หากจะพูดถึงจักรวาลหนังสยองขวัญในยุคนี้ ก็คงหนีไม่พ้นจักรวาลคนเรียกผี ทั้ง ‘The Conjuring’ และหนังสปินออฟ ทั้งตุ๊กตาผี ‘Annabelle’ และผีแม่ชีวาลัคใน ‘The Nun’ ที่ผสมผสานเรื่องราวเหนือธรรมชาติสุดลี้ลับ รวมเข้ากับแรงบันดาลใจจากแฟ้มประวัติของ เอ็ด และ ลอร์เรน วอร์เรน (Ed – Lorraine Warren) คู่รักนักเรียกผีที่มีตัวตนอยู่จริง และแรงบันดาลใจจากคดีอาชญากรรมสุดโหดที่เคยเป็นข่าวสะเทือนขวัญมาแล้ว
วันนี้ beartai BUZZ INSIDE ขอพาย้อนเรื่องราวตำนานเรื่องจริงสุดสะพรึง ที่มาและแรงบันดาลใจสุดสยอง ที่ถูกดัดแปลงจนกลายเป็นหนังในจักรวาล ‘The Conjuring’

เอ็ด และ ลอร์เรน ตำนานคู่รักคนเรียกผี
หากจะต้องเล่าเรื่องจริงในจักรวาล ‘The Conjuring’ หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่พูดถึงสามีภรรยานักปราบผี นามว่า เอ็ด และ ลอร์เรน วอร์เรน ที่เคยมีตัวตนจริงในช่วงทศวรรษ 1960 ผู้ออกปราบผี และร่วมมือในการสืบสวนคดีอาชญากรรมลึกลับเหนือธรรมชาติ ที่ไม่สามารถหาคำตอบได้ด้วยวิทยาศาสตร์มาแล้วนับ 10,000 คดี แม้หลายคนจะมองว่าพวกเขาเพี้ยน บ้างก็กล่าวหาว่าพวกเขาเป็นพวกต้มตุ๋น แต่จากผลงานการคลี่คลายเรื่องลี้ลับ ก็ทำให้พวกเขาได้รับการยอมรับจากชาวอเมริกันในเวลานั้นเป็นอย่างมาก
เอ็ดและลอร์เรน วอร์เรน เป็นคู่สามีภรรยาที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองมอนโร รัฐคอนเน็กติคัต เอ็ดค้นพบว่าตัวเองมีความสามารถในการสัมผัสวิญญาณเมื่อตอนอายุ 5 ขวบ จนเมื่ออายุ 16 ปี เขาได้พบและคบหากับลอร์เรน สาวน้อยผู้มีสัมผัสวิญญาณเช่นเดียวกัน

ปี 1952 ทั้งคู่ได้ก่อตั้งสมาคมวิจัยด้านจิตวิญญาณแห่งนิวอิงแลนด์ หรือ N.E.S.P.R. และเปิดรับอาสาสมัคร เพื่อร่วมหาทางออกของคดีความ ทำงานสืบสวนสอบสวนร่วมกับตำรวจด้วยหลักวิทยาศาสตร์ และศาสนา นอกจากนี้ ทั้งคู่ยังได้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์อ๊อกคัลต์ (Occult Museum) ที่รวบรวมวัตถุทางวิญญาณที่เก็บได้จากจุดเกิดเหตุมาจัดแสดง จนกระทั่งปี 2006 เอ็ดได้จากโลกไปด้วยวัย 79 ปี ส่วนลอร์เรน ผู้เป็นที่ปรึกษาและให้ข้อมูลกับหนังชุดนี้ จากไปเมื่อปี 2019 ในวัย 92 ปี
‘The Conjuring’ (2013)
‘The Conjuring’ หนังเรื่องแรกของจักรวาลที่ออกฉายในปี 2013 ดัดแปลงจากเหตุประหลาดของครอบครัวเพอร์รอน ในเมืองแฮร์ริสวิลล์ รัฐโรดไอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา ในปี 1971 เมื่อโรเจอร์ และแคโรลีน สามีภรรยาและลูกสาว 5 คน ได้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหม่แสนสงบสุข แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เมื่อครอบครัวและลูกสาวทั้ง 5 ต้องพบกับเหตุการณ์ลี้ลับภายในบ้าน ที่ว่ากันว่าเป็นวิญญาณของเจ้าของบ้านคนเก่า

แอนเดรีย เพอร์รอน (Andrea Perron) ลูกสาวคนหนึ่งของโรเจอร์และแคโรลีน ได้เขียนเล่าเรื่องนี้ไว้ในหนังสือ 2 เล่ม คือ ‘House of Darkness’ และ ‘House of Light’ ผสมกับตำนานของพื้นที่อาถรรพ์ที่ถูกเรียกว่า Arnold Estate ที่ไม่ว่าใครที่ได้ย้ายเข้าไปอยู่ ล้วนต้องมีอันเป็นไปด้วยเหตุลี้ลับที่แตกต่างกันไป ส่วนเรื่องราวตำนานแม่มดบัชชีบ้า เชอร์แมน นั้นมาจากความเชื่อที่ว่ากันว่า บัชชีบ้าคือแม่มดบูชาซาตาน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้มาตั้งแต่ปี 1812 และตัดสินใจบูชายัญลูกน้อยวัยทารกเพื่อบูชาซาตาน ก่อนจะฆ่าตัวตาย บัชชีบ้าได้สาปแช่งให้คนที่มาอยู่ในพื้นที่นี้ โดยเฉพาะผู้หญิง จะต้องเผชิญกับคำสาปคลั่งแค้นอย่างทรมาน เมื่อย่างกรายเข้าไปในบ้านแห่งนั้น

‘The Conjuring 2’ (2016)
เรื่องราวใน ‘The Conjuring 2’ นั้นเป็นการผสม 2 เหตุการณ์เข้าด้วยกัน นั่นก็คือเหตุการณ์ Enfield Poltergeist หรือเหตุการณ์สยองในเขตเอ็นฟิลด์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในช่วงปี 1977 ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของ เพ็กกี ฮอดจ์สัน (Peggy Hodgson) คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวลูก 4 คน ต้องพบกับเหตุประหลาดภายในบ้าน เมื่อ เจเน็ต ลูกสาววัย 11 ปี พบว่าตัวเองนอนอยู่ที่โซฟาชั้นล่าง ทั้ง ๆ ที่นอนหลับในห้องนอนชั้นบน ข้าวของที่ขยับเขยื้อนได้ และไฟที่ลุกไหม้ขึ้นเอง รวมทั้งเหตุการณ์ที่ทำให้เสียงของเจเน็ตเปลี่ยนเป็นเสียงของชายชรา ซึ่งภายหลังมีพยานกว่า 30 รายอ้างว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจากวิญญาณของ บิว วิลกินส์ (Bill Wilkens) ชายชราตาบอดที่เสียชีวิตบนโซฟา

อีกเคสก็คือ เหตุการณ์ฆาตกรรมในหมู่บ้านอะมิตีวิลล์ กรุงนิวยอร์ก ในปี 1975 ทั้งคู่ได้เข้าตรวจสอบบ้าน หลังจากที่ โรนัลด์ เดอฟิโอ จูเนียร์ (Ronald DeFeo Jr.) ได้ก่อเหตุฆาตกรรมโดยใช้ปืนไรเฟิลสังหารพ่อแม่ และพี่น้องอีก 4 คนของเขาในเวลากลางคืน ขณะที่นอนหลับอยู่ในบ้านอย่างเลือดเย็นเพราะอ้างว่ามีเสียงบอกให้เขาทำ จนกระทั่งเขาถูกจำคุกตลอดชีวิต และเสียชีวิตในปี 2021
หนึ่งปีต่อมา จอร์จ และ เคธี ลุตซ์ (George-Kathy Lutz) ได้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านราคาถูก ๆ หลังนี้ ก่อนจะพบเหตุการณ์ลี้ลับ ทั้งการที่จอร์จมักจะสะดุ้งตื่นในเวลา ตี 3.15 นาทีทุกคืน ซึ่งว่ากันว่าเป็นเวลาที่เกิดเหตุสลดขึ้น รวมทั้งได้ยินเสียงประตูกระแทกและได้กลิ่นแปลก ๆ จนทำให้พวกเขาต้องย้ายออก หลังจากอยู่ในบ้านได้เพียง 28 วัน ซึ่งภายหลังเอ็ดและลอร์เรนต้องเข้ามาสืบคดี และพบว่าในบ้านมีสิ่งลี้ลับซ่อนอยู่

‘The Conjuring: The Devil Made Me Do It’ (2021)
ใน ‘The Conjuring: The Devil Made Me Do It’ เป็นการดัดแปลงเรื่องราวจากคดีที่เอ็ดและลอร์เรน ได้เข้าไปคลี่คลายคดีฆาตกรรม ที่เกิดขึ้นในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 1981 ที่เมืองบรูกฟีลด์ รัฐคอนเน็กทิคัต มีรายงานว่า อลัน โบโน (Alan Bono) เจ้าของที่ดินวัย 40 ปี ถูกกระหน่ำแทงหลายแผลด้วยมีดพกขนาดยาว 4-5 นิ้ว ก่อนจะเสียชีวิตในโรงพยาบาล
ภายหลังตำรวจได้จับกุม อาร์นี ไชแอน จอห์นสัน (Arne Cheyenne Johnson) คนงานตัดแต่งต้นไม้วัย 19 ปี ที่ก่อเหตุสังหารหลังจากที่โบโนเกิดอาการเมาสุรา และมีปากเสียงกัน โดยจอห์นสันได้สารภาพว่า เขาถูกปีศาจเข้าสิง กลายเป็นคดีแรกของสหรัฐอเมริกาที่มีการกล่าวอ้างว่ามีปีศาจเป็นคนบงการ แม้จอห์นสันจะไม่ยอมรับสารภาพตรง ๆ เพราะเขาให้การแค่เพียงว่า เขาจำเหตุการณ์ในวันนั้นไม่ได้ ทำให้ทนายความจึงให้การแก้ต่าง โดยอ้างว่าจอห์นสันถูกปีศาจเข้าสิงในระหว่างก่อเหตุ เพื่อหวังจะชนะคดี และหวังจะได้มีพื้นที่ในสื่อ

ตรงกับที่ เดบอราห์ แกลตเซล (Debbie Glatzel) แฟนสาวของจอห์นสันที่อยู่ในเหตุการณ์ ได้กล่าวอ้างว่า ที่เป็นแบบนี้เพราะจอห์นสันได้เข้าร่วมพิธีไล่วิญญาณของ เดวิด แกลดเซล (David Glatzel) น้องชายของเธอ ในที่สุดศาลได้พิพากษาให้จอห์นสันมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ต้องรับโทษจำคุก 20 ปี แต่สุดท้ายเขาก็ถูกปล่อยตัวออกมาหลังจากติดคุกได้ 5 ปีเพราะมีความประพฤติดี
‘Annabelle’ (2014)
ตุ๊กตาที่ปรากฏตัวใน ‘The Conjuring’ ภาคแรก ได้มีหนังสปินออฟของตัวเอง ซึ่งเป็นการดัดแปลงจากเหตุการณ์ลี้ลับที่เกิดขึ้นในปี 1970 เมื่อเอ็ดและลอร์เรน ได้รับตุ๊กตาโบราณที่เรียกว่า ‘Raggedy Ann’ จากพยาบาลสาวที่มีชื่อว่า ดอนน่า ซึ่งเป็นของขวัญที่เธอได้รับจากแม่ แต่แล้วกลับเกิดเหตุลี้ลับขึ้น เมื่อดอนน่าพบว่า ตุ๊กตาตัวนี้สามารถขยับเปลี่ยนท่าทางจากเดิมทุกครั้งที่เธอวางเอาไว้ บางครั้งก็ย้ายที่ไปมา รวมถึงยังสามารถเขียนข้อความในกระดาษได้ด้วย ซึ่งเอ็ดและลอร์เรนได้ค้นพบว่าตุ๊กตาตัวนี้มีวิญญาณของเด็กหญิงคนหนึ่งที่ต้องการอยู่กับเธอสิงสู่อยู่ในนั้น ปัจจุบันตุ๊กตาตัวนี้ถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์อ๊อกคัลต์ ด้วยการเก็บเอาไว้ในตู้กระจกที่ทำขึ้นเป็นพิเศษ และปลุกเสกเพื่อกักวิญญาณเอาไว้ภายใน

‘The Nun’ (2018)
ในจักรวาล ‘The Conjuring’ วาลัคแม่ชีปีศาจที่ปรากฏตัวครั้งแรกใน ‘The Conjuring 2’ นั้นอ้างอิงจากเรื่องจริงน้อยที่สุด โดยเป็นส่วนผสมจากเรื่องแต่ง กับเรื่องเล่าของลอร์เรนที่เคยเล่าให้ เจมส์ วาน (James Wan) ผู้กำกับ ‘The Conjuring’ ว่าเธอเคยถูกผีตามรังควาน ส่วนที่มาของชื่อแม่ชีวาลัค นั้นได้มาจากคำภีร์ที่มีชื่อว่า ‘The Lesser Key of Solomon’ ที่ถูกเขียนขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 17

ภายในคำภีร์ได้มีการบันทึกไว้ว่า กษัตริย์โซโลมอนได้ทำการปลุกวิญญาณร้ายเพื่อรับใช้ตน โดยวาลัคที่เป็นปีศาจจากแดนนรกตัวที่ 62 เป็นประมุขของเหล่าปีศาจที่มีบริวารเป็นลูกสมุน 30 ตน วาลัคมีรูปร่างคล้ายเด็กที่มีปีกคล้ายกามเทพ ขี่มังกร 2 หัว ซึ่งคล้ายกับแม่ชีวาลัคที่เป็นแม่ชีผู้บริสุทธิ์ ที่กลายร่างเป็นปีศาจนั่นเอง ส่วนอารามคาร์ตาที่อยู่ในหนัง นั้นอ้างอิงมาจากอารามที่มีอยู่จริง ที่ตั้งอยู่ในแคว้นทรานซิลเวเนีย ประเทศโรมาเนีย ที่สร้างขึ้นในยุคกลาง ช่วงประมาณคริสตศตวรรษที่ 12 แต่ในปัจจุบันเป็นเพียงโบราณสถานที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพังเท่านั้น

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส