‘Captain Phillips’ (2013) หนังแอ็กชันทริลเลอร์ ผลงานการกำกับของ พอล กรีนกราสส์ (Paul Greengrass) ดัดแปลงจากข่าวช็อกโลกที่โด่งดังในปี 2009 เมื่อแก๊งโจรสลัดโซมาเลีย ได้บุกเข้าปล้นเรือขนส่งสินค้า Maersk Alabama ซึ่งถือเป็นเรืออเมริกันลำแรกในรอบ 200 ปีที่ถูกโจรสลัดบุกยึด โดยมีกัปตัน ริชาร์ด ฟิลลิปส์ (Richard Phillips) เป็นกัปตันประจำเรือ
ตัวหนังประสบความสำเร็จด้วยการมีชื่อเข้าชิง 4 สาขาบนเวทีลูกโลกทองคำ และ 6 สาขาบนเวทีออสการ์ ซึ่งทั้ง 2 เวที ปรากฏชื่อของ บาร์กฮัด อับดี (Barkhad Abdi) นักแสดงชาวอเมริกันเชื้อสายโซมาเลีย วัย 28 ปี อดีตโชเฟอร์ขับรถลีมูซีนจากเมืองมินนีแอโพลิส รัฐมินนิโซตา ที่ได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม จากการรับบทเป็น อับดุลวาลี มูเซ (Abduwali Muse) หัวหน้าโจรสลัดโซมาเลีย ที่ต้องปะทะกับ กัปตันฟิลลิปส์ ที่รับบทโดย ทอม แฮงส์ (Tom Hanks)
แม้ว่าเขาจะไปจนเกือบถึงจุดสูงสุดของอาชีพนักแสดง แต่อับดีได้เปิดเผยกับ The New Yorker ว่า เขาได้รับค่าตัวจากการแสดงหนังเรื่องนี้เพียง 65,000 เหรียญ (1,987,XXX บาท) ซึ่งเป็นรายได้ก่อนหักส่วนแบ่งรายได้และภาษี คล้ายกับกรณีของ โจนาห์ ฮิลล์ (Jonah Hill) ที่ขอรับค่าตัวเพียง 60,000 เหรียญ ในหนัง ‘The Wolf of Wall Street’ (2013) เพียงเท่านั้น
อับดีเกิดและเติบโตที่เมืองโมกาดิชู ประเทศโซมาเลีย ก่อนที่เขาและครอบครัวจะอพยพหนีภัยสงครามกลางเมือง มาอาศัยอยู่ในย่านชุมชนชาวโซมาเลียที่เมืองมินนีแอโพลิสเมื่อตอน 6 ขวบ เขาได้มีโอกาสเข้าเรียนจนถึงมัธยมปลาย หัดพูดภาษาอังกฤษ และได้ทำงานเป็นคนขับรถลีมูซีน จนกระทั่งปี 2009 เขาได้เห็นโฆษณาประกาศออดิชันเพื่อคัดเลือกนักแสดงที่จะรับบทเป็นโจรสลัดโซมาเลีย
เขาจึงได้ไปร่วมออดิชันและตอบคำถาม จนถึงคำถามที่ว่า ‘คุณสามารถว่ายน้ำได้หรือไม่’ เขาตอบว่าได้แม้ว่าจะว่ายน้ำไม่เป็น แต่ด้วยพื้นเพความเป็นชาวโซมาเลีย ทำให้เขาเข้าใจพื้นเพความเป็นโจรสลัดโซมาเลียอยู่แล้ว ทำให้เขาและเพื่อนร่วมอะพาร์ตเมนต์เดียวกันอีก 3 คน ได้ร่วมแสดงเป็นโจรสลัดในหนังฮอลลีวูดเรื่องนี้
อับดีได้เผชิญหน้ากับนักแสดงซูเปอร์สตาร์ 2 รางวัลออสการ์ครั้งแรกในฉากที่กลุ่มโจรสลัดบุกขึ้นมายังห้องบังคับเรือ และเผชิญหน้ากับกัปตันฟิลลิปส์ เพราะผู้กำกับต้องการรักษาระยะห่างระหว่างนักแสดงไม่ให้รู้สึกสนิทสนมมากเกินไป และคอยย้ำว่า ในกองถ่าย เขาคือโจรสลัด ไม่ใช่นักแสดง
ก่อนที่เขาจะกล่าวประโยคเด่นของเรื่องอย่าง “ตอนนี้ผมเป็นกัปตันแล้ว” เพื่อต้องการทำให้แฮงส์หรือกัปตันฟิลลิปส์รู้สึกกลัวและเสียเปรียบ ทั้งที่จริงแล้วเขาเองชื่นชมการแสดงของแฮงส์มาก และกังวลการแสดงของตัวเองมาก ซึ่งแฮงส์และกรีนกราสส์ก๋คอยช่วยเหลือและให้คำแนะนำเขาอย่างสม่ำเสมอ
หลังหนังฉาย ผลตอบรับของนักวิจารณ์เป็นไปในทางดีมาก โดยเฉพาะการแสดงของอับดี ที่หลายสื่อมองว่าสามารถถ่ายทอดบทบาทของผู้ร้ายออกมาได้อย่างดี จนทำให้เขาได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบชายจากเวทีออสการ์ ซึ่งในวันงาน เขาเล่าว่า เขายังต้องอาศัยใส่เสื้อผ้าที่ยืมมาด้วยซ้ำ แม้เขาจะชวดรางวัลนี้ให้กับ จาเรด เลโท (Jared Leto) จาก ‘Dallas Buyers Club’ (2013) แต่เขาเองก็สามารถคว้ารางวัลนี้ได้สำเร็จบนเวที BAFTA Awards
“ตอนนั้นผมไม่มีความมั่นใจเลยครับ ผมไม่กล้าคิดว่าจะได้ด้วยซ้ำ ผมว่ามันคงดูโลภมากไปนิด จะพูดว่าผมอยากชนะมันก็จะดูเกินไปหน่อย แค่ได้ไปอยู่ตรงนั้น และเป็นส่วนหนึ่งของงานก็ถือว่าน่าทึ่งมากแล้ว การได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในการแสดงหนังเรื่องแรกเป็นสิ่งที่ผมตกใจมาก ขนาดทุกวันนี้ผมเองยังไม่ค่อยชินเลย มันเหนือจริงมาก แต่ผมก็ดีใจมากเหมือนกัน”
หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จหลังฉายเป็นอย่างดี ทั้งรายได้ Box Office ทั่วโลกกว่า 220 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 55 ล้านเหรียญ และแม้ว่าอับดีจะมีชื่อในฐานะนักแสดงที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์จากผลงานการแสดงครั้งแรก และทำให้เขาเริ่มมีผลงานการแสดงทั้งหนัง ซีรีส์อีกมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ บทบาท ด็อก แบดเจอร์ (Doc Badger) คนขายของในตลาดมืดผู้ใช้ภาษาโซมาเลีย ในหนังไซไฟดิสโทเปีย ‘Blade Runner 2049’ (2017)
แม้เขาจะมีชื่อในฐานะนักแสดงที่มีผลงานและชื่อชั้นการันตี แต่เขาเองก็ยังรู้สีกเสมอว่าการมีชื่อเสียงไม่ใช่เรื่องที่ปกตินัก เพราะตอนโปรโมตหนัง แม้เขาจะลาออกจากการเป็นพนักงานขับรถลีมูซีน เพราะมองว่าอาจไม่เหมาะกับสถานะของเขาในตอนนี้ แต่เขาก็ยังเลือกไปช่วยน้องชายเปิดร้านโทรศัพท์มือถือในห้างสรรพสินค้าในชุมชนชาวโซมาเลีย อาศัยค่าเบี้ยเลี้ยงจากสตูดิโอ เดินทางด้วยรถประจำทางที่สตูดิโอเช่าไว้ให้ใช้ฟรี ก่อนที่เขาจะตัดสินใจย้ายไปอยู่ที่ฮอลลีวูด ลอสแองเจลิสในที่สุด
อับดีในวัย 38 ปี ณ ตอนนี้เผยว่า เขาไม่ได้เอาเงิน 65,000 เหรียญไปใช้ซื้อหรือลงทุนกับอะไรใหญ่ ๆ ที่น่าจะเหมาะกับการเป็นนักแสดงฮอลลีวูด นอกจากซื้อรถธรรมดา ๆ เพียง 1 คัน “ผมไม่ได้เป็นคนชอบซื้อของน่ะครับ ผมเป็นคนใช้ชีวิตง่าย ๆ ผมซื้อรถ แต่ไม่ได้หรูหราอะไร แค่รถยี่ห้อ Saab เฉย ๆ เพราะผมไม่ชอบรถคันใหญ่ ๆ “
“ผมไม่เคยนึกภาพของตัวเองที่เป็นคนมีชื่อเสียงเลยครับ ผมชอบแก่นแท้ของการสร้างหนังและการเล่าเรื่อง ส่วนชื่อเสียง ผมแค่อยากพยายามทำให้มันเป็นเรื่องง่ายเท่านั้นเอง”
ที่มา: The New Yorker, Insider, The Daily Beast
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส