The Hollywood Reporter รายงานว่า Marvel Studios กำลังจะละทิ้งรูปแบบการผลิตทีวีซีรีส์แบบที่เคยทำมาโดยตลอดไปอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะการให้ผู้บริหารภาพยนตร์มาควบดูแลทีวีซีรีส์โดยไม่มีโชว์รันเนอร์ (Showrunner) เหมือนทีวีซีรีส์อื่น ๆ และยังใช้วิธีการแบบหนัง คือเน้นการใช้ขั้นตอน Post-Production และการถ่ายซ่อมเพื่อแก้ไขสิ่งที่ใช้ไม่ได้ รวมทั้งการลุยถ่ายซีรีส์ทั้งซีซันด้วยงบ 150 ล้านเหรียญโดยไม่มีการถ่ายตอนนำร่อง (Pilot) เหมือนกับการถ่ายซีรีส์แบบดั้งเดิม
แบรด วินเดอร์บาม (Brad Winderbaum) หัวหน้าฝ่ายสตรีมมิง โทรทัศน์ และแอนิเมชันของ Marvel Studios กล่าวว่า “เรากำลังพยายามที่จะผสมผสานวัฒนธรรมของ Marvel เข้ากับวัฒนธรรมทางโทรทัศน์แบบดั้งเดิม มันอยู่ที่ว่าเราจะเล่าเรื่องราวทางโทรทัศน์ที่ให้เกียรติในวัตถุดิบอันยอดเยี่ยมได้อย่างไร”
วิธีการทำซีรีส์ดั้งเดิมที่ Marvel เคยเป็นมาตลอดก่อให้เกิดความแตกต่างทางความคิดสร้างสรรค์ของคนที่ทำงานเบื้องหลังอยู่ไม่น้อย แหล่งข่าววงในคนหนึ่งกล่าวถึงกระบวนการดั้งเดิมนี้ว่า ‘Marvel คือสื่อกลางที่ขับเคลื่อนโดย Marvel’ (Marvel is a Marvel-driven medium) ในขณะที่ทีวีซีรีส์นั้นมีแนวคิด ‘ทีวีเป็นสื่อที่ขับเคลื่อนโดยนักเขียนบท’ (TV is a writer-driven medium)
ยกตัวอย่างเช่นในซีรีส์ ‘Moon Knight’ (2022) เจเรเมี สเลเตอร์ (Jeremy Slater) ผู้สร้างและผู้เขียนบทได้ลาออกไป ก่อนที่ โมฮัมเหม็ด ดิอับ (Mohamed Diab) จะรับหน้าที่แทน เช่นเดียวกับ เจสสิกา เกา (Jessica Gao) หัวหน้าทีมเขียนบทซีรีส์ ‘She-Hulk: Attorney at Law’ (2022) ที่ถูกกีดกัน หลังจากที่ได้ผู้กำกับ แคต โคโร (Kat Coiro) มาร่วมงาน ก่อนที่เกาจะได้กลับมาดูแลขั้นตอนหลังการถ่ายทำ ซึ่งเป็นหน้าที่ตามปกติของ Showrunner แต่ไม่ใช่หน้าที่ปกติสำหรับหัวหน้าทีมเขียนบทของ Marvel เพราะการให้คนอื่นแก้ไขซีรีส์หลังถ่ายทำ อาจทำให้ผู้กำกับรู้สึกว่าตัวเองก็โดนแทรกแซงด้วยเช่นกัน
ปัญหานี้ดูเหมือนจะรุนแรงมากที่สุดในซีรีส์ ‘Secret Invasion’ ที่กลายเป็นซีรีส์ที่มีผลตอบรับแย่ที่สุด เนื่องจาก ไคล์ แบรดสตรีต (Kyle Bradstreet) ผู้เขียนบทและ Executive Producer ถูกไล่ออกหลังจากที่ Marvel ต้องการเปลี่ยนแนวทางของซีรีส์ ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยผู้เขียนบท ไบรอัน ทักเกอร์ (Brian Tucker) และได้ โธมัส เบซูซา (Thomas Bezucha) และ อาลี เซลิม (Ali Selim) รับหน้าที่เป็นผู้กำกับ
ทุกอย่างเป็นไปตามปกติจนกระทั่งฤดูร้อนปี 2022 เมื่อการแย่งชิงอำนาจของทีมงานเบื้องหลัง ในระหว่างขั้นตอนการเตรียมการถ่ายทำในลอนดอนเริ่มปะทุขึ้น Marvel จึงได้ส่ง โจนาธาน ชวาร์ตซ์ (Jonathan Schwartz) ผู้บริหารอาวุโสเข้ามากำกับดูแล แต่กว่าจะเข้าที่เข้าทางก็ทำให้ตารางงานล่าช้าจนเกือบต้องสูญเสียนักแสดงบางส่วนไปเนื่องจากตารางงาน และเบซูซา ที่มีคิวกำกับ 3 ตอน ก็ต้องถอนตัวออกไปเนื่องจากตารางงานไม่ตรงกัน
ในขณะที่ซีรีส์ ‘Daredevil: Born Again’ ที่หยุดถ่ายทำชั่วคราวมาตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นผลพวงจากการหยุดงานประท้วงของนักเขียนบท หลังจากที่ถ่ายทำไปน้อยกว่าครึ่งหนึ่ง จากทั้งซีรีส์ 18 ตอน ผู้บริหาร รวมทั้ง เควิน ไฟกี (Kevin Feige) ประธานของ Marvel Studios ได้ประเมินแล้วว่าไม่น่าประสบความสำเร็จ จึงได้ไล่ทีมเขียนบทออก และกำลังตามหาผู้เขียนบทคนใหม่มาทำงานต่อในงานส่วนที่เหลือ
จากปัญหาความล้มเหลวของซีรีส์หลาย ๆ เรื่องที่ผ่านมา ทำให้ Marvel กำลังเปลี่ยนวิธีการทำซีรีส์ให้เป็นไปแบบดั้งเดิมมากขึ้น ด้วยการจ้างโชว์รันเนอร์ให้ผลิตตอนนำร่อง และคัมภีร์ของซีรีส์ทั้งเรื่องออกมา ซึ่งเป็นผลจากการที่เกา ได้เขียนบท ‘She-Hulk’ และทำให้พวกเขาเห็นว่า หากมีคนที่คิดแก่นของเรื่องเอาไว้ตั้งแต่ต้นจนจบ จะเป็นประโยชน์มากกว่าการสร้างซีรีส์ด้วยแนวคิดแบบหนังแบบที่เคยทำมา
นอกจากนี้ จะเปลี่ยนให้มีการวางแผนให้ซีรีส์แต่ละเรื่องมีหลายซีซัน มากกว่าจบภายในซีซันเดียว ซึ่งจะทำให้ตัวละครต้องใช้เวลาพัฒนาความสัมพันธ์กับผู้ชมมากขึ้น มากกว่าเพียงแค่ใส่ตัวละครเข้ามาอยู่ในเรื่อง เพื่อปูทางรอไปสู่หนังครอสโอเวอร์ฟอร์มยักษ์ในอนาคตเพียงเท่านั้น
การปรับเปลี่ยนนี้จะนำไปสู่การที่ Marvel จำเป็นจะต้องหาผู้บริหารคนใหม่ที่เข้ามาดูงานในส่วนของสื่อโทรทัศน์โดยเฉพาะ หลังจากที่ผ่านมาที่ให้ผู้บริหารต้องคอยดูแลควบทั้งงานหนังและงานโทรทัศน์และสตรีมมิง วินเดอร์บาม กล่าวถึงตำแหน่งใหม่นี้ว่า “เราต้องการผู้บริหารที่ทุ่มเทให้กับสื่อที่จะเน้นไปที่โทรทัศน์ สตรีมมิง เพราะเป็นสื่อ 2 รูปแบบที่มีความแตกต่างกัน”
ที่มา: The Hollywood Reporter
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส