ดเวย์น “เดอะ ร็อค” จอห์นสัน (Dwayne “The Rock” Johnson)ซูเปอร์สตาร์ฮอลลีวูดเผยว่า เขาถูกทาบทามจากหลายพรรคการเมืองให้ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในช่วงปีหน้านี้
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ จอห์นสันมีบทบาทมากมายในสายตาสาธารณชน ทั้งการเป็นนักแสดง ผู้อำนวยการสร้าง นักธุรกิจ และนักมวยปล้ำ แต่ก็ยังมีอีกบทบาทหนึ่งที่แฟน ๆ อยากเห็นจากเขาก็คือ “นักการเมือง” และบางคนก็เสนอแนะว่าเขาควรลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา แม้ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ จอห์นสันจะยืนกรานปฎิเสธว่าเขาไม่สนใจแนวคิดนี้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีบางพรรคการเมืองที่ยังคงตามคะยั้นคะยอเขา
ล่าสุด จอห์นสันไปร่วมพูดคุยในรายการพอดแคสต์ ‘What’s Now’ ของ เทรเวอร์ โนอาห์ ในรายการนี้จอห์นสันเผยว่าเขาได้รับ “การเยี่ยมเยียน” จากหลายพรรคการเมือง ซึ่งทุกพรรคต่างก็ชักชวนให้จอห์นสันลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี
“มันเป็นผลการสำรวจที่น่าสนใจมากครับ และผมรู้สึกตื้นตันจริง ๆ ผมนี่ปลาบปลื้มสุด ๆ ไปเลยที่ผมได้รับเกียรติอันนี้ ผมจะเล่าอะไรให้คุณฟังหน่อยแล้วกัน เมื่อตอนสิ้นปี 2022 น่ะ มีตัวแทนจากหลายพรรคการเมืองแวะมาหาผมแล้วถามผมว่าถ้าผมสามารถลงสมัครเลือกตั้งได้ ผมสนใจจะลงไหม ? “
จอห์นสันย้อนเล่าว่าเขาได้รับการทาบทามแบบที่ “ไม่เคยคาดคิดมาก่อน” และบรรดาตัวแทนเหล่านั้นก็ยังนำผลการสำรวจ ผลการวิจัยว่า ผลจะเป็นอย่างไรถ้าหาก เขาลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
“มันเป็นเรื่องใหญ่จริง ๆ ครับ และมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแบบที่ผมไม่ทันตั้งตัว แล้วก็มาแบบต่อเนื่องติด ๆ กัน พวกเขาหยิบผลสำรวจมาให้ผมดู แล้วยังมีบทวิจัยเชิงลึกมาอีกด้วย ซึ่งเป็นข้อมูลสนับสนุนว่าผมควรจะเลือกเดินสายการเมือง เพราะผมคือคู่แข่งตัวจริง ทุกอย่างมันฟังดูเหนือจริงมาก เพราะเส้นทางการเมืองไม่เคยเป็นเป้าหมายชีวิตผมมาก่อนเลย ผมไม่เคยสนใจการเมืองเลย เอาจริง ๆ แล้ว มีเรื่องเกี่ยวกับการเมืองมากมายที่ผมเกลียด”
ก่อนหน้านี้ ดเวย์น จอห์นสัน เคยให้สัมภาษณ์กับรายการ CBS Sunday Morning เมื่อปี 2022 เขากล่าวว่าหน้าที่ของเขาในฐานะพ่อต้องมาก่อนเรื่องความทะเยอะทะยานใด ๆ เกี่ยวกับการเมือง
“มันเป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือความสนใจผมเลย ผมจะอธิบายแบบนี้แล้วกัน เพราะว่าผมมีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่า ผมรักประเทศของเรานะ แล้วก็รักทุก ๆ คนในประเทศนี้ แต่ผมก็รักบทบาทการเป็นพ่อคนด้วย และเรื่องนี้ล่ะที่ผมยกให้เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ก็คือการเป็นพ่อ คือบทบาทหน้าที่อันดับ 1 เลย โดยเฉพาะในช่วงนี้ด้วย มันเป็นช่วงเวลาสำคัญในชีวิตลูกสาวผมเลยล่ะ เพราะผมรู้ดีว่าชีวิตที่ต้องเดินทางไปไหนมาไหนตลอดเวลามันเป็นอย่างไรและชีวิตผมยุ่งมาก ทำให้ตัวผมต้องหายไปจากชีวิตลูกอยู่หลายปี ในช่วงที่เธอกำลังเติบโต และมันเป็นช่วงวัยที่สำคัญและเป็นช่วงเวลาสำคัญในชีวิตของเธอเลยด้วย”
แม้ว่าบทบาทการเป็นซูเปอร์ฮีโรของ ดเวย์น จอห์นสัน จะสิ้นสุดลงไปแล้ว หลังจาก ‘Black Adam’ ไม่ประสบความสำเร็จ แต่ถึงอย่างนั้น จอห์นสันก็ยังเป็นนักแสดงที่งานชุกที่สุดในฮอลลีวูดอยู่ดี เขามีโปรเจกต์หนังในอนาคตรอคิวอยู่ถึง 10 เรื่อง มีทั้งระหว่างถ่ายทำ เตรียมการสร้าง และถ่ายทำเสร็จแล้ว ส่วนใหญ่เป็นหนังภาคต่อ อย่างเช่น ‘Jungle Cruise 2’, ‘Red Notice 2’, ‘San Andreas 2’ และ ‘Fast X – 2’ และเร็วสุดก็คือปลายปีนี้ ที่เราจะได้ดู ‘Red One’ หนังคอมเมดี้ที่จอห์นสันจะประกบคู่กับ คริส อีแวนส์
ที่มา : movieweb