แม้ ‘Captain Marvel’ (2019) หนังซูเปอร์ฮีโรพลังหญิงเรื่องแรกของ Marvel Studios ที่เป็นการแนะนำตัวละครกัปตันมาร์เวล หรือ แครอล เดนเวอร์ส (Carol Danvers) เข้าสู่ MCU อย่างเป็นทางการ จะเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จไม่น้อยทั้งในเชิงรายได้และคำวิจารณ์ไม่น้อย

แต่ด้วยกระแสการต่อต้านความเป็นเฟมินิสต์ของแฟนคลับบางกลุ่ม รวมทั้งกระแสความเกลียดชังตัวของลาร์สันเอง รวมทั้งการกระหน่ำกดรีวิวหนังให้ต่ำลง ทำให้เธอถูกโจมตีอย่างหนัก จนเกือบจะทำให้เธอถอดใจจากการรับบทซูเปอร์ฮีโรที่มีพลังมากที่สุดคนหนึ่งของ MCU ไปแล้ว

เรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยใน ‘MCU: The Reign of Marvel Studios’ หนังสือรวมเบื้องหลังภาพยนตร์ของ Marvel Studios ที่เขียนโดย โจแอนนา โรบินสัน (Joanna Robinson), เดฟ กอนซาเลส (Dave Gonzales) และ เกวิน เอ็ดเวิร์ดส์ (Gavin Edwards) โดยข้อมูลส่วนหนึ่งได้เปิดเผยถึงผลกระทบของการจากไปของเหล่าบรรดานักแสดงซูเปอร์ฮีโรที่เคยสร้างชื่อเสียงเอาไว้ในอดีต รวมทั้งยังลงท้ายถึงความรู้สึกที่ลาร์สันมีต่อบทบาทของเธอเอง

“อนาคตของเหล่าไอคอนแห่ง Marvel เหล่านั้นยังไม่มีความชัดเจนใด ๆ การจากไปของเสาหลักแห่งแฟรนไชส์อย่าง โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ (Robert Downey Jr.), คริส อีแวนส์ (Chris Evans) และ สการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน (Scarlett Johansson) นั้นได้ส่งผลกระทบเสียหายไปแล้ว เช่นเดียวกับการสูญเสีย แชดวิก โบสแมน (Chadwick Boseman) ที่น่าตื่นตกใจ”

Captain Marvel Brie Larson

“ในขณะที่ผู้ที่แข็งแกร่งคนอื่น ๆ ใน MCU ต่างมุ่งหน้าสู่บทอวสานของตนเอง นักแสดง ‘Guardians of the Galaxy’ ได้จากลาและออกเดินทางไปแล้ว และ Marvel ก็กำลังเปิดศึกแย่งชิงตัว ทอม ฮอลแลนด์ (Tom Holland) กับทาง Sony ในขณะที่ บรี ลาร์สัน เองก็เริ่มไม่แยแสกับบทบาทของตัวเองเช่นกัน”

นอกจากนี้ โจแอนนา โรบินสัน หนึ่งในผู้เขียนหนังสือเล่มดังกล่าว ยังได้ยืนยันและอธิบายเพิ่มเติมกับพอดแคสต์ ‘The Watch’ ถึงกระแสที่เป็นพิษจากแฟนคลับบางกลุ่ม ที่ทำให้ลาร์สัน ‘ไม่แยแส’ ต่อบทบาท Captain Marvel ของเธออีกต่อไป

“(Marvel Studios) ได้วางตัว บรี ลาร์สัน เอาไว้ในตำแหน่งที่สำคัญมาก ๆ ของ MCU ฉันเองก็ไม่รู้ว่าลาร์สันเองจะเหมาะสมกับบทบาทนี้หรือไม่ แต่ด้วยการตอบโต้ที่เป็นพิษรุนแรง ก็ทำให้ บรี ลาร์สัน เองไม่อยากจะรับบทเป็น แครอล เดนเวอร์ส อีกต่อไปแล้ว”

ก่อนจะแจ้งเกิดจากการรับรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์จากหนังดราม่าอินดี้เรื่อง ‘Room’ (2016) ก่อนหน้าที่เธอเคยออดิชันหนังของ Marvel ทั้ง ‘Iron Man 2’ (2010) และ ‘Thor’ (2011) มาแล้ว จนกระทั่ง Marvel Studios ได้ติดต่อให้เธอรับบทเป็น Captain Marvel แต่เธอกลับปฏิเสธไปถึง 3 ครั้ง แต่สุดท้ายเธอก็ตอบตกลง หลังจากที่รู้ว่าตัวหนังมีการพูดในประเด็นเฟมินิสต์เอาไว้ด้วย

Captain Marvel Brie Larson

แต่วิบากกรรมกระแสดราม่าก็ท่วมท้นตั้งแต่ยังไม่ทันได้ฉาย เพราะแฟนคลับบางส่วนต่างแสดงความคิดเห็นว่าเธอเองไม่เหมาะกับบทบาทนี้ ถึงขั้นก่อกวนด้วยการก่อกวนด้วยการกดคะแนนฟีเจอร์ Want to see บนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ให้ต่ำลงจนทางเว็บไซต์ต้องปิดฟีเจอร์นี้ทิ้งไป หรือแม้แต่โจมตีเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการกล่าวอ้างแบบไม่มีมูลว่าเธอแสดงไม่เก่ง (ทั้งที่ได้ออสการ์) หรือดูเป็นคนหยิ่งก็ตาม

แต่ที่เรียกได้ว่าทัวร์ลงจริง ๆ คือการที่เธอได้ออกมาให้สัมภาษณ์เรียกร้องเกี่ยวกับการเดินสายประชาสัมพันธ์หนัง ‘Captain Marvel’ ว่า ในวงการประชาสัมพันธ์และการวิจารณ์หนัง มักจะมีแต่ผู้ชายผิวขาวเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ลาร์สันออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เธอไม่ต้องการจะเห็นแค่ผู้ชายผิวขาวในการสัมภาษณ์ หรือในงานฉายหนังรอบพรีเมียร์เท่านั้น แต่เธออยากจะเห็นความหลากหลายทางเพศ สีผิว และเชื้อชาติในวงการนี้ให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งแนวคิดนี้ของเธอก็ทำให้หลายคนออกมาแสดงความเห็นด้วย รวมทั้งวิพากษ์วิจารณ์และแสดงความหมั่นไส้มากพอสมควร

ก่อนที่ลาร์สันจะกลับมาอีกครั้งในหนังภาคต่อ ‘The Marvels‘ ที่กำลังจะฉายเร็ว ๆ นี้ ในหนังสือ ‘MCU: The Reign of Marvel Studios’ ยังได้ระบุข้อมูลน่าสนใจว่า เควิน ไฟกี (Kevin Feige) ประธานของ Marvel Studios ต้องการวางให้หนัง ‘Avengers: Secret Wars’ เป็นหนังที่จะทำหน้าที่เป็นตัวรีบูตจักรวาล MCU แบบกลาย ๆ

ซึ่งจะเอื้ออำนวยให้ Marvel Studios สามารถนำเอาคาแรกเตอร์จากทีม Avengers ยุค Infinity Wars เช่น กัปตันอเมริกา (Captain America), ไอรอนแมน (Iron Man) รวมทั้งเปิดตัว Fantastic Four และ X-Men เข้ามาสู่ MCU อย่างเป็นทางการ ในขณะที่จะเป็นการตัดบางสิ่งที่ใช้ไม่ได้ออกไปด้วย ซึ่งก็อาจจะหมายถึงตัวละคร Captain Marvel ในกรณีที่ลาร์สันเองไม่สนสี่สนแปดที่จะกลับมารับบทนี้อีกต่อไป


ที่มา: Screen Rant, CBR

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส