อีกสีสันหนึ่งที่เป็นจุดเด่นของหนัง ‘Spider-Man: No Way Home’ (2021) ก็คือการเล่นกับเรื่องราวแนวมัลติเวิร์ส ซึ่งเป็นผลจากการที่ ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ (ทอม ฮอลแลนด์ – Tom Holland) ได้ขอให้ ด็อกเตอร์สเตรนจ์ (เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ – Benedict Cumberbatch)) ร่ายเวทเพื่อทำให้ไม่มีใครจำได้ว่าตนเองคือสไปเดอร์-แมน
ผลก็คือ เกิดความผิดปกติของมิติต่าง ๆ จนทำให้เหล่าวายร้ายของสไปเดอร์แมนจากหลายไทม์ไลน์ ทั้ง ด็อกเตอร์ออกโทปุส (อัลเฟรด โมลินา – Alfred Molina), กรีนก็อบลิน (วิลเล็ม ดาโฟ – Willem Dafoe), อิเล็กโทร (เจมี ฟ็อกซ์ – Jamie Foxx), แซนด์แมน (โธมัส เฮเดน เชิร์ช – Thomas Haden Church) และ เดอะ ลิซาร์ด (รีส อีวันส์ – Rhys Ifans) ได้ทะลุมิติมารวมกัน
แม้นี่จะถือเป็นการรวมพลครั้งประวัติศาสตร์ครั้งหนึ่งของ Spiderverse เลยก็ว่าได้ แต่แผนดังกล่าวนี้ก็ไม่ได้เป็นแผนที่ตั้งต้นไว้แต่แรก เพราะในหนังสือรวมเบื้องหลังหนังของ Marvel Studios ‘MCU: The Reign of Marvel Studios’ เขียนโดย โจแอนนา โรบินสัน (Joanna Robinson), เดฟ กอนซาเลส (Dave Gonzales) และ เกวิน เอ็ดเวิร์ดส์ (Gavin Edwards) ที่เพิ่งวางจำหน่าย ได้มีการเปิดเผยข้อมูลใหม่ ๆ เกี่ยวกับเบื้องหลังของหนังในจักรวาล MCU หลายเรื่อง
และหนึ่งในนั้นก็คือวายร้ายหลักที่ถูกกำหนดไว้ในภาค ‘No Way Home’ เดิมทีไม่ใช่การรวมวายร้ายจากเวอร์ชันก่อนหน้า แต่เป็นวายร้ายชื่อดังอีกตัวของ Spiderverse เจ้าของฉายานายพรานผู้เก่งกาจที่สุดในโลกอย่าง คราเวน เดอะ ฮันเตอร์ (Kraven the Hunter) ต่างหาก โดยในหนังสือได้เผยว่า ตามแผนเดิม คริส แม็กเคนนา (Chris McKenna) และ อีริก ซอมเมอร์ส (Erik Sommers) ผู้เขียนบท ‘Spider-Man: No Way Home’ ได้เสนอให้ Kraven เป็นตัวร้ายของภาคนี้
แต่สุดท้าย พวกเขาก็ได้รับการแจ้งยืนยันจากทาง Sony เจ้าของลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์ใน Spiderverse ว่าไม่สามารถนำเอา Kraven มาใช้งานได้ เพราะว่าทาง Sony และ Columbia Pictures วางแผนว่าจะนำเอาตัวละครตัวนี้ไปเปิดตัวในหนังเดี่ยว ซึ่ง ทอม ฮอลแลนด์ ก็เคยกล่าวถึง ‘Spider-Man’ ภาค 3 ที่วางแผนว่าจะมี Kraven เป็นวายร้ายหลักเอาไว้ว่า
“เป็นเวลานานแล้วครับ ที่จะมีหนังภาค 3 ที่มีตัวร้ายเป็น Kraven เพราะสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นล้วนไม่ได้ผลและมีอะไรหลายอย่างที่แตกต่างออกไป จอน (จอน วัตต์ส – Jon Watts ผู้กำกับ) เป็นคนเสนอ Kraven ให้ผม ซึ่งมันก็เป็นอะไรที่เจ๋งจริง ๆ ผมไม่อยากพูดถึงมันมาก เผื่อว่าหนังมันอาจจะไม่เกิดขึ้นจริง แต่ยังไงผมว่ามันก็น่าสนุกดี”
ด้านของ จอน วัตต์ส ผู้กำกับ ‘Spider-Man’ ของ MCU ทั้ง 3 ภาคก็เคยกล่าวถึง Kraven ตอนที่เรื่องนี้ยังเป็นข่าวลือว่า “ผมเองอยากจะเห็น Kraven เป็นตัวร้ายครับ มันเป็นกลยุทธ์ที่ว่า คุณจะทำ Kraven ในหนังให้ออกมาเป็นรูปแบบยังไง”
‘Kraven the Hunter’ เป็นผู้อพยพชาวรัสเซียนามว่า เซอร์เก คราวินอฟ (Sergei Kravinoff) หนึ่งในวายร้ายของ Spider-Man ที่เป็นหนึ่งในสมาชิกแก๊งวายร้าย ‘The Sinister Six’ เช่นเดียวกับ Venom, Morbius และ The Vulture ซึ่ง Kraven เป็นลูกชายของขุนนางชาวโซเวียต มีความสามารถในการล่าสัตว์ด้วยมือเปล่า และต้องการโค่นล้ม Spider-man เพื่อพิสูจน์ความเป็นนักล่าผู้ยิ่งใหญ่
ซึ่งแม้ Sony จะแป้กหลังจากส่งหนังเดี่ยว ‘Morbius’ (2022) มาก่อนหน้านี้ แต่ Kraven ก็ยังเป็นอีกความหวังในการปลุกปั้นทีมวายร้ายแอนตี้ฮีโรให้เกิดขึ้นภายใน Spiderverse ที่ตัวเองถือครองอยู่ โดยจะได้ แอรอน เทย์เลอร์-จอห์นสัน (Aaron Taylor-Johnson) มารับบทเป็นคราเวน และได้ รัสเซลล์ โครว์ (Russell Crowe) มารับบทเป็นพ่อของคราเวนอีกที มีกำหนดฉายวันที่ 30 สิงหาคม ปี 2024
แม้ Kraven จะเกือบได้ปะทะกับ Spider-Man แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ หากวันหนึ่ง Kraven จะได้ปะทะกับ Spider-Man จริง ๆ เพราะใน ‘Spider-Man 4′ นั้นจะเป็นจุดเริ่มต้นที่แท้จริงของสไปเดอร์-แมนที่เปลี่ยนผ่านจาก ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ อัจฉริยะวัยเกรียน ไปสู่การเป็นสไปเดอร์-แมนวัยหนุ่มที่สูญเสียบุคคลรอบตัวไปทั้งหมด แม้แต่คนทั้งโลกก็ไม่สามารถจดจำเขาต่อไปได้อีก
พาร์คเกอร์จึงต้องเริ่มต้นชีวิตวัยหนุ่มจากจุดที่ตกต่ำและโดดเดี่ยวที่สุด และโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นกว่าใน 3 ภาคแรก ซึ่งถ้าหากหนังเดี่ยว ‘Kraven the Hunter’ ประสบความสำเร็จ และมีผู้คนชื่นชอบแบบเดียวกับ Venom ไม่แน่ว่า Sony อาจจะยอมให้ MCU นำตัวละคร Kraven สุดโหด กลับมาปะทะกับสไปเดอร์-แมนจนตรอกใน ‘Spider-Man 4′ รวมทั้งแผนการรวมตัว The Sinister Six ก็อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน
ที่มา: Screen Rant, The Direct
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส