‘The Nun II’ ของ Warner Bros. ทำรายได้สุดสัปดาห์ที่ 2 ไปอย่างสูสีกับภาพยนตร์เข้าใหม่อย่าง ‘A Haunting in Venice’ โดยท้ายที่สุด ‘The Nun II’ ก็ยังคงรักษาตำแหน่งแชมป์บ็อกซ์ออฟฟิศได้เป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกันด้วยรายได้ 14.7 ล้านเหรียญ ในขณะที่ ‘A Haunting in Venice’ ทำรายได้เปิดตัวไปที่ 14.5 ล้านเหรียญ
‘A Haunting in Venice’ เป็นผลงานลำดับที่ 3 ในแฟรนไชส์ภาพยนตร์นักสืบที่ดัดแปลงจากบทประพันธ์คลาสสิกของ อกาธา คริสตี (Agatha Christie) โดยรายเปิดตัวในสหรัฐฯ นั้น ดีกว่าภาคก่อนอย่าง ‘Death on the Nile’ (2022) ที่เปิดตัวในช่วง Covid-19 ระบาด ไปด้วยรายได้ 12.8 ล้านเหรียญ ส่วน ‘Murder on the Orient Express’ (2017) ซึ่งเป็นภาคแรกของแฟรนไชส์นั้นทำรายได้เปิดตัวไป 28.6 ล้านเหรียญ
อย่างไรก็ดี ‘A Haunting in Venice’ สามารถทำรายได้เปิดตัวในตลาดต่างประเทศไปได้อย่างน่าประทับใจถึง 22.7 ล้านเหรียญ ส่งผลให้รายได้เปิดตัวทั่วโลกสุดสัปดาห์แรกนั้นอยู่ที่ 37.2 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 60 ล้านเหรียญ อีกทั้งยังได้คะแนนวิจารณ์บนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ในระดับสดใหม่อยู่ที่ 79%
เดวิด เอ กรอสส์ (David A. Gross) จากบริษัทให้คำปรึกษาด้านภาพยนตร์ที่มีชื่อว่า Franchise Entertainment Research ได้คาดการณ์ว่า ‘A Haunting in Venice’ จะสามารถทำกำไรได้ในท้ายที่สุดจากรายได้ในต่างประเทศ
สำหรับแชมป์ 2 สัปดาห์ซ้อนอย่าง ‘The Nun II’ นั้น ทำรายได้ในตลาดต่างประเทศไปได้อย่างน่าประทับใจเช่นกัน อยู่ที่ 102.3 ล้านเหรียญ รวมกับรายได้รวมในสหรัฐฯ ที่ 56.5 ล้านเหรียญ ก็ทำให้ภาพยนตร์สยองขวัญล่าสุดในแฟรนไชส์ ‘Conjuring Universe’ นี้ ทำรายได้รวมทั่วโลกไปถึง 158.8 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างเพียง 30 ล้านเหรียญ
อันดับที่ 3 ตกเป็นของ ‘The Equalizer 3’ ที่ทำรายได้เพิ่มไปอีก 7.23 ล้านเหรียญ รวมทั่วดลกทำไป 132.4 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 70 ล้านเหรียญ ส่วนอันดับที่ 4 และ 5 นั้น ตกเป็นของ ‘My Big Fat Greek Wedding 3’ และ ‘Barbie’ ที่เก็บเพิ่มไปอีก 4.7 ล้านเหรียญ และ 3.5 ล้านเหรียญ ตามลำดับ
‘Barbie’ นั้น ทำรายได้รวมในสหรัฐฯ ไปแล้ว 625 ล้านเหรียญ แซงหน้า ‘The Avengers’ (2012) ที่ทำไว้ 623 ล้านเหรียญ ขึ้นเป็นภาพยนตร์ทำรายได้ในสหรัฐฯ สูงสุดตลอดกาลลำดับที่ 11 รองจาก ‘Jurassic World’ (2015) ที่ทำไว้ 653.4 ล้านเหรียญ
ที่มา : Variety, BoxOfficeMojo
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส