แม้จะจบไปนานแล้ว แต่เชื่อว่าหลายคนคงยังประทับใจในเรื่องราวและความเข้มข้นในซีซันแรกของ ‘The Last of Us’ ทีวีซีรีส์ที่ดัดแปลงจากเกมของ PlayStation Productions ที่ฉายทาง HBO ที่สามารถถ่ายทอดแก่นของความเป็นเกม ผสมผสานกับเรื่องราวในทิศทางใหม่ ๆ ให้ผู้ชมสามารถติดตามได้อย่างไหลลื่นแม้ไม่ใช่คอเกม

และอีกความประทับใจที่สร้างกระแสในโลกออนไลน์ได้อย่างมากก็คือ เรื่องราวใน Ep. ที่ 3 ที่มีชื่อตอนว่า ‘Long, Long Time’ ที่เล่าเรื่องชีวิต ความสัมพันธ์ ความรัก และการสูญเสียของคู่รัก บิล (Bill) รับบทโดย นิก ออฟเฟอร์แมน (Nick Offerman) และ แฟรงก์ (Frank) รับบทโดย เมอร์เรย์ บาร์ตเล็ตต์ (Murray Bartlett)

ซึ่งแม้เรื่องราวของทั้งคู่จะเป็นการเพิ่มเติมรายละเอียดจากเนื้อหาในเกมที่มีอยู่เพียงผิวเผิน แต่เรื่องราวความรัก ความอ่อนโยนท่ามกลางโลกดิสโทเปียอันโหดร้าย และการสูญเสียที่เต็มไปด้วยมวลบรรยากาศที่มีทั้งความประทับใจและสะเทือนใจที่เล่นเอาผู้ชมต้องเจ็บตับเสียน้ำตาไปไม่น้อย

the last of us nick offerman - murray bartlett

และหนึ่งในผู้ที่ได้รับชมเรื่องราวความรักของบิลและแฟรงก์ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือพ่อมดฮอลลีวูด สตีเวน สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg) ที่ประทับใจในความรักของทั้งคู่จนถึงขั้นส่งจดหมายหาผู้กำกับของซีรีส์เลยทีเดียว

ล่าสุด ปีเตอร์ ฮอร์ (Peter Hoar) ผู้กำกับตอนดังกล่าวของซีรีส์ ได้เปิดเผยกลางวงสนทนาเหล่าผู้กำกับ (Director Roundtable) ของนิตยสาร The Hollywood Reporter โดยเล่าว่า นอกจากสปีลเบิร์กจะส่งจดหมายชื่นชมไปถึง มาร์ก มายลอด (Mark Mylod) ผู้กำกับซีรีส์ ‘Succession’ (2018–2023) แล้ว พ่อมดฮอลลีวูดยังส่งจดหมายชื่นชมไปถึง 2 ครีเอเตอร์อย่าง เครก มาซิน (Craig Mazin) และ นีล ดรักแมน (Neil Druckmann) ที่ฝากคำชื่นชมซีรีส์ตอนดังกล่าวมาถึงเขาด้วย

“คือ ผมไม่ได้รับจดหมายนี้โดยตรงนะครับ แต่ว่า (จดหมายของสปีลเบิร์ก) มาถึง เครก มาซิน คนเขียนบทตอนที่ผมกำกับใน ‘The Last of Us’ ครับ เขาเล่าให้ผมฟัง แล้วตอนนั้น ทั้ง นิก ออฟเฟอร์แมน, เมอร์เรย์ บาร์ตเล็ตต์ และ เอเบน โบลเตอร์ (Eben Bolter – ผู้กำกับภาพ) ชายวัยกลางคนทั้งกลุ่มเริ่มส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวกัน เพราะไอดอลของพวกเขารู้จักว่าพวกเขาเป็นใคร ผมคิดว่าเขาคงรู้ว่าคนอื่น ๆ เป็นใคร แต่เขาคงไม่รู้ว่าผมเป็นใคร และผมว่าตอนนี้เขาคงลืมไปแล้วแหละ”

the last of us nick offerman - murray bartlett

เรื่องราวความรักของบิลและแฟรงก์ถูกพูดถึงในวิดีโอเกมแบบคร่าว ๆ เป็นการพูดถึงตัวละคร โจล (เพโดร พาสคาล – Pedro Pascal) และ เอลลี (เบลลา แรมซีย์ – Bella Ramsey) ที่เข้าไปขอความช่วยเหลือบิล ชายวัยกลางคนนิสัยขี้โมโหหน้าบูดบึ้ง

บิลมีปมอดีตเมื่อคนรักอย่างแฟรงก์ ที่เคยใช้ชีวิตกับเขามานานกว่า 20 ปี ได้หนีออกจากบ้านและเมืองที่เคยอยู่ด้วยกัน ก่อนที่แฟรงก์จะตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเองหลังจากที่ถูกติดเชื้อแล้ว ส่วนในซีรีส์ Ep. 3 จะตัดตอนจากเส้นเรื่องของตัวละครหลักอย่างโจลและเอลลี และเล่าเรื่องชีวิตรักของทั้งคู่ตั้งแต่จุดเริ่มต้น จนถึงบทสรุปสุดท้าย

แม้การขยายเรื่องราวจากในเกมสู่ซีรีส์ จะทำให้เกิดความเห็นของผู้ชมที่เสียงแตกออกเป็น 2 ฝ่าย ที่บ้างก็ชื่นชอบในฐานะที่สามารถขยายเรื่องราวให้มีความแตกต่างจากเกมได้อย่างมีมิติน่าสนใจ ในขณะเดียวกันก็มีผู้ชมอีกฝั่งที่มองว่าเป็นการดัดแปลงที่ไม่เคารพต้นฉบับ เพราะบิลกับแฟรงก์ในเกมไม่ได้มีชีวิตรักโรแมนติกอะไรขนาดนั้น บางคนมองว่า จากจดหมายของแฟรงก์ อาจไม่ได้หมายความว่าทั้งคู่จะเป็นคู่รักกันเสมอไป

บางคนก็มองว่านี่อาจเป็นเพียงการยัดเยียดความหลากหลายทางเพศเข้ามาในซีรีส์ แต่ความเห็นส่วนใหญ่ของผู้ชมก็ยังชื่นชมว่าเรื่องราวในตอนนี้ คือตอนที่ดีที่สุดตอนหนึ่งของซีซัน จากการเล่าเรื่องได้อย่างเข้าอกเข้าใจในมุมมองของความรักและความสัมพันธ์ที่อยู่เหนือเรื่องเพศ และไม่ได้บิดเบือนเนื้อหาจนเสียเนื้อเรื่องและอรรถรสจากต้นฉบับเกม จนกลายเป็นตอนที่มีการพูดถึงและชื่นชมอย่างมากจากทั้งผู้ชมและนักวิจารณ์


ที่มา: The Hollywood Reporter, Collider

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส