ในช่วงปี 2010s นั้น ดิสนีย์มีความพยายามผลักดันโปรเจกต์ภาคแยกในแฟรนไชส์ Star Wars มากมาย ก่อนที่ความล้มเหลวของ ‘Solo : A Star Wars Story’จะทำให้ดิสนีย์หันมาทบทวนแผนงานใหม่อีกครั้ง และทำให้ดิสนีย์ตัดสินใจยกเลิกโปรเจกต์ภาพยนตร์ Star Wars หมดสิ้น และหนึ่งในนั้นก็มีหนึ่งโปรเจกต์ที่เป็นของ กีเยร์โม เดล โทโร (Guillermo del Toro)
หลังจากประสบความสำเร็จกับ ‘Pacific Rim’ ปี 2013 ที่แสดงถึงวิสัยทัศน์ของ เดล โทโร ว่าเขาสามารถสร้างหนังไซไฟทุนสูงได้อย่างน่าพอใจ ทำให้ดิสนีย์ทาบทาม เดล โทโร ให้ไปร่วมพัฒนาโปรเจกต์ภาพยนตร์ต่าง ๆ ในแฟรนไชส์ Star wars ซึ่ง เดล โทโร ได้เผยเรื่องราวส่วนนี้ในระหว่างให้สัมภาษณ์กับ Collider ว่าโปรเจกต์ที่เขาสนใจจะทำก็คือ ‘Jabba The Hutt’ ซึ่งเขาตั้งใจพัฒนาร่วมกับ เดวิด เอส. โกเยอร์ (David S.Goyer) มือเขียนบทชื่อดัง เขาตั้งใจจะเจาะลึกเรื่องราวของเบื้องหลังที่ซับซ้อนของแจ๊บบ้าตั้งแต่ในยุคที่เรืองอำนาจจนถึงวันที่บัลลังก์ล่มสลาย และเขาไปถึงจุดที่เขียนบทกันเสร็จแล้วด้วย เดล โทโร เล่าว่าเขาพอใจกับบทที่เขียนออกมามาก
“เราได้เล่าทั้งช่วงที่รุ่งเรืองและช่วงที่ตกต่ำของ Jabba The Hutt ฉะนั้น ผมจึงพอใจกับบทนี้มาก”
แต่แล้วโปรเจกต์นี้ก็พบจุดจบในวังวงของขั้นตอนการพัฒนาภาพยนตร์ เดล โทโร เผยว่า
“ตอนนั้นเรากำลังทำอะไรกันมากมาย แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ใช่ของ ๆ ผม มันไม่ใช่เงินผมที่จะลงทุน แล้วในที่สุด มันก็กลายเป็น 1 ใน 30 เรื่องที่อันตรธานไป”
พอความมุมานะตั้งใจและเวลาทีลงไปกับต้องสูญเปล่า เหตุการณ์เช่นนี้มันก่อให้เกิดหลากหลายอารมณ์ปนเปกัน ทั้งไม่พอใจ ทั้งต้องทำใจยอมรับ เดล โทโร บอกว่าสำหรับเขาแล้วมีทั้งสองอารมณ์นั้น แต่ในความล้มเหลวนี้เขาก็ยังพบข้อดีว่า เขามีทีมสนับสนุนที่ดี และเขาก็ให้กำลังใจทีมของเขาว่า
“ครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นการฝึกที่ดีนะพวกเรา เป็นการฝึกมือที่ดีแล้ว เราได้ออกแบบโลกที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมา เราได้เรียนรู้กัน”
“เราไม่สามารถเนรคุณต่อชีวิตของเราเองได้ ไม่ว่าชีวิตจะส่งบททดสอบอะไรมาให้เรา เราก็จะต้องได้เรียนรู้อะไรบางสิ่งจากบททดสอบนั้น”
นอกเหนือจาก เดล โทโร แล้วก็ยังมีผู้กำกับชื่อดังอีกหลายคนที่เคยได้มีส่วนร่วมในการขยายขอบเขตของจักรวาล Star Wars อย่างเช่น ไทกา ไวทีทิ (Taika Waititi) ผู้กำกับที่สร้างชื่อมาจาก ‘Thor: Ragnarok’ (2017) โปรเจกต์ของเขาก็ถูกยกเลิกตั้งแต่ขั้นตอนเขียนบท และรายล่าสุดที่เข้าไปมีส่วนร่วมในจักรวาล Star Wars ก็คือ ชอว์น เลวี (Shawn Levy) ผู้กำกับชื่อดังจาก ‘The Adam Project’ กำลังรับหน้าที่ในการเล่าเรื่องราวก้าวต่อไปของตำนาน Star Wars ซึ่งไวทีทิพอรู้ข่าวว่าเลวีได้เข้าไปรับหน้าที่ต่อจากเขา ก็ฝากความหวังดีไปให้ว่า “ขอให้ต่างจากผมทีเถอะ ก็หวังว่าเขาจะสามารถเขียนบทเรื่องนี้ให้จบได้นะ”
วันนี้ เดล โทโร ก็เปลี่ยนเป้าหมายจากเรื่องราวในกาแล็กซี่อันไกลโพ้นมาสู่เรื่องราวของสิ่งมีชีวิตที่กลายเป็นตำนาน ที่ เดล โทโร เลือกหยิบนิยาย ‘Frankenstein’ ของ แมรี เชลลี มาเล่าใหม่ผ่านมุมมองของเขาเอง มีนักแสดงแถวหน้าตบเท้าเข้าร่วมโปรเจกต์มากมายทั้ง คริสทอฟ วอลต์ซ (Christoph Waltz), แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ (Andrew Garfield), มิอา กอธ (Mia Goth) และ ออสการ์ ไอแซค (Oscar Isaac) ซึ่งแฟนหนังทีได้เห็นชื่อทีมนักแสดงชุดนี้ ก็ยิ่งกระตุ้นให้เกิดความอยากดูเร็ว ๆ เสียแล้ว
ที่มา : movieweb