เว็บไซต์ ComicBook.com ได้รายงานคำสัมภาษณ์ของ ทาคาชิ ยามาซากิ (Takashi Yamazaki) ผู้กำกับ ‘Godzilla Minus One’ และ แกเร็ท เอ็ดเวิร์ดส์ (Gareth Edwards) ผู้กำกับ ‘Godzilla’ (2014) ซึ่งเป็นเวอร์ชันรีบูตของฮอลลีวูด
ในการใหัสัมภาษณ์ครั้งนี้ เอ็ดเวิร์ดส์ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพยนตร์ของยามาซิกินี้ว่า เขาอิจฉา และคิดว่านี่เป็นภาพยนตร์ ‘Godzilla’ อย่างที่ควรจะเป็นมากที่สุด
“มันมีหลายสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกว่าเป็นสิ่งใหม่มาก ๆ สำหรับ ‘Godzilla’ และผมรู้สึกอิจฉาตลอดเวลาที่ได้ชมภาพยนตร์ นี่เป็นภาพยนตร์ ‘Godzilla’ อย่างที่ควรจะเป็น และอาจได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นภาพยนตร์ ‘Godzilla’ ที่ดีที่สุดตลอดกาลด้วย”
‘Godzilla Minus One’ เป็นภาพยนตร์ ‘Godzilla’ ภาษาญี่ปุ่นเรื่องที่ 33 ที่สร้างโดย Toho Co., Ltd. โดยย้อนกลับไปใช้บรรยากาศประเทศญี่ปุ่นช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่สังคมญี่ปุ่นกำลังตกอยู่ในสภาวะเป็นศูนย์จากการพ่ายแพ้สงคราม และการปรากฏตัวของ Godzilla (จากฝีมือการทำเอฟเฟกต์ระดับสุดยอดของยามาซากิด้วยเช่นกัน) ก็ทำให้ประเทศต้อเผชิญกับสถานการณ์ “ติดลบ” ในทุก ๆ ด้าน
นั่นตรงกับชื่อเรื่องว่า ‘Minus One’ และเป็นกลับมาสู่การเปรียบเปรยทางสังคมที่ลึกซึ้งเช่นเดียวกับภาพยนตร์ ‘Gojira’ หรือ ‘Godzilla’ เวอร์ชันต้นฉบับเมื่อปี 1954 ของผู้กำกับ อิชิโระ ฮอนดะ (Ishirô Honda)
หากไม่นับรวมภาพยนตร์ ‘Godzilla’ ในจักรวาล ‘Monsterverse’ ของฮอลลีวูดที่เริ่มต้นตั้งแต่ ‘Godzilla’ เมื่อปี 2014 ของเอ็ดเวิร์ดส์แล้วนั้น ‘Godzilla Minus One’ เป็นภาพยนตร์ ‘Godzilla’ ภาษาญี่ปุ่นเพียงเรื่องที่ 2 ถัดจาก ‘Shin Godzilla’ (2016) ที่เป็นเรื่องแรกถัดจาก ‘Godzilla Final War’ เมื่อปี 2004 โดย ‘Shin Godzilla’ นั้น ได้คะแนนบน Rotten Tomatoes ถึง 86% และทำรายได้ทั่วโลกไปถึง 78 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 15 ล้านเหรียญ ซึ่งถือว่าน่าประทับใจไม่แพ้ภาพยนตร์ในจักรวาล ‘Monsterverse’ เลย
นั่นเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สร้างพื้นฐานให้ ‘Godzilla Minus One’ ได้อย่างเข้มแข็งโดยไม่ต้องอาศัยอยู่ภายใต้เงาของภาพยนตร์เวอร์ชันฮอลลีวูดเลย
ที่มา : ScreenRant
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส