ณ ตอนนี้ หนังไลฟ์แอ็กชัน ‘The Little Mermaid’ เงือกน้อยผจญภัยฉบับของ ฮัลลี เบลีย์ (Halle Bailey) ก็ลงฉายบนสตรีมมิง Disney+ เป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่ทำรายได้แบบพอคืนทุนไปที่ 569.5 ล้านเหรียญจากการฉายในโรง พร้อมกับเสียงวิจารณ์ที่ค่อนไปทางลบเป็นส่วนมาก

แต่น้อยคนที่จะรู้ว่า ก่อนการมาถึงของ ‘The Little Mermaid’ ฉบับไลฟ์แอ็กชันของ Disney ที่เป็นการรีเมกจากแอนิเมชันของตัวเองที่ฉายในปี 1989 เราเคยเกือบจะได้ดูนางเงือกน้อยในเวอร์ชันของผู้กำกับสาว โซเฟีย คอปโปลา (Sofia Coppola) ที่มีผลงานหนังนอกกระแสลือลั่น ทั้ง ‘The Virgin Suicides’ (1999), ‘Lost in Translation’ (2003)

และคนที่ถูกวางตัวให้มารับบทเป็นเงือกน้อย ก็คือ มายา ฮอว์ก (Maya Hawke) นักแสดง ศิลปิน และนักแต่งเพลงสาวหน้าเก๋ ทายาทของ 2 นักแสดงดัง อีธาน ฮอว์ก (Ethan Hawke) และ อูมา เธอร์แมน (Uma Thurman) ที่มีทั้งผลงานอัลบั้มเพลง และผลงานแสดงทั้งในหนัง ‘Once Upon a Time in Hollywood’ (2019) และโด่งดังจากการรับบทในซีรีส์ ‘Stranger Things’ ของ Netflix นั่นเอง

Maya Hawke Stranger Things

โปรเจกต์นางเงือกน้อยที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริงนี้ ย้อนเริ่มต้นไปเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2014 สตูดิโอ Universal Pictures ได้เตรียมการที่จะสร้างหนังไลฟ์แอ็กชัน ‘The Little Mermaid’ ก่อนที่ Disney จะพัฒนาเวอร์ชันของตัวเองด้วยซ้ำ ก่อนจะทาบทามคอปโปลา ผู้กำกับขวัญใจชาวหนังอินดี้มาเซ็นสัญญากำกับ ‘The Little Mermaid’ เวอร์ชันค่ายลูกโลกที่ไม่เหมือนกับเวอร์ชัน Disney อย่างแน่นอน

เพราะเป็นการดัดแปลงจากเนื้อหานิทานต้นฉบับที่แต่งโดยนักเขียนชาวเดนมาร์ก ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน (Hans Christian Andersen) ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1837 ที่ตรงกันข้ามจากเวอร์ชัน Disney แบบลิบลับ เพราะเต็มไปด้วยเรื่องราวโศกนาฏกรรมแสนโหดร้าย มีการตัดลิ้น กรีดหางเพื่อเปลี่ยนตัวเองเป็นมนุษย์ แถมยังมีฉากที่เงือกน้อยต้องสังหารเจ้าชาย ตอนจบก็ดันไม่สมหวังอีกต่างหาก

Sofia Coppola

มีรายงานว่า บทร่างแรกนั้นถูกเขียนขึ้นโดย แคโรไลน์ ทอมป์สัน (Caroline Thompson) ผู้เขียนบทหนังแฟนตาซีจาก ‘Edward Scissorhands’ (1990) และ ‘The Addams Family’ (1991) ซึ่งแน่นอนว่าบทนั้นต้องดาร์กกว่าเวอร์ชัน Disney ซึ่งคอปโปลาได้เล็งให้ มายา ฮอว์ก มารับบทเงือกน้อยเวอร์ชันดาร์กนี้เป็นตัวเลือกแรก นอกจากนี้ คอปโปลาเองตั้งใจว่าจะถ่ายทำด้วยการถ่ายทำใต้น้ำจริง ๆ และเธอเองได้เริ่มทดสอบการถ่ายทำไปบ้างแล้ว

แต่ด้วยไอเดียพล็อตสุดดาร์ก และรวมถึงชื่อชั้นของฮอว์ก ที่ยังเป็นนักแสดงสาวน้อยหน้าใหม่ในเวลานั้น ทำให้ทั้งสตูดิโอ Universal Pictures และบริษัทโปรดักชัน Working Title ไม่โอเคกับทั้งคอนเซ็ปต์หนัง และนักแสดงนำ สตูดิโอต้องการนักแสดงเบอร์ใหญ่กว่านี้มารับบทเงือกน้อยแทนที่ฮอว์ก ที่ยังไม่ได้มีผลงานโด่งดัง จนสุดท้าย ด้วยความขัดแย้งด้านความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่ลงตัว ทำให้ในปี 2015 คอปโปลาจึงได้ประกาศลาออกจากการเป็นผู้กำกับไปในที่สุด

The Little Mermaid disney

ภายหลังการถอนตัวของคอปโปลา โปรเจกต์หนังนางเงือกน้อยก็ยังคงเดินหน้าต่อ มีการแก้ไขบทใหม่ โดยได้ ริชาร์ต เคอร์ติส (Richard Curtis) ผู้เขียนบทซิตคอมตลก ‘Mr. Bean’ และหนังโรแมนติก ‘Notting Hil’ (1999) มารับช่วงต่อ ส่วนผู้กำกับ มีรายงานว่าทางค่ายได้เซ็นสัญญากับผู้กำกับทั้ง รีเบ็กกา โธมัส (Rebecca Thomas) และ โจ ไรท์ (Joe Wright) มานั่งแท่นกำกับ และวางตัวให้ โคลอี เกรซ มอเรตซ์ (Chloë Grace Moretz) นักแสดงสาวที่เริ่มมีผลงานบ้างแล้ว มารับบทเป็นนางเงือกน้อยแทน

แต่ด้วยเหตุผลที่ไม่แน่ชัด สุดท้าย นางเงือกน้อยเวอร์ชัน Universal Pictures ก็ไม่มีทางได้เกิดขึ้นจริงอีกเลย เพราะในทางหนึ่งก็ต้องยอมรับว่า Disney เองประสบความสำเร็จกับแอนิเมชัน ‘The Little Mermaid’ เวอร์ชันแอเรียลอย่างมาก จนกระทั่ง Disney เอง ได้เริ่มต้นพัฒนาหนังรีเมก ‘The Little Mermaid’ ฉบับไลฟ์แอ็กชันในปี 2016 เริ่มถ่ายทำในปี 2021 และกลายเป็นกระแสไวรัลมาตั้งแต่ช่วงประกาศรายชื่อนักแสดงในปี 2019 จนกระทั่งเข้าฉายโรง (และโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง) ในปีนี้


ที่มา: Collider, Screen Rant, Teen Vogue

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส