกับอาการกระตุกรุนแรงที่แทบจะทนไม่ไหว แหล่งข่าวระบุว่า
“นับถึงวันนี้ไม่มีภาพถ่ายของเซลีนที่ปรากฎตัวในที่สาธารณะมากว่า 600 วันแล้ว แต่เธอก็มีเหตุผลที่ว่า เธอมีปัญหาในการเดิน และทนกับเสียงดังไม่ได้เพราะมันจะทำให้เกิดอาการกระตุก แล้วก็จะทำให้เธอหกล้ม หลังเธอก็ค่อมอีกด้วย และอาการกล้ามเนื้อกระตุกบางครั้งก็รุนแรงแทบทนไม่ไหว”

เซลีน ดิออน กับ พ่อแม่และพี่น้อง

แหล่งข่าวยืนยันว่าอาการป่วยของเธอแย่ลงอย่างต่อเนื่อง เมื่อเร็ว ๆ นี้ ลินดา พี่สาวของเเธอก็เพิ่งย้ายมาอยู่กับเซลีนที่บ้าน ช่วยกันดูแลเธอร่วมกับลูกชายทั้งสามคนของเธอ เรเน-ชาร์ลส์, เอ็ดดี้ และเนลสัน คลอเด็ตต์พี่สาวอีกคนของเธอเผยกับสื่อว่า ขณะนี้ เซลีนกำลังรับฟังแพทย์เพื่อหาหนทางรักษาอาการของเธอ (เซลีนเป็นน้องคนสุดท้อง ในครอบครัวที่มีพี่น้องทั้งหมด 13 คน)


“ฉันโทรไปหาเซลีนแต่เธอไม่ว่าง ฉันก็เลยได้คุยกับลินดา น้องฉันอีกคนที่อยู่กับเซลีน เธอเล่าว่าเซลีนกำลังพยายามอย่างหนักในการรักษาโรคนี้ เธอกำลังรับฟังนักวิจัยชั้นนำที่เชียวชาญเกี่ยวกับโรคหายากนี้ บอกตามตรงฉันคิดว่าตอนนี้เธอควรได้รับการพักผ่อนให้มากที่สุด ซึ่งเธอก็มักทำเต็มที่ในเรื่องนี้เสมอ เธอพยายามที่จะคุมเกมนี้ให้ได้ เมื่อถึงจุดหนึ่ง หัวใจและร่างกายจะบอกอะไรคุณบางอย่าง และมันสำคัญมากที่ควรจะฟังมัน”

“เราเชื่อมั่นในตัวเธอ เธอเกิดมาพร้อมกับระเบียบวินัยที่ฝังลึกอยู่ในตัวเธอ เธอมีวินัยกับทุก ๆ เรื่องในชีวิต ถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถหายารักษาที่ได้ผล แต่เราก็มีความหวัง และนั่นคือสิ่งสำคัญสุด”

ที่มา : mirror