‘หนังผีไทย’ ถือเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของไทย ที่เคยสร้างความสยองขวัญให้กับคนดูมาหลายรุ่น เนื่องจากพล็อตเรื่องส่วนมาก มักหยิบเอาความเชื่อเกี่ยวกับภูติ ผี ต่าง ๆ ในสมัยโบราณ หรือเรื่องเล่าสุดหลอนที่ถูกเล่ากันมาแบบรุ่นต่อรุ่น สิ่งเหล่านี้กลายเป็นปัจจัยที่ทำให้หนังผีไทยมีความน่ากลัวเสน่ห์ที่ไม่เหมือนกับผีชาติไหน
beartai BUZZ จึงขอรวบรวม ’10 หนังผีไทย หลอกชาตินี้ หลอนยันชาติหน้า!!’ มาให้เหล่าคอหนังผีได้ตามไปดูกัน
ผีสามบาท (2544)
หนังผีไทยยุคเก่าเรื่องโปรดของใครหลายคน เป็นหนังที่ใช้การเล่าเรื่องผีแยกเป็น 3 เรื่อง 3 สไตล์ ถือว่าเป็นเรื่องแรก ๆ ของไทยที่ใช้การเล่าเรื่องแบบแบ่งเป็นตอน ทำให้ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีในเวลานั้น ถึงแม้จะแบ่งแยกเป็น 3 เรื่อง แต่คนที่ชมตั้งแต่เริ่มจะสามารถจับจุดได้ว่าทั้ง 3 เรื่องนั้น มีจุดที่เชื่อมกันอยู่
‘ท่อนแขนนางรำ’ เรื่องราวของ โหงด (ปราโมทย์ แสงศร) ชายที่หลงรัก ‘ผกา’ (พิมพ์ศิริ พิมพ์ศรี) สาวนางรำที่มีใจให้กับชายอื่นอยู่แล้ว ทำให้โหงดตัดสินใจตัดแขนของเธอ และลอกผิวหนังมาทำเป็นกลอง จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความหลอนทั้งหมด
‘น้ำมันพราย’ เรื่องราวของ แพน (ดาหวัน สิงห์วี) สาววัยเบญจเพศที่แสวงหาความรัก เธอจึงหวังมัดใจหนุ่ม ๆ โดยการใช้น้ำมันพราย เมื่อใครโดนตัวเธอก็จะหลงรักเธอจนโงหัวไม่ขึ้น ไม่เว้นแม้แต่คนที่ตายจากโลกใบนี้ไปแล้ว
‘จองเวร’ เรื่องราวของ กันยา (กัลยณัฐ ศรีบุญเรือง) หญิงสาวที่ผูกคอตายในห้องน้ำ แต่เมื่อ นพ (พีท ทองเจือ) ตำรวจหนุ่มไฟแรงได้มาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ กลับพบบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากล ทำให้วิญญาณสาวนั้นคอยวนเวียนและชี้ทางให้แก่นพ จนเขาได้พบความจริงสุดน่ากลัวที่เขาคาดไม่ถึง
‘ผีสามบาท’ เป็นผลงานการกำกับของ ป็อก-พิสุทธิ์ แพร่แสงเอี่ยม และอ็อกไซด์ แปง (Oxide Pang) หนังเรื่องนี้ถือว่าครบรสทุกอารมณ์ของหนังผีเลยทีเดียว มีทั้งความกลัว ความหลอน สยองขวัญ สั่นประสาท
คนเห็นผี (2545)
หนังสยองขวัญน้ำดีฝีมือการกำกับของสองพี่น้องอย่าง อ็อกไซด์ แปง และแดนนี แปง (Danny Pang) เป็นหนังร่วมทุนสร้างระหว่างประเทศไทย และฮ่องกง โดยอ้างอิงจากเหตุการณ์แก๊สระเบิดที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ในปี พ.ศ. 2553 จนทำกลายเป็นหนังที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในยุคนั้น
ตัวหนังเล่าถึง ‘มาน’ สาวตาบอดที่เข้ารับการผ่าตัดตา จนทำให้เธอสามารถกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง แต่หลังจากที่เธอได้ดวงตาดวงใหม่ ก็เริ่มมีอะไรบางอย่างที่แปลกไป เธอเริ่มเห็นร่างลึกลับสีดำที่ไม่ค่อยชัด เห็นเหตุการณ์การเสียชีวิตที่จะเกิดในเวลาอันใกล้ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความหลอนทั้งหมด
บุปผาราตรี (2546)
เรื่องราวของ บุปผา (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) นักศึกษาสาวผู้เก็บตัวอย่างโดดเดี่ยว ไม่ยุ่งกับใคร เพราะเธอมีปมกับอดีตอันเจ็บปวดที่ถูกลุงแท้ ๆ ของเธอล่วงละเมิดทางเพศตั้งแต่เด็ก พอโตมาเธอยังถูก เอก (กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์) ที่หลอกให้เธอมีเพศสัมพันธ์ด้วย เพื่อแลกกับเหล้าเพียงหนึ่งขวด ต่อมาบุปผาเกิดท้อง และต้องทำแท้งจนเสียชีวิตอย่างเดียวดายในอะพาร์ตเมนต์
ผลงานการกำกับของ ต้อม-ยุทธเลิศ สิปปภาค ซึ่งตัวหนังมีภาคต่อถึง 4 ภาค รวมถึงภาคแยกอย่าง ‘บุปผาอาริกาโตะ’ โดยภาคแรกถือว่าได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม มีการสอดแทรกประเด็นเรื่อง ‘การทารุณผู้หญิงทางร่างกายและจิตใจ’ ที่ขยี้ประเด็นได้อย่างถึงพริกถึงขิงเลยทีเดียว
ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ (2547)
‘ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ’ เล่าถึงเรื่องราวของ ธรรม์ (อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม) ช่างภาพหนุ่ม และแฟนสาวที่เริ่มพบเหตุการณ์ประหลาด จากภาพถ่ายที่มีเงาสีขาวคล้ายใบหน้าผู้หญิงติดอยู่ในรูป ทำให้เขาทั้งคู่ต้องมาค้นหาความจริงว่า เงาปริศนาในรูปคืออะไร? แต่ยิ่งค้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งพบกับความลับอันดำมืดของธรรม์ที่ซ่อนเอาไว้มากขึ้น
นี่ถือว่าเป็นหนังผีขึ้นหิ้ง ที่หลายคนยกให้เป็น ‘หนังผีไทยที่น่ากลัวที่สุด’ เป็นหนังสยองขวัญที่แจ้งเกิดสองผู้กำกับมากคุณภาพอย่าง โต้ง-บรรจง ปิสัญธนะกูล และโอ๋-ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ จนทำให้ทั้งคู่กลายเป็นผู้กำกับหนังสยองขวัญชื่อดังในเวลาต่อมา
รวมถึงซีนปวดหลังของตัวเอก ก็กลายเป็นไวรัลที่ทำให้ใครหลายคนฉุกคิดขึ้นมาว่า “หรือที่เราปวดคอบ่อย ๆ จะเป็นเพราะมีใครมาขี่คอเราหรือเปล่า?”
คน ผี ปีศาจ (2547)
หนังเล่าถึง อุ้ย (แอร์ ภุมวารี) หญิงสาววัยรุ่นต้องสูญเสียพ่อและแม่จากการกวาดล้างยาเสพติด ทำให้เธอต้องย้ายมาอาศัยอยู่กับ ป้าบัว (อมรา อัศวนนท์) ญาติผู้เป็นเจ้าของโรงพิมพ์รวมถึงเป็นร่างทรงนอกจากนี้ อุ้ยยังพบกับ อาร์ม (อเล็กซ์ เรนเดลล์) หลานของป้าบัวที่พูดแต่เรื่องผี ทั้ง ๆ ที่เป็นคนกลัวผีมาก ๆ และหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา จนทำให้อุ้ยเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติของบ้านหลังนี้
‘คน ผี ปีศาจ’ เป็นเรื่องที่ทำให้ใครหลายคนตั้งคำถามกับตัวเองว่า แท้จริงแล้วระหว่าง คน ผี ปีศาจ อะไรกันแน่ที่น่ากลัวกว่ากัน? ตัวหนังไม่ได้เสนอผีแบบโฉ่งฉ่างหรือฉากตุ้งแช่ เหมือนเรื่องอื่น ๆ แต่ใส่ความหลอนและความอึดอัดไปในบรรยากาศ จนทำเอาหลายคนไม่กล้าลุกไปเข้าห้องน้ำกลางดึกคนเดียว
เปนชู้กับผี (2549)
ย้อนกลับไปใปปี พ.ศ.2477 นวลจัน (นุ่น ศิรพันธ์) หญิงสาวที่กำลังท้องอยู่ แต่ต้องออกเดินทางเพื่อตามหาสามีที่หายตัวไป ได้ไปขอพักอาศัยในคฤหาสน์ของแม่ม่าย ชื่อว่า รัญจวน (สุพรทิพย์ ช่วงรังษี) ในคฤหาสน์มีหัวหน้าแม่บ้านซึ่งสวมชุดดำปิดคอตลอดเวลา ต่อมานวลจันก็เริ่มค้นพบว่าในคฤหาสน์มีเรื่องราวอันน่ากลัวซุกซ่อนอยู่ รวมถึงความไม่ชอบมาพากลของบรรดาผู้พักอาศัยในคฤหาสน์แห่งนี้
‘เปนชู้กับผี’ เป็นผลงานกำกับของ วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง นอกจากพล็อตเรื่องที่ได้รับคำชมอย่างมากมายก็ยังมีการสร้างสรรค์บรรยากาศได้อย่างน่ากลัวแบบเต็มพิกัด ที่อ้างอิงและตีความมาจากภาพวาดของศิลปินชั้นครูอย่าง เหม เวชกร ที่ถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์ได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้กลายเป็นหนังไทยเรื่องโปรดของใครอีกหลายคน
เด็กหอ (2549)
เรื่องราวของ ต้น (ชาลี ไตรรัตน์) เด็กชายผู้รู้สึกไร้ตัวตนและไม่มีคนสนใจ เขาถูกจับย้ายไปโรงเรียนประจำอย่างกะทันหัน และที่โรงเรียนแห่งนั้น เขาต้องปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ แต่โรงเรียนใหม่ของเขากลับเต็มไปด้วยความน่ากลัว บรรยากาศที่ชวนขนหัวลุก เรื่องผีในโรงเรียน หรือจะเป็นครูใหญ่ที่ดูลึกลับ ทว่าเขาได้พบกับ วิเชียร (ศิรชัช เจียรถาวร) เพื่อนร่วมห้องที่มีนิสัยคล้าย ๆ กัน ทำให้พวกเขาทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนรักกัน แต่ต้นกลับได้ค้นพบความลับบางอย่างที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน
นี่คือหนังจากฝีมือการกำกับของ ย้ง-ทรงยศ สุขมากอนันต์ ที่ได้รับคำชมอย่างมาก ในเรื่องการนำเสนอที่ไม่ได้มีแค่ความสยองเพียงอย่างเดียว แต่สะท้อนเรื่องราวของมิตรภาพระหว่างเพื่อนที่ถ่ายทอดมาได้อย่างลงตัว จนถูกคัดเลือกให้เข้าฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลิน ครั้งที่ 57 และคว้ารางวัลหมีแก้ว (Crystal Bear) สาย Generation Kplus มาได้
โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต (2551)
หนังเล่าถึงเรื่องราวของ เชน (ฉันทวิชช์ ธนะเสวี) พนักงานฉายหนังคนหนึ่ง ที่ร่วมมือกับรุ่นพี่ที่ทำงาน ลักลอบแอบถ่ายหนังใหม่ ไปขายให้แก๊งผลิตหนังเถื่อน มีอยู่วันหนึ่งเขาได้เปิดหนังเรื่องหนึ่งขึ้นมา และไม่รู้เลยว่าใครก็ตามที่เปิดดูถึงฉากผูกคอตาย จะโดนผีชบาในเรื่องตามหลอกหลอนจนถึงขั้นเอาชีวิต
นอกจากประโยคที่ว่า “มึงอยากดูกูตายนักใช่ไหม” จะเป็นคำพูดติดหูของหนังเรื่องนี้ หลายคนยังติดตากับใบหน้าของชบาที่ชวนน่ากลัวและขยะแขยงในเวลาเดียวกัน อีกทั้งจังหวะการตุ้งแช่ การโผล่ออกมาของผี และความมืดภายในโรงหนังที่ดึงเอามาใช้ได้อย่างน่ากลัวจนถึงขีดสุด ทำเอาหลาย ๆ คน หรือแม้แต่พนักงานไม่กล้าเข้าโรงหนังกันเลยทีเดียว
สี่แพร่ง (2551)
หนังผีรวมเรื่องสั้น 4 เรื่อง จาก 4 ผู้กำกับอย่าง ยงยุทธ ทองกองทุน, ปวีณ ภูริจิตปัญญา, ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ และบรรจง ปิสัญธนะกูล ที่เสนอถึงเรื่องราวของความกลัวหลากหลายรูปแบบเริ่มด้วย
‘เหงา’ เรื่องราว ปิ่น (มณีรัตน์ คำอ้วน) สาวออฟฟิศตกงาน ที่อาศัยอยู่คนเดียวในอะพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง วันหนึ่งก็มี SMS แปลก ๆ ส่งเข้ามาอยากทำความรู้จักกับเธอ ในตอนแรกเธอไม่ได้สนใจแต่อย่างใด แต่เมื่อความเหงาถึงขีดสุด ทำให้เธอเริ่มพูดคุยกับเขา ทว่าคนที่เธอคุยด้วยนั้นกลับไม่ใช่คนที่มีชีวิตอยู่บนโลกแล้ว
‘ยันต์สั่งตาย’ เมื่อกลุ่มเด็กวัยรุ่นเกเรได้ไปรังแกลูกของหมอผี เขาจึงสร้างยันต์ที่เรียกว่า ‘ยันต์สั่งตาย’ ใครที่สบตากับยันต์นี้จะตายโดยทันที ทำให้ พิ้งค์ (อภิญญา สกุลเจริญสุข) หนึ่งในสมาชิกกลุ่มเกเรต้องหนีเอาชีวิตรอดและทำทุกหนทางที่ทำให้เธอนั้นไม่สามารถมองเห็นยันต์นั้นได้
‘คนกลาง’ วัยรุ่น 4 คนออกไปล่องแก่งกลางป่า เมื่อตกกลางคืนพวกเขาต้องนอนรวมกันในเต็นท์ ทุกคนต่างเกี่ยงที่จะนอนริมเพราะเชื่อว่า คนนอนริมสุดจะเจอผี แต่สุดท้ายแล้วคนที่นอนริม กลับไม่ใช่คนที่เจอผีเพียงคนเดียวเท่านั้น
‘เที่ยวบิน 422’ พิม (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) แอร์โฮสเตสสาวชู้ของเจ้าชายอัลเบิร์ต แต่ด้วยความบังเอิญทำให้เธอต้องไปรับรองไฟลต์พิเศษเพื่อดูแลเจ้าหญิงโซเฟีย ภรรยาของเจ้าชายอัลเบิร์ต แต่เจ้าหญิงโซเฟียกลับเสียชีวิตกะทันหันทำให้ต้องรีบขนพระศพขึ้นเครื่องบินกลับประเทศภายใน 15 ชั่วโมง ทำให้พิมต้องพบกับบทลงโทษสุดโหดร้ายของการเป็นชู้กับสามีคนอื่น
ลัดดาแลนด์ (2554)
เรื่องราวของ ธีร์ (สหรัถ สังคปรีชา) ชายวัยกลางคนที่มี ภรรยา และ ลูกอีก 2 คน ทั้ง 4 ได้ย้ายไปอยู่บ้านใหม่ในฝัน ที่หมู่บ้าน ‘ลัดดาแลนด์’ แต่ว่าเรื่องราวไม่ได้สวยงามขนาดนั้น เพราะจู่ ๆ ก็มีสาวใช้ชาวพม่าในหมู่บ้านถูกฆาตกรรม และกลายเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องสยองขวัญของครอบครัวนี้
หนังผีดราม่าเข้มข้นที่เล่นกับความโชคร้ายของมนุษย์เงินเดือนจนตรอก ที่ถึงแม้ว่าหมู่นั้นจะกลายเป็นหมู่บ้านผีสิงขนาดไหน แต่ก็ไม่สามารถย้ายออกไปได้ เป็นหนังผีที่ถ้าใครไปดูในโรงภาพยนตร์ต้องเดินออกมาพร้อมกับน้ำตาแน่นอน นี่คือผลงานการกำกับของ จิม โสภณ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้กำกับสายสยองขวัญของเมืองไทย ที่ไม่ว่าทำผีเรื่องไหนออกมา ก็ได้รับการันตีความหลอนเต็ม 10 อยู่บ่อยครั้ง
ผีช่องแอร์ (2547)
แถมพิเศษอีกหนึ่งเรื่อง กับ ‘ผีช่องแอร์’ เรื่องราวสุดสะเทือนใจที่เคยเกิดขึ้นจริง จนกลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วทั้งประเทศ จนผู้กำกับอย่าง ทิวา เมยไธสง หยิบยกเอาไปสร้างเป็นหนังโดยอ้างอิงตามเรื่องจริงถึง 80%
เล่าถึงเรื่องราวของ กลุ่มนักดนตรีวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งต้องเดินทางไปเล่นดนตรีที่จังหวัดทางภาคใต้ของไทย และต้องเข้าพักในโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งบังเอิญว่ามีห้องพักห้องเดี่ยวเท่านั้นที่ยังว่างอยู่ นั่นก็คือห้อง ‘409’ เมื่อเข้ามาในห้องพัก หนึ่งในสมาชิกในวงก็เห็นเศษผ้าชิ้นหนึ่งตกลงมาจากช่องแอร์ เขาจึงปีนขึ้นไปดู เพื่อจะดึงผ้าออกมา ทำให้แผ่นเหล็กที่กั้นช่องแอร์อยู่นั้นตกลงมา แต่ทว่าสิ่งที่อยู่ภายในช่องแอร์นั้นทำเอาพวกเขาทั้งห้องต้องขนหัวลุกจนถึงขีดสุด