นีล เดอแกรส ไทสัน (Neil deGrasse Tyson) นักฟิสิกส์ชื่อดังผู้เขียนหนังสือและทำรายการโทรทัศน์มากมาย ได้ให้สัมภาษณ์ในรายงาน The Jess Cagle Show โดยอธิบายว่า ‘Moonfall’ (2022) ของผู้กำกับ โรแลนด์ เอ็มเมอริช (Roland Emmerich) เป็นภาพยนตร์ที่แหกกฏฟิสิกส์ต่อนาทีมากกว่าสุดเหนือภาพยนตร์ทุกเรื่อง รวมถึง ‘Armageddon’ (1998) ของ ไมเคิล เบย์ (Michael Bay) ที่เขาเคยยกให้เป็นภาพยนตร์ที่แหกกฏฟิสิกส์มากที่สุดก่อนหน้านี้
ไทสันได้หยิบยกประเด็นที่น่าสนใจจาก ‘Moonfall’ มาเป็นตัวอย่าง นั่นคือ ดวงจันทร์มีโครงสร้างภายในกลวงและกำลังเคลื่อนที่เข้าใกล้โลก และนักวิทยาศาสตร์ใช้วิธีการที่ซับซ้อนเกินไปในการแก้ปัญหานี้ ทั้งที่ความจริงแล้วมีวิธีที่ง่ายกว่ามาก
เขาได้อธิบายว่า ในอวกาศนั้นไม่มีแรงเสียดทาน ดังนั้นวัตถุที่อยู่ในลักษณะของดาวเคราะห์น้อยนั้นสามารถถูกทำให้เปลี่ยนทิศทางได้ด้วยการสะกิดเบา ๆ และนักวิทยาศาสตร์ก็สามารถชะลอหรือเฝ้าดูมันเคลื่อนที่ผ่านโลกไปอย่างง่ายดาย
“โอเค ถ้าว่ากันด้วยกฏต่อนาที (Law of Per Minute) ที่ใช้ในการเปรียบเทียบกับภาพยนตร์เรื่องอื่น ๆ แล้วนั้น ผมคิดว่าเป็น ‘Moonfall’ มนเป็นภาพยนตร์ที่โกลาหลและบ้ามากที่สร้างออกมาอย่างนั้น แฮลลี เบร์รี ต้องหยุดดวงจันทร์กำลังเคลื่อนที่เข้าใกล้โลก จากนั้นพวกเขาก็รับรู้ว่าภายในดวงจันทร์นั้นกลวง และมีสิ่งมีชีวิตอยู่ภายใน รวมถึภารกิจที่แท้จริงของยานอะพอลโลที่เยือนดวงจันทร์”
“ผมเคยมอบตำแหน่งนี้ให้กับ ‘Armageddon’ แต่ตอนนี้ผมเปลี่ยนใจแล้ว ในอวกาศนั้นไม่มีแรงเสียดทาน ดั้งนั้นถ้าหากคุณส่งแรงสะกิดให้แก่ดวงจันทร์อย่างต่อเนื่อง เช่น ดันมันไปทางขวา 1 เซนติเมตรต่อวินาที โดยในช่วงที่ยังมีเวลามากพอ มันก็จะเปลี่ยนทิศทางได้โดยง่าย ดังนั้นคุณจะสามารถเบี่ยงเบนทิศทางหรือชะลอดาวเคราะห์น้อย (หมายถึงดวงจันทร์) มิให้พุ่งชนโลกได้”
‘Moonfall’ เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ประสบความล้มเหลวมากที่สุดเมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา โดยทำรายได้ทั่วโลกไปเพียง 67 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างที่ 138 – 146 ล้านเหรียญ และได้ถูกส่งไปฉายในรูปแบบ VOD (Video on Demand) บนแพลตฟอร์มสตรีมมิง หลังจากฉายในโรงภาพยนตร์ได้ไม่ถึง 2 สัปดาห์
ตัวภาพยนตร์นั้นได้ถูกนักวิจารณ์และผู้ชมในต่างประเทศวิพากษ์ว่าเต็มไปด้วยพล็อตที่โง่อย่างเหลือเชื่อ แต่ส่วนใหญ่จะค่อนไปทางแง่งบมากกว่า
ที่มา : ScreenRant
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส