หากนึกถึงหนังแวมไพร์โรแมนติก แน่นอนว่าต้องนึกถึงแฟรนไชส์ ‘Twilight’ ที่ในยุคสมัยหนึ่งถือเป็นแฟรนไชส์ที่สร้างปรากฏการณ์ฮิตระเบิดไปทั่วโลกโดยเฉพาะในหมู่สาว ๆ โดยมีจุดเริ่มต้นความสำเร็จจาก ‘Twilight’ (2008) ปฐมบทของเรื่องราวความรักระหว่างคนกับแวมไพร์ ที่ทำให้คนทั้งโลกรู้จักเรื่องราวของ ‘The Twilight Saga’ ทั้ง 4 ภาค 5 ตอน ที่ทำรายได้รวมมากถึง 3,359 ล้านเหรียญ

ส่วนหนึ่งของความสำเร็จในภาคแรกต้องยกเครดิตให้กับ แคทเธอรีน ฮาร์ดวิก (Catherine Hardwicke) ที่เข้ามารับหน้าที่กำกับภาคนี้ จนกลายเป็นผลงานที่ประสบความสำเร็จสูงที่สุดในฐานะผู้กำกับของเธอเอง แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ ฮาร์ดวิกเคยเป็นผู้กำกับหนังที่เคยรับค่าตัวเพียงแค่ 3 เหรียญ หรือเพียงแค่ 133 บาท (ตามอัตราค่าแลกเปลี่ยนในปี 2002) มาแล้ว

หนังที่ว่านั้นก็คือหนังนอกกระแสทุนต่ำเรื่อง ‘Thirteen’ (2003) นั่นเอง ซึ่งเหตุผลที่ทำให้เธอได้ค่าตัวแบบรับพอเป็นธรรมเนียมก็เพราะว่า หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ใช้ทุนต่ำเตี้ยเพียง 2 ล้านเหรียญ และแถมหนังเรื่องนี้ยังเป็นหนังวัยรุ่นติดเรต R (จำกัดอายุผู้เข้าชม) อีกต่างหาก ก็เลยทำให้สตูดิโอหลายแห่งต่างบอกปัดบทหนังเรื่องนี้ เพราะมองแล้วว่ายังไงก็ขาดทุนเต็มประตู

Catherine Hardwicke Twilight

ฮาร์ดวิก วัย 67 ปีได้เล่าถึงเรื่องนี้ในวาระที่หนังเรื่องนี้ครบรอบ 20 ปีพอดิบพอดีว่า “ในตอนนั้น สตูดิโอกับนักการเงินทุกคนต่างก็บอกว่า ‘ไม่ เราทำหนังเรื่องนี้ไม่ได้ เราจะทำหนังที่จะได้เรต R และมีเด็กหญิงอายุ 13 ปีที่ไม่มีใครรู้จักมาแสดงนำได้ยังไง’ แน่นอนว่าทุกคนต่างก็พูดแต่คำว่าไม่”

บทหนังเรื่องนี้ ฮาร์ดวิกทั้งกำกับและร่วมเขียนบทกับ นิกกี รีด (Nikki Reed) ลูกสาวของเพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่ 5 ขวบ โดยรีดได้เอาประสบการณ์วัยรุ่นของเธอเองมาเขียนเป็นบทโดยใช้เวลาเพียง 6 วัน และยังร่วมแสดงนำด้วย และในเมื่อไม่มีสตูดิโอสนใจ ฮาร์ดวิกจึงต้องอาศัยทุนจากนักลงทุนอิสระแทน จนได้เงินมา 2 ล้านเหรียญ ตัวหนังใช้เวลาถ่ายทำเพียงแค่ 24 วันเท่านั้น “เพราะว่าเราไม่มีเงิน ก็เลยต้องทำทุกอย่างเลยค่ะ ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็ต้องเอาด้วยกล”

Catherine Hardwicke Thirteen

‘Thirteen’ (2003) เล่าเรื่องชีวิตดีแตกของ เทรซี ฟรีแลนด์ เด็กเรียนอายุ 13 ปีที่สนิทสนมกับแม่ของเธอมากเป็นพิเศษ จนกระทั่ง อีวี ซาโมรา สาวฮอตประจำโรงเรียนได้เข้ามาชักชวนให้เธอรู้จักเซ็กส์ ยาเสพติด และอาชญากรรม ตัวหนังได้เข้าฉายในเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ (Sundance Film Festival) ปี 2003 ทำรายได้ Box Office 10 ล้านเหรียญ ได้รับคะแนนวิจารณ์สูงถึง 81% จากเว็บไซต์ Rotten Tomatoes และทำให้ฮาร์ดวิกได้ก้าวมากำกับหนังบล็อกบัสเตอร์ครั้งแรกใน ‘Twilight’

ฮาร์ดวิกเล่าเพิ่มเติมว่า ความสำเร็จและความชื่นชมที่มีต่อตัวหนัง นั้นเกิดจากการแสดงของเหล่าดาราที่ใส่ใจกับบทจริง ๆ จนทำให้ทุกวันนี้เธอเองถึงกับเรียกขานหนังเรื่องนี้ว่าเป็นลูกรัก แม้เธอจะได้ค่าตัวในการกำกับด้วยเรตที่น้อยจนซื้อข้าวกินแทบไม่ได้ “ตลอดเวลาที่กำกับ ฉันได้ค่าตัวเพียงแค่ 3 เหรียญเท่านั้น แต่ในที่สุดเมื่อเราสร้างมันขึ้นมา ผู้คนต่างก็แบบว่า ‘โอ้ มันช่างทรงพลังเหลือเกิน'”

“ถ้าหากคุณได้ดูหนังในตอนนี้ คุณจะเห็นเลยว่าการแสดงของเหล่านักแสดงยังคงแข็งแกร่งมาก เพราะพวกเขาต่างใส่ใจกับมัน พวกเขารู้สึกถึงมัน พวกเขาต่างมีชีวิตอยู่ในเวลานั้น ฉันก็เลยชอบหนังเรื่องนี้ค่ะ”


ที่มา: Unilad, Yahoo Entertainment, The Daily Beast

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส