หนังเล็ก ๆ ที่ได้บิลลี่ โจ อาร์มสตรอง ฟรอนต์แมนของวงพังค์ Green day มารับบทนำเต็มตัว แม้ก่อนหน้านี้เขาจะเคยรับบทสมทบมาบ้างแล้ว 2-3 เรื่อง มาถึงเรื่องนี้ บิลลี่ ได้รับบทที่ใกล้เคียงกับตัวเองมาก เป็นเพอรี่ หนุ่มที่เพิ่งเข้าวัย 40 เขาเป็นอดีตร็อคเกอร์ที่ต้องลาวงการเพราะต้องมาเริ่มต้นชีวิตครอบครัวหลังพบว่าเมียท้อง วันนี้เขากลายเป็นคุณพ่อลูก 2 เป็นพ่อที่ไม่ค่อยได้เรื่องอาศัยเกาะน้องชายที่บริหารกิจการร้านฮาร์ดแวร์ของครอบครัว ส่วนเมียก็เป็นเจ้าหน้าที่ศาลงานยุ่งหนังเล่าเรื่องราวในวันเกิดของเพอรี่และเป็นวันที่มีเรื่องราวยุ่งเหยิงที่สุดในชีวิตเพอรี
หนังเดินหน้าไปแบบอารมณ์คอมมีดี้ บทเขียนให้เพอรี่เป็นมนุษย์ที่ไม่เอาถ่าน ดูล่องลอยไปวัน ๆ ทั้งเมียทั้งลูกก็ไม่รู้สึกว่าพ่อและสามีคนนี้จะไว้วางใจให้ทำอะไรได้เลย แม้กระทั่งเรื่องเล็ก ๆ แค่เอาขยะไปทิ้ง ไปทำงานก็สายโดนน้องชายจิกด่า เพอรี่ ก็เลยดูเหมือนเด็กในร่างคุณพ่อวัย 40 ที่ปฎิเสธวิถีชีวิตพ่อบ้าน ไม่ยอมคบหาสมาคมกับแก๊งคุณพ่อที่โรงเรียน ใจเพอรี่ยังคงโหยหาอดีตที่เคยได้มันส์ได้เฮ้วกับแก๊งเพื่อน ๆ ขาร็อค ก็เลยจัดปาร์ตี้วันเกิดแบบสุดเหวี่ยงในห้องสวีตราคาแพงยับในโรงแรมหรู กลายเป็นเหตุวุ่น ๆ เรื่องหนึ่งในวันวายป่วงของเขา หนังสอดแทรกมุกมาประปรายทั้งเรื่อง เป็นมุกในระดับขำเล็กได้เสียงหัวเราะคลอไปทั้งเรื่องกับวีรกรรมเซ่อ ๆ เปิ่น ๆ ของเพอรี่ ที่ทำอะไรแฝงความติสท์ไว้ตลอดไม่มีใครคาดเดาได้ว่าเขาคิดอะไร แต่สิ่งที่หนังแฝงไว้ใต้อารมณ์คอมมีดี้ของหนัง คือความหมายของสถาบันครอบครัว ที่อยู่ในใจของเพอรี่โดยตลอด มีเหตุการณ์มายั่วยวนให้เพอรี่ทิ้งห่างครอบครัวทั้งแฟนเก่าที่อยากจะมีอะไรกับเขา โอกาสงาม ๆ ได้กลับไปเดินบนเส้นทางดนตรีอีกครั้ง ทั้งหมดล้วนท้าทายสำนึกของความเป็นพ่อและสามีที่ดีอยู่ในจิตสำนึกของเพอรี่อยู่ตลอดเวลา แต่ก็พาไปสู่บทลงเอยฟีลกู๊ด
เป็นหนังของคุณพ่อลูก 2 โดยแท้ เขียนบทและกำกับโดย ลี เคิร์ก ผู้กำกับสายหนังอินดี้ที่มีผลงานมาไม่มาก และ ลี ก็เป็นคุณพ่อลูก 2 เช่นกัน แล้วก็ได้ บิลลี่ โจ อาร์มสตรอง คุณพ่อ ลูก 2 เช่นกันมารับบทนำเป็นเพอรี่ คุณพ่อลูก 2 ผิดกันนิดที่บิลลี่ ตัวจริงเป็นคุณพ่อของลูกชาย 2 คน อายุ 18 และ 21 เดินทางสายดนตรีตามคุณพ่อขาร็อคทั้งคู่ และลูกชายก็ยังโผล่มาแจมในเรื่องเป็นแขกในงานปาร์ตี้ด้วย ด้วยภาพลักษณ์ของบิลลี่ที่ดูเป็นหนุ่มร่างเล็กหน้าเด็ก จับมาแปลงภาพลักษณ์นิดให้หัวยุ่ง ๆ ใส่แว่นกรอบหนา ก็เลยดูเข้ากับบท เพอรี คุณพ่อไม่เอาถ่านได้ดีแม้ตัวจริงของบิลลี่ จะปาเข้าไปวัย 44 แล้วก็ตาม แม้ว่าเรื่องนี้เป็นงานแสดงนำครั้งแรกของบิลลี่ ที่อยู่บนจอแทบจะทุกนาทีของหนัง บิลลี่ ก็แสดงได้ลื่นไหล ดูมีแววว่าจะพัฒนามาหากินทางเล่นหนังได้ หนังใช้ดาราโนเนมล้วน ๆ มีเพียงเซลม่า แบลร์ นางเอกจากยุค 90s มารับบทแคเร็น ภรรยาผู้น่ารักเข้าอกเข้าใจสามีเสมอ
Ordianry World เปิดตัวในเทศกาลไทรเบคกา ฟิล์มไปเมื่อเมษายน ที่ผ่านมา บิลลี่ โจ ไปเล่นโชว์ในงาน “Devil’s Kind” “Ordianary World” 2 เพลงใหม่ที่เขาแต่งขึ้นมาประกอบหนังเรื่องนี้ และเพลง “Ordianary World” ที่ใช้เป็นชื่อเรื่อง เป็นเพลงที่บิลลี่ เล่นกีตาร์โปร่งและร้องเองในฉากหนึ่ง เป็นเพลงหวานติดหู อารมณ์ต่างกับเพลง Green day ที่คุ้นเคยกันและเพลงนี้ก็อยู่ในอัลบั้มใหม่ของ Green day ที่เพิ่งออกพร้อม ๆ กับที่หนังเข้าฉายเช่นกัน ที่อเมริกาหนังเข้าฉายแบบจำกัดโรงและแบบจ่ายเงินดูทางอินเตอร์เน็ตเท่านั้น บ้านเราเข้าฉายวันที่ 10 พฤศจิกายน นี้ น่าจะได้โรงฉายไม่กี่โรงและไม่กี่รอบ ถึงแม้หน้าหนังจะดูเหมือนหนังเพลงที่ได้ ร็อคสตาร์ตัวจริงมารับบทนำ แต่กลับไม่เน้นขายเพลงนัก มีฉากร้องเพลงแค่ 3 -4 เพลงเท่านั้น โดยรวมจัดว่าเป็นหนังแฝงเจตนาดีเรื่องหนึ่งครับ คนไม่มีลูกดูแล้วก็อมยิ้มไปก็เรื่องราวน่ารักปนรั่ว ๆ ของเพอรี คนมีลูกดูแล้วก็เข้าใจตัวละครแบบเพอรี และชวนให้รักครอบครัวมากขึ้น